ศาลสั่งจำคุก 1 เดือน หนุ่มเมสเซนเจอร์ขี่รถบนทางเท้าชนนักเรียนบาดเจ็บ สารภาพเปลี่ยนเป็นกักขังแทน ไม่รออาญา เหตุไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390, พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43 ให้จำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 เดือน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังเป็นเวลา 1 เดือน (กักขังในสถานที่กักขัง ซึ่งไม่ใช่เรือนจำ) เมื่อศาลพิเคราะห์รายงานสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้ว เห็นว่าทางเท้าใช้เป็นที่สำหรับคนเดิน โดยกฎหมายดังกล่าวห้ามขับขี่รถบริเวณทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ดังนั้นการที่จำเลยขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วบนทางเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้ใช้ทางเท้า จนเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้เสียหายซึ่งเดินบนทางเท้าได้รับอันตรายแก่กาย ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลย
อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายภูวดลไประหว่างจะอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 18,000 บาท ซึ่งจำเลยได้นำเงินสดมาวางเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว
วันนี้ (23 มกราคม 2562) ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 2 (รัชดา) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายภูวดล ศรีสำโรง อายุ 23 ปีเศษ อาชีพรับ-ส่งเอกสาร (เมสเซนเจอร์) ขี่รถจักรยานยนต์ชนเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนบดินทรเดชา 3 บนทางเท้าได้รับบาดเจ็บ ในความผิดฐานผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและจิตใจ และข้อหาอื่น
จากกรณี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 จำเลยได้ขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน 6 กฎ 6283 กทม. ไปตาม ถ.ลาดพร้าว จากทาง ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าไปทาง ซ.ลาดพร้าว 112 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังที่ต้องมีตามวิสัย ซึ่งจำเลยได้ขี่รถมาตาม ถ.ลาดพร้าว ด้วยความเร็ว เมื่อไปถึงบริเวณป้ายรถประจำทางใกล้ปากซอยลาดพร้าว 69 ได้ชนเด็กนักเรียน ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดที่สะโพก และแผลถลอกที่บริเวณขาทั้งสองข้าง
จากกรณี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 จำเลยได้ขี่รถจักรยานยนต์ ทะเบียน 6 กฎ 6283 กทม. ไปตาม ถ.ลาดพร้าว จากทาง ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าไปทาง ซ.ลาดพร้าว 112 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังที่ต้องมีตามวิสัย ซึ่งจำเลยได้ขี่รถมาตาม ถ.ลาดพร้าว ด้วยความเร็ว เมื่อไปถึงบริเวณป้ายรถประจำทางใกล้ปากซอยลาดพร้าว 69 ได้ชนเด็กนักเรียน ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดที่สะโพก และแผลถลอกที่บริเวณขาทั้งสองข้าง
ดังนั้นการที่จำเลยขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วบนทางเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของจำเลยแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้ใช้ทางเท้า จนเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้เสียหายซึ่งเดินบนทางเท้าได้รับอันตรายแก่กาย ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลย
อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายภูวดลไประหว่างจะอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 18,000 บาท ซึ่งจำเลยได้นำเงินสดมาวางเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว