นางแบบสาวจีนเผย เส้นทางชีวิตการทำงานพัง เหตุได้รับผลกระทบหนัก หลังถ่ายโฆษณาแบรนด์ดัง Dolce & Gabbana เหยียดเชื้อชาติจีน โพสต์ขอโทษและขอโอกาส
จนวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา นางแบบสาวได้โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์เว่ยป๋อ ระบุว่า เธอเพิ่งเรียนจบและทำงานเป็นนางแบบเต็มตัว ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอจะมาเป็นที่จดจำของผู้คนในรูปแบบนี้ ทั้งนี้เธอยังเผยว่า ในการคัดตัวนักแสดงครั้งก่อนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เธอไม่คุ้นเคยกับแบรนด์ดังกล่าว และทราบเรื่องราวเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้น้อยมากว่าทำเกี่ยวกับเรื่องอะไร รู้เพียงแต่ว่าจะเป็นการถ่ายโปรโมตแบบ "ขำ ๆ" มากกว่าจะดูเป็นการโฆษณาทางการค้า
ภาพจาก Instagram dolcegabbana
จากนั้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561
เธอก็ได้เริ่มถ่ายทำในร้านอาหารจีน
ซึ่งตอนนั้นเธอก็ประหลาดใจที่เห็นว่าเธอเป็นนางแบบคนเดียว
ผู้คนในกองส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาลี
มีผู้กำกับที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คอยคุยสื่อสารกับเธอ
บอกให้เธอใช้ตะเกียบคีบแคนโนลี (ขนมอิตาเลียน)
ภาพจาก Instagram dolcegabbana
นอกจากนี้ นางแบบสาวยังเผยว่า ทางผู้กำกับได้โน้มน้าวให้เธอแสดงท่าทางตกใจและเขินอาย เอามือขึ้นมาปิดปากพร้อมกับยิ้มและหัวเราะ ซึ่งในขณะนั้นเธอรู้สึกอึดอัดตลอดเวลา แต่ก็ทำตามที่ผู้กำกับขอโดยการใช้ตะเกียบคีบทั้งแคนโนลี รวมทั้งพิซซ่า และสปาเกตตี
โดยในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2561
คลิปวิดีโอแคมเปญโฆษณาดังกล่าวถูกปล่อยออกมา
นางแบบสาวกล่าวว่า เมื่อเธอได้ดูแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่แบบที่เธอคิดไว้
เธอรู้สึกแย่ต่อการแสดงที่ทำเหมือนว่าเธอใช้ตะเกียบไม่เป็น
แต่เธอไม่คาดคิดว่าการทำงานร่วมกับแบรนด์ดังในครั้งนั้น
จะทำลายชีวิตในเส้นทางอาชีพนางแบบของเธอได้เช่นนี้
ภาพจาก Instagram sadosang
หลังจากคลิปโฆษณาถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง
เธอก็ถูกชาวจีนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ชี้ว่าสิ่งที่เธอแสดงเป็นการเหยียดเชื้อชาติชาวจีนด้วยกันเอง
ทางนางแบบสาวพยายามปกป้องตัวเอง ด้วยการระบุว่า เธอในฐานะนางแบบไม่มีความสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงสคริปต์
รวมทั้งไม่มีสิทธิ์ได้เห็นผลงานสุดท้ายที่สำเร็จ
ก่อนที่จะถูกปล่อยออกมาสู่สาธารณะ
จั้ว เย่ ระบุในโพสต์ว่า เธอรู้สึกละอายอย่างที่สุดต่อความอัปยศนี้ เธอไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะไม่เคารพประเทศของเธอเอง "ฉันเป็นคนจีน และภูมิใจในแผ่นดินเกิดเสมอ ฉันขอเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น และจะเป็นตัวแทนแสดงความเป็นชาติจีนให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต"
ภาพจาก Instagram sadosang
ภาพจาก Instagram sadosang
ภาพจาก Instagram sadosang
ภาพจาก Instagram sadosang
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เผยรายงานว่า จั้ว เย่ (Zuo Ye) นางแบบสาวชาวจีน ออกมาเผยชีวิตสุดเศร้า
ภายหลังจากร่วมถ่ายแคมเปญโฆษณาแบรนด์ดัง Dolce & Gabbana
ซึ่งมีเนื้อหาเหยียดเชื้อชาติ ล้อเลียนเรื่องวัฒนธรรมการกิน
จนถูกแบนไปตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
และหลังจากนั้นเธอก็ปิดปากเงียบมาตลอด
จนวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา นางแบบสาวได้โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์เว่ยป๋อ ระบุว่า เธอเพิ่งเรียนจบและทำงานเป็นนางแบบเต็มตัว ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเธอจะมาเป็นที่จดจำของผู้คนในรูปแบบนี้ ทั้งนี้เธอยังเผยว่า ในการคัดตัวนักแสดงครั้งก่อนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เธอไม่คุ้นเคยกับแบรนด์ดังกล่าว และทราบเรื่องราวเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้น้อยมากว่าทำเกี่ยวกับเรื่องอะไร รู้เพียงแต่ว่าจะเป็นการถ่ายโปรโมตแบบ "ขำ ๆ" มากกว่าจะดูเป็นการโฆษณาทางการค้า
ภาพจาก Instagram dolcegabbana
"คุณล้อฉันเล่นเหรอ ? ใช้ตะเกียบนี่นะ" นางแบบสาวถามผู้กำกับ "ใช่ผมรู้ว่ามันยาก แค่ลองทำมันดู" ผู้กำกับตอบเธอ
ภาพจาก Instagram dolcegabbana
นอกจากนี้ นางแบบสาวยังเผยว่า ทางผู้กำกับได้โน้มน้าวให้เธอแสดงท่าทางตกใจและเขินอาย เอามือขึ้นมาปิดปากพร้อมกับยิ้มและหัวเราะ ซึ่งในขณะนั้นเธอรู้สึกอึดอัดตลอดเวลา แต่ก็ทำตามที่ผู้กำกับขอโดยการใช้ตะเกียบคีบทั้งแคนโนลี รวมทั้งพิซซ่า และสปาเกตตี
ภาพจาก Instagram sadosang
จั้ว เย่ ระบุในโพสต์ว่า เธอรู้สึกละอายอย่างที่สุดต่อความอัปยศนี้ เธอไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะไม่เคารพประเทศของเธอเอง "ฉันเป็นคนจีน และภูมิใจในแผ่นดินเกิดเสมอ ฉันขอเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น และจะเป็นตัวแทนแสดงความเป็นชาติจีนให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต"
ภาพจาก Instagram sadosang
สำหรับคลิปวิดีโอแคมเปญโฆษณาดังกล่าว
เตรียมถูกนำมาใช้โปรโมตแบรนด์ Dolce & Gabbana
ในงานแฟชั่นโชว์ที่กำลังจะจัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ในขณะนั้น
แต่สุดท้ายก็ต้องถูกยกเลิกไป ทำให้ทาง สเตฟาโน กาบบานา
แฟชั่นดีไซเนอร์ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ดัง เกิดความไม่พอใจ
โพสต์ข้อความผ่านทางออนไลน์ระบุเชิงว่า ประเทศจีนเป็นประเทศป่าเถื่อน
หลังจากนั้นจึงส่งผลให้แบรนด์ดังถูกคว่ำบาตรในประเทศจีน
สินค้าของแบรนด์ดังกล่าวถูกนำออกจากทุกหน้าเว็บไซต์ของจีน ก่อนทาง สเตฟาโน
กาบบานา และโดเมนิโก โดลเช่ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์อีกคน จะออกมาอัดคลิปขอโทษ
แต่ก็สายเกินไป
นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังที่ได้รับบทเรียนราคาแพงจากการเดินหมากผิดกับกลุ่มลูกค้ามหาอำนาจอย่างจีน
ภาพจาก Instagram sadosang
ภาพจาก Instagram sadosang