ผู้เสียหายจากพนักงานธนาคารกรุงไทยยักยอกเงิน แจ้งความเพิ่ม เผยเงินถูกถอนไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 61 กว่า 3 แสน ชี้เป็นเงินเก็บไว้ส่งลูกเรียน เศร้า.. ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้คืนเมื่อไร
ล่าสุด (9 มกราคม 2562) ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า พบลูกค้าที่ถูกถอนเงินไปจากบัญชีทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนทำธุรกรรมเพิ่มอีก คือ นางสม โอ๊ะเรือนแก้ว ชาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตนไปปรับสมุดบัญชี หลังมีข่าวดังกล่าวจึงพบว่าเงินถูกถอนไปจำนวน 300,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ซึ่งธนาคารก็มีการนำเงินคืนใส่บัญชีให้แล้วพร้อมดอกเบี้ยในวันนั้นที่ไปปรับสมุด แต่คนที่ถอนเงินไป จากการตรวจสอบพบว่าเป็นหลานของตน ซึ่งตนให้สิทธิ์ธนาคารดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
ขณะที่ นางกนกพร
บุญถนอม ผู้เสียหายอีกราย รายนี้คือเหยื่อที่ถูกพนักงานยักยอกเงินไป
เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เงินจำนวน 352,000 บาท เป็นเงินที่ตนเก็บมาทั้งชีวิต
เพื่อจะไว้ใช้ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย
แต่หลังเห็นข่าวจึงนำสมุดไปปรับเมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา
กลับพบว่าสมุดไม่สามารถปรับได้ แต่รู้ว่าเงินถูกถอนไปตั้งแต่วันที่ 14
สิงหาคม 2561 แล้ว ซึ่งทางธนาคารก็อ้างว่าจะทยอยคืนเงินให้
แต่ต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะคืนเงินให้ครบเมื่อไร
ทั้งนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ. สมาน จิตบุญ ผกก.สภ.ปาย เปิดเผยว่า ทางธนาคารได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุแล้ว
สืบเนื่องจากกรณีหนุ่มโพสต์ร้องเรียนเงินแม่หายไปจากบัญชี 290,000 บาท
ทั้งที่ไม่ได้ทำธุรกรรม จนกลายเป็นข่าวดัง ซึ่งต่อมาทางธนาคารกรุงไทย
เจ้าของบัญชีก็ได้ออกมาชี้แจงแล้ว
หลังตรวจสอบพบว่าเงินดังกล่าวหายไปไม่ใช่เกิดจากระบบของธนาคาร
แต่ถูกพนักงานยักยอกไป ซึ่งก็ได้มีการลงโทษด้วยการสั่งพักงานแล้วนั้น
ทว่าในเวลาต่อมาพบว่ามีประชาชนออกมาเปิดเผยว่า
เงินเก็บในบัญชีหายด้วยเช่นกัน ขณะนี้มีรวมแล้ว 13 ราย
ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : เดลินิวส์ออนไลน์ เผย
มีเหยื่อเงินหายในบัญชีอีก 13 ราย ล่าสุดพนักงานโดนลงดาบ)
ล่าสุด (9 มกราคม 2562) ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า พบลูกค้าที่ถูกถอนเงินไปจากบัญชีทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนทำธุรกรรมเพิ่มอีก คือ นางสม โอ๊ะเรือนแก้ว ชาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตนไปปรับสมุดบัญชี หลังมีข่าวดังกล่าวจึงพบว่าเงินถูกถอนไปจำนวน 300,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ซึ่งธนาคารก็มีการนำเงินคืนใส่บัญชีให้แล้วพร้อมดอกเบี้ยในวันนั้นที่ไปปรับสมุด แต่คนที่ถอนเงินไป จากการตรวจสอบพบว่าเป็นหลานของตน ซึ่งตนให้สิทธิ์ธนาคารดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
เช่นเดียวกับ
นายพงษ์ศักดิ์ จ่าเหว่ ผู้เสียหายอีกราย
รายนี้ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย
ก่อนเดินทางไปยังธนาคารพร้อมตำรวจ เพื่อทำการปรับสมุดบัญชี
ซึ่งทางธนาคารก็นำเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยแล้วเช่นกัน
ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์
ทั้งนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ. สมาน จิตบุญ ผกก.สภ.ปาย เปิดเผยว่า ทางธนาคารได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก