สถาบันโรคผิวหนัง ฝากเตือนกลุ่มคนฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ ควรเลี่ยงอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM2.5 เกินเกณฑ์ ชี้ ฝุ่นจิ๋วทำให้เกิดอาการบวมแดง หน้าอักเสบ ถึงขั้นเสียทรงได้ ยิ่งคนฉีดฟิลเลอร์มาใหม่ ๆ ควรเลี่ยงโดนฝุ่นอย่างน้อย 2 สัปดาห์
![เตือน ! คนฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ ควรเลี่ยงฝุ่น PM2.5 ชี้ ทำหน้าอักเสบ-เสียทรง]( "เตือน ! คนฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ ควรเลี่ยงฝุ่น PM2.5 ชี้ ทำหน้าอักเสบ-เสียทรง")
ภาพจาก James Apisit / Shutterstock.com
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ฉีดฟิลเลอร์ หากมีอาการคัน พยายามอย่าเกาเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสียทรงได้ ส่วนโบท็อกซ์อาการจะคล้ายกัน แต่จะไม่เสียทรงเหมือนฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นอาการอักเสบเท่านั้น
![เตือน ! คนฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ ควรเลี่ยงฝุ่น PM2.5 ชี้ ทำหน้าอักเสบ-เสียทรง]( "เตือน ! คนฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ ควรเลี่ยงฝุ่น PM2.5 ชี้ ทำหน้าอักเสบ-เสียทรง")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก James Apisit / Shutterstock.com
วันที่ 24 มกราคม 2562 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวถึงผลกระทบของฝุ่นละออง PM2.5 ที่กำลังเป็นวิกฤตในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่า ฝุ่นละอองดังกล่าวมีผลต่อผิวหนังของคน โดยจะก่อให้เกิดโรคหลัก ๆ คือ โรคลมพิษและโรคผื่นภูมิแพ้ รวมถึงกลุ่มคนที่มีการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ อีกด้วย เนื่องจากโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบนใบหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาจนมีอาการบวมแดงขึ้นได้
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ฉีดฟิลเลอร์ หากมีอาการคัน พยายามอย่าเกาเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสียทรงได้ ส่วนโบท็อกซ์อาการจะคล้ายกัน แต่จะไม่เสียทรงเหมือนฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นอาการอักเสบเท่านั้น
ดังนั้น อยากฝากเตือนคนกลุ่มนี้ ควรเลี่ยงอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือหากทำไม่ได้ ก็ลดปริมาณการสัมผัส เช่น สวมใส่หน้ากาก พร้อมแนะนำเมื่อถึงบ้านก็ให้รีบล้างหน้า อาบน้ำ ใช้สบู่ปกติ ไม่ต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อก็ได้ อีกทั้งสวมเสื้อแขนยาวก็ช่วยปกป้องได้อีกทาง สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์มาใหม่ ๆ ควรหลีกเลี่ยงฝุ่นอย่างน้อย 2 สัปดาห์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
