ไอ้เอส ลูกทรพีใช้อาวุธมีดฆ่าพ่อตัวเองจนเสียชีวิต ก่อเหตุกระทืบผู้ต้องหาคดียาเสพติดอาการสาหัส คาห้องขัง ตำรวจรับเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่
ภาพจาก สำนักข่าว INN
โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.46 น. วันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นมีผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายฆ่าพ่อตัวเอง ชื่อนายยุทธนา หรือ เอส อายุ 37 ปี ถูกคุมขังอยู่ตั้งแต่คืนวันที่ 4 มกราคม จากนั้นในช่วงบ่ายของวันที่ 5 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้จับกุมตัวนายเชาวลิต อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด มาควบคุมตัวไว้ในห้องขังเดียวกัน โดยที่บริเวณหน้าห้องขังมีสิบเวร เข้าเวรรักษาการณ์ตลอดเวลา ซึ่งหลังจากเข้าห้องขังแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองก็ต่างคนต่างอยู่ นายเอสก็มีท่าทีปกติ และไม่คาดคิดว่านายเอสจะก่อเหตุต่อเนื่องด้วยการทำร้ายผู้ต้องหาด้วยกัน
ภาพจาก สำนักข่าว INN
วันที่ 7 มกราคม 2562 พ.ต.อ. วิโรจน์รัตน์ จั่นประดับ ผกก.สภ.หนองเรือ
จ.ขอนแก่น เรียกประชุมด่วน พ.ต.ท. ปรีชา อุ่นคำ รอง ผกก.(สส.) สภ.หนองเรือ
และ พ.ต.ต. นพวิทย์ เศรษฐนิโรจน์ สว.(สส.) สภ.หนองเรือ
หลังเกิดเหตุผู้ต้องหารุมทำร้ายร่างกายกันภายในห้องขังของ สภ.หนองเรือ
จนมีผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในห้องขัง สภ.หนองเรือ
โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด
โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.46 น. วันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นมีผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายฆ่าพ่อตัวเอง ชื่อนายยุทธนา หรือ เอส อายุ 37 ปี ถูกคุมขังอยู่ตั้งแต่คืนวันที่ 4 มกราคม จากนั้นในช่วงบ่ายของวันที่ 5 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้จับกุมตัวนายเชาวลิต อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด มาควบคุมตัวไว้ในห้องขังเดียวกัน โดยที่บริเวณหน้าห้องขังมีสิบเวร เข้าเวรรักษาการณ์ตลอดเวลา ซึ่งหลังจากเข้าห้องขังแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองก็ต่างคนต่างอยู่ นายเอสก็มีท่าทีปกติ และไม่คาดคิดว่านายเอสจะก่อเหตุต่อเนื่องด้วยการทำร้ายผู้ต้องหาด้วยกัน
พ.ต.อ.
วิโรจน์รัตน์ กล่าวต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
และได้เดินทางเข้าเยี่ยมคนเจ็บพร้อมกับนำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้บิดา-มารดา
ของคนเจ็บดูที่โรงพยาบาล เพื่อยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำร้ายผู้ต้องหา
แต่เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาทำร้ายกัน โดยที่นายเชาวลิตไม่ได้ต่อสู้เลย
ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง
เพื่อให้คลายความคลางแคลงใจที่ญาติอาจจะข้องใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ
เพราะต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีความบกพร่อง
จึงต้องมีคณะกรรมการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และสรุปผลภายใน 15 วัน
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN