หนุ่มเล่าโมเมนต์ระทึก 9 ชีวิตติดลิฟต์ ไฟดับ-พัดลมเสีย-ปุ่มฉุกเฉินพัง ไร้คนช่วย

          หนุ่มแชร์ประสบการณ์สุดเลวร้าย ติดอยู่ในลิฟต์ค้างพร้อมคนอื่น 8 คน ปุ่มฉุกเฉินพัง ใช้การไม่ได้ โทร. หาบริษัทลิฟต์ก็ไร้คำตอบ แถมไฟดับ พัดลมเสีย ยืนหวาดผวากันในความมืด ง้างประตูลิฟต์ออก ก็เจอแต่กำแพง ระทึกราวกับหนังฝรั่ง

          เชื่อว่าหลายคน คงเคยใช้บริการลิฟต์ในสถานที่ต่าง ๆ กันอยู่บ่อย ๆ  ทั้งลิฟต์ที่มหาวิทยาลัย ลิฟต์ภายในห้างสรรพสินค้า ลิฟต์ในที่ตึกที่ทำงาน ไปจนถึงลิฟต์ตามโรงแรม หรือลิฟต์ในที่พักอาศัย อย่างคอนโดมิเนียม หรืออพาร์ตเมนต์  แต่มันก็มีบ้างเป็นบางครั้งที่การใช้ลิฟต์ได้กลายเป็นความสะพรึงมากกว่าความสะดวก มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และไม่อยากพบเจอ นั่นก็คือ ลิฟต์ค้าง ยิ่งคนที่กลัวที่แคบด้วยแล้ว การติดอยู่ในลิฟต์มันช่างเป็นอะไรที่เลวร้ายสุด ๆ ติดคนเดียวก็หลอน ติดพร้อมเพื่อนก็เครียด ติดหลาย ๆ คนยิ่งปวดตับ ดังเช่นประสบการณ์ที่ชายหนุ่มคนนี้พบเจอ....

          เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2561 ชายหนุ่มดังกล่าวได้โพสต์เล่าประสบการณ์สยองขวัญในวันติดลิฟต์ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาพบเจอ บนเฟซบุ๊ก Warunyoo Ketchu โดยเขาและเพื่อน ๆ ได้นัดไปสังสรรค์กันที่ร้าน ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของตึกแห่งหนึ่งในย่านสนามเป้า เมื่อเดินเข้าตึกเห็นว่ามีคนรอใช้ลิฟต์เป็นจำนวนมาก จึงเดินขึ้นบันได้กันไป บรรยากาศเป็นไปอย่างเปล่าเปลี่ยววังเวง เพราะยิ่งสูงก็ยิ่งมืดลงเรื่อย ๆ จนถึงกับต้องเปรยออกมาว่าน่ากลัวมาก แต่ทั้งกลุ่มไม่ได้ไปถึงชั้นบนสุด เพราะบันไดไปหยุดที่ทางตัน จึงเดินลงบันไดย้อนกลับมา พบว่าชั้น 3 มีร้านเพลงสไตล์เกาหลี ทุกคนสนใจอยากเข้าไป แต่ตั้งใจว่าจะไปร้านที่ชั้นบนก่อน และพากันไปขึ้นลิฟต์ โดยมีคนใช้ลิฟต์ไปด้วยกันหลายคน คือ ผู้โพสต์และเพื่อนอีก 3 คน พนักงานของร้าน 1 คน และคนอื่นอีก 4 คน รวมเป็น 9 คน


          เมื่อทุกคนเข้าไปในลิฟต์ และประตูปิดแล้ว ความระทึกก็เริ่มต้นขึ้น โดยลิฟต์เหมือนจะขยับขึ้นไปข้างบน แต่อยู่ดี ๆ ก็กระตุกลงมาด้านล่าง ทุกคนในลิฟต์ต่างก็ตกอกตกใจ รีบกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อติดต่อคนคนด้านนอก แต่กลับพบว่าปุ่มเสีย ไม่สามารถใช้การได้ ความตกใจเริ่มกลายเป็นความอกสั่นขวัญแขวน แต่ละคนต่างก็พยายามโทร.หาเจ้าของร้านเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารติดต่อได้ จึงโทร. ไปยังหมายเลขฉุกเฉินภายในลิฟต์ พบว่าไม่มีใครรับสาย แต่ประมาณ 20 นาทีต่อมา ทางบริษัทลิฟต์ได้ติดต่อกลับมาหา บอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง ทุกคนก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ความสบายใจก็หายไป เพราะไม่มีใครติดต่อกลับมาอีกเลย 9 ชีวิตในลิฟต์ ต่างก็กระวนกระวาย ร้อน อึดอัด และเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ได้แต่ปลอบใจกันว่า สักพักคงมีคนมาช่วย


          หลังจากไร้วี่แววคนช่วยเหลือ คนในลิฟต์จึงง้างประตูออก เหมือนที่เห็นบ่อย ๆ ในหนังฝรั่ง แต่ก็พบกับกำแพงอันแสนจะว่างเปล่า ไร้ทางออก คนหนึ่งยื่นหน้าออกไปมองตรงช่องวง พบว่าลิฟต์ตกมาชั้น 2 และระบบก็ล็อกค้างไว้ตรงนั้น เมื่อตะโกนถามคนข้างล่างก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าให้ใจเย็น ๆ รอไปก่อน และแล้วสถานการณ์ก็มาสู่จุดไคลแมกซ์ เมื่อเวลาผ่านไป 40 นาที ไฟและพัดลมในลิฟต์ก็ดับลง เจ้าหน้าที่จากบริษัลลิฟต์มาถึงแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ 9 ชีวิตต้องยืนกันอย่างหวาดผวาในความมืดอีกกว่า 1 ชั่วโมง จนตัดสินใจปีนลอดช่องแคบ ๆ ออกไปกันอย่างทุลักทุเล และมาพบคำตอบในภายหลังว่าลิฟต์ค้างเพราะน้ำหนักเกิน


          ผู้โพสต์กล่าวอีกว่า นอกจากการติดในลิฟต์จะทำให้รู้สึกแย่แล้ว การแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่ยิ่งทำให้รู้สึกแย่ลงไปอีก เพราะไม่มีใครมาช่วยเหลือ มาถึงแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ แถมไม่มีการให้คำแนะนำใด ๆ ว่าควรทำอย่างไร จนสุดท้ายต้องเสี่ยงชีวิตปีนกันออกไปเอง และเมื่อโพสต์แชร์เรื่องลงโซเชียล ทางผู้ดูแลตึกกลับติดต่อมาให้ลบโพสต์ทิ้งอีกด้วย นับเป็นประสบการณ์สุดเลวร้ายที่ลืมไม่ลง หลังจากนี้คงหลอนทุกครั้งที่ใช้ลิฟต์ เพราะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกหรือไม่


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนุ่มเล่าโมเมนต์ระทึก 9 ชีวิตติดลิฟต์ ไฟดับ-พัดลมเสีย-ปุ่มฉุกเฉินพัง ไร้คนช่วย โพสต์เมื่อ 30 ธันวาคม 2561 เวลา 14:02:41 36,090 อ่าน
TOP
x close