ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์หลัง ป.ป.ช. ตีตกสำนวนนาฬิกาหรู พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เทียบคดีตัวเองโดนคุกทันที เย้ยถ้า "ยืม" แล้วรอดไม่สารภาพแน่
จากกรณี ป.ป.ช. แถลงมติเสียงข้างมาก คดีแหวนมารดา - นาฬิกายืมเพื่อน ของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 ให้ พล.อ. ประวิตร รอดคดีดังกล่าว โดยพิจารณาว่าเป็นแหวนจากมรดก และแหวนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีราคาสูงมาก จึงไม่ได้แสดงในบัญชีทรัพย์สิน ส่วนนาฬิกายืมเพื่อนจริงนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 27 ธันวาคม 2561 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ใจความว่า คนอย่างตนมีสิทธิที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะ ป.ป.ช. ส่งตนติดคุกมาแล้วในข้อหามีเจตนา จงใจปกปิดทรัพย์สิน ซึ่งครั้งนั้นตน ลืมรายงานหุ้นเป็นเงินแค่ 150,000 บาท สมัยก่อนให้เงินนักร้องยังมากกว่านี้ แต่จะพูดแก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น สุดท้ายก็ต้องคอตกติดคุก
นายชูวิทย์ ระบุอีกว่า แต่จากกรณีที่ ป.ป.ช. สอบเรื่องนาฬิกาหรูแล้ว สรุปว่า นาฬิกาเป็นของเพื่อนจริง ๆ (แม้ว่าเพื่อนตายไปแล้ว), นาฬิกาไม่ใช่ของบิ๊กป้อมจริง ๆ (เพราะเก็บอยู่ที่บ้านเพื่อน), นาฬิกาให้เพื่อนคนอื่นยืมด้วยจริง ๆ (ไม่ใช่แค่เพื่อนชื่อป้อม), นาฬิกาเป็นของเคลื่อนย้ายง่ายจริง ๆ (ชักงง อะไรที่มันเคลื่อนย้ายยากวะ ? ), นาฬิกาไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนจริง ๆ (แม่-เรือนละเป็นสิบ ๆ ล้าน) อ่านแล้วอย่าไปซีเรียส ป.ป.ช. สอบมาตั้งนานได้แค่นี้จริง ๆ
นายชูวิทย์ ทิ้งท้ายว่า (ผลสอบนาฬิกาหรู) มันเป็นกฎหมายพิเศษ คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่เข้าใจจริง ๆ นี่ถ้ารู้ว่า "ยืม" แล้วรอดแบบนี้ ตนไม่สารภาพให้ติดคุกจริง ๆ แหม... คิดแล้วมันช่างน่าเจ็บใจเสียจริง ๆ
![ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์]( "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
จากกรณี ป.ป.ช. แถลงมติเสียงข้างมาก คดีแหวนมารดา - นาฬิกายืมเพื่อน ของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 ให้ พล.อ. ประวิตร รอดคดีดังกล่าว โดยพิจารณาว่าเป็นแหวนจากมรดก และแหวนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีราคาสูงมาก จึงไม่ได้แสดงในบัญชีทรัพย์สิน ส่วนนาฬิกายืมเพื่อนจริงนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 27 ธันวาคม 2561 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ใจความว่า คนอย่างตนมีสิทธิที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะ ป.ป.ช. ส่งตนติดคุกมาแล้วในข้อหามีเจตนา จงใจปกปิดทรัพย์สิน ซึ่งครั้งนั้นตน ลืมรายงานหุ้นเป็นเงินแค่ 150,000 บาท สมัยก่อนให้เงินนักร้องยังมากกว่านี้ แต่จะพูดแก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น สุดท้ายก็ต้องคอตกติดคุก
นายชูวิทย์ ระบุอีกว่า แต่จากกรณีที่ ป.ป.ช. สอบเรื่องนาฬิกาหรูแล้ว สรุปว่า นาฬิกาเป็นของเพื่อนจริง ๆ (แม้ว่าเพื่อนตายไปแล้ว), นาฬิกาไม่ใช่ของบิ๊กป้อมจริง ๆ (เพราะเก็บอยู่ที่บ้านเพื่อน), นาฬิกาให้เพื่อนคนอื่นยืมด้วยจริง ๆ (ไม่ใช่แค่เพื่อนชื่อป้อม), นาฬิกาเป็นของเคลื่อนย้ายง่ายจริง ๆ (ชักงง อะไรที่มันเคลื่อนย้ายยากวะ ? ), นาฬิกาไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนจริง ๆ (แม่-เรือนละเป็นสิบ ๆ ล้าน) อ่านแล้วอย่าไปซีเรียส ป.ป.ช. สอบมาตั้งนานได้แค่นี้จริง ๆ
นายชูวิทย์ ทิ้งท้ายว่า (ผลสอบนาฬิกาหรู) มันเป็นกฎหมายพิเศษ คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่เข้าใจจริง ๆ นี่ถ้ารู้ว่า "ยืม" แล้วรอดแบบนี้ ตนไม่สารภาพให้ติดคุกจริง ๆ แหม... คิดแล้วมันช่างน่าเจ็บใจเสียจริง ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
