แม่ร้องเรียน ครูพละลวงลูกสาว ม.1 ไปข่มขืน แจ้งความแล้วยังก่อเหตุอีกหน ซ้ำปล่อยข่าวว่าเด็กหลงรัก แถมยุให้พูดโกหกปมคราบอสุจิ อ้างว่ารักถึงทำแบบนี้
วันที่ 3 มกราคม 2562 สำนักข่าวไทย รายงานกรณีที่ผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ร้องเรียนสื่อหลังลูกสาวถูกครูสอนวิชาพลศึกษา อายุ 40 ปี หลอกลวงไปข่มขืนกระทำชำเราถึง 3 ครั้ง แต่คดีไม่คืบ ซ้ำผู้ก่อเหตุยังได้ประกันตัวในชั้นศาล และยังอยู่ในพื้นที่และยังสอนอยู่ในโรงเรียนเดิม นอกจากนี้ยังมีการไปปล่อยข่าวว่าลูกเป็นเด็กใจแตกและให้ท่าครูเอง จึงต้องการขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว
เด็กหญิงวัย 12 ปี เล่าว่า ตนเป็นนักวิ่งของโรงเรียน เหตุครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2561 ตนนำเอกสารไปหาครูเพื่อทำเรื่องไปแข่งขัน แต่ครูพาขึ้นรถไปจอดแถวบ้านร้างและข่มขืนตนในรถ โดยสั่งว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร แต่ตนเครียดจึงตัดสินใจบอกแม่ ทำให้แม่พาเข้าแจ้งความ ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ครูได้ขับรถเก๋งมาจอดหน้าโรงเรียน บอกว่าจะพาไปพบพ่อแม่เพื่อพูดคุย แต่ครูกลับพาไปที่บึงบริเวณหลังวัดปากคลองมะขามเฒ่า แล้วลงมือก่อเหตุครั้งที่ 2 ในรถเก๋ง และทิ้งตนไว้ตรงนั้นเพื่อกลับไปสอนต่อ ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าไปไหน กระทั่งผ่านไป 2 ชั่วโมง ครูก็ขับรถมารับและพาตนไปที่ค่ายลูกเสือ แล้วลงมือกระทำอีกเป็นครั้งที่ 3 แล้วจึงพาตนกลับมาส่งที่โรงเรียน
ด้าน แม่ของเด็กหญิง บอกว่า หลังแจ้งความแล้ว จึงให้หยุดเรียนไปพักหนึ่ง ต่อมากลัวว่าลูกจะเรียนไม่ทันเพื่อน จึงยอมให้ไปโรงเรียน แต่สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องกับลูกซ้ำอีก ซึ่งต่อมาพบว่าครูผู้ก่อเหตุได้ส่งไลน์มาหาลูกสาว โดยเขียนข้อความในลักษณะเชิงชู้สาว ซ้ำยังบอกให้พูดว่าไม่มีอะไรกัน ครูสำเร็จความใคร่เอง และยังบอกว่ารักและคิดถึง แต่ลูกสาวตอบข้อความให้ครูยอมรับผิดในสิ่งที่ทำ ซึ่งในครั้งนี้ได้นำข้อความดังกล่าวมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับครูรายนี้
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอวัดสิงห์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เทศบาลตำบลวัดสิงห์ จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ เร่งดำเนินคดี อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบร่างกายของเด็ก เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ทางการไม่สามารถย้ายครูออกนอกพื้นที่ได้ เพราะครูอยู่ในสังกัดของท้องถิ่น แต่ตอนนี้ทางเทศบาลได้มีคำสั่งให้ครูมาประจำการที่เทศบาลก่อน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง
![ข่มขืนเด็ก]( "ข่มขืนเด็ก")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 3 มกราคม 2562 สำนักข่าวไทย รายงานกรณีที่ผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ร้องเรียนสื่อหลังลูกสาวถูกครูสอนวิชาพลศึกษา อายุ 40 ปี หลอกลวงไปข่มขืนกระทำชำเราถึง 3 ครั้ง แต่คดีไม่คืบ ซ้ำผู้ก่อเหตุยังได้ประกันตัวในชั้นศาล และยังอยู่ในพื้นที่และยังสอนอยู่ในโรงเรียนเดิม นอกจากนี้ยังมีการไปปล่อยข่าวว่าลูกเป็นเด็กใจแตกและให้ท่าครูเอง จึงต้องการขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว
เด็กหญิงวัย 12 ปี เล่าว่า ตนเป็นนักวิ่งของโรงเรียน เหตุครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2561 ตนนำเอกสารไปหาครูเพื่อทำเรื่องไปแข่งขัน แต่ครูพาขึ้นรถไปจอดแถวบ้านร้างและข่มขืนตนในรถ โดยสั่งว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร แต่ตนเครียดจึงตัดสินใจบอกแม่ ทำให้แม่พาเข้าแจ้งความ ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ครูได้ขับรถเก๋งมาจอดหน้าโรงเรียน บอกว่าจะพาไปพบพ่อแม่เพื่อพูดคุย แต่ครูกลับพาไปที่บึงบริเวณหลังวัดปากคลองมะขามเฒ่า แล้วลงมือก่อเหตุครั้งที่ 2 ในรถเก๋ง และทิ้งตนไว้ตรงนั้นเพื่อกลับไปสอนต่อ ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าไปไหน กระทั่งผ่านไป 2 ชั่วโมง ครูก็ขับรถมารับและพาตนไปที่ค่ายลูกเสือ แล้วลงมือกระทำอีกเป็นครั้งที่ 3 แล้วจึงพาตนกลับมาส่งที่โรงเรียน
ด้าน แม่ของเด็กหญิง บอกว่า หลังแจ้งความแล้ว จึงให้หยุดเรียนไปพักหนึ่ง ต่อมากลัวว่าลูกจะเรียนไม่ทันเพื่อน จึงยอมให้ไปโรงเรียน แต่สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องกับลูกซ้ำอีก ซึ่งต่อมาพบว่าครูผู้ก่อเหตุได้ส่งไลน์มาหาลูกสาว โดยเขียนข้อความในลักษณะเชิงชู้สาว ซ้ำยังบอกให้พูดว่าไม่มีอะไรกัน ครูสำเร็จความใคร่เอง และยังบอกว่ารักและคิดถึง แต่ลูกสาวตอบข้อความให้ครูยอมรับผิดในสิ่งที่ทำ ซึ่งในครั้งนี้ได้นำข้อความดังกล่าวมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับครูรายนี้
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอวัดสิงห์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เทศบาลตำบลวัดสิงห์ จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดสิงห์ เร่งดำเนินคดี อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบร่างกายของเด็ก เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ทางการไม่สามารถย้ายครูออกนอกพื้นที่ได้ เพราะครูอยู่ในสังกัดของท้องถิ่น แต่ตอนนี้ทางเทศบาลได้มีคำสั่งให้ครูมาประจำการที่เทศบาลก่อน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
