มัดซี สุนิสา อดีตนักบอลทีมชาติ เปิดใจคนวิจารณ์เพลง ไถนาให้น้องแหน่ เผยเนื้อหาหลักแค่อยากหาแฟนมาช่วยทำนา ส่วนท่าแค่เด้ง ๆ เป็นท่าจับคันไถ ยันภาพมุมเสยที่เห็นไม่ใช่กางเกงใน แต่เป็นซับใน ด้านเจ้าของค่ายเพลง ลั่น ถ้าทำเพลงโลกสวยคงไม่มีคนดู
ภาพจาก Naiphol Entertainment
ภาพจาก Naiphol Entertainment
กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับเพลงลูกทุ่ง "ไถนาให้น้องแหน่" ทั้งท่าเต้น เนื้อร้อง
และเสียงร้องที่คล้ายสื่อถึงเรื่องเพศ ประกอบกับการแสดงในมิวสิกวิดีโอ
ที่ถูกมองว่าใช้เรื่องเพศมาเป็นสื่อในการนำเสนอมากเกินความเหมาะสม
อีกทั้งบางช่วงของท่าเต้น มุมกล้องก็ถ่ายเสย จนเห็นคล้ายกางเกงในอีกด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 30 มกราคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานสัมภาษณ์ น.ส.สุนิสา วงศ์ศรีแก้ว หรือ มัดซี นักร้องเพลงดังกล่าว ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติ มัดซีได้โชว์เต้นท่าประกอบเพลงให้ดูสด ๆ พร้อมเปิดเผยว่า เนื้อเพลงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยากหาแฟน มาช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันไถนา เพราะหากได้สามีที่ทำนาเก่ง ๆ ลูกก็จะได้พึ่งพาได้และครอบครัวจะได้สบาย
โดยเนื้อเพลงและการแสดงในเพลงนั้น ตนไม่ได้คิดเอง แต่เป็นบทที่ทีมงานคิดมาให้ ซึ่งเมื่อเพลงถูกเผยแพร่ไปราว 20 วัน ตนก็ทราบว่ากระแสส่วนใหญ่เป็นด้านลบ ซึ่งได้ทำใจไว้อยู่แล้ว ตนยืนยันว่าไม่ได้ส่อไปในทางลามกอนาจาร แต่ยอมรับว่าเพลงอีสานเป็นเพลงแนวสองแง่สองง่ามอยู่แล้ว ซึ่งเพลงแนวนี้ก็มีมานาน ส่วนตนไม่เครียด เพราะไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้
ส่วนท่าเต้นที่มือกำแล้วโยกเอวเด้งไปมา เป็นการประยุกต์จากท่าจับคันไถ ส่วนที่หลายคนมองว่ามุมกล้องถ่ายจนเห็นกางเกงในนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่กางเกงใน แต่เป็นกางเกงซับใน อย่างไรก็ตาม ตนเริ่มมาจับไมค์ร้องเพลงประมาณปีกว่าแล้ว ซึ่งเป็นความชอบของตน มันแตกต่างจากการเป็นนักฟุตบอล และขอฝากประชาชนให้ติดตามผลงาน เพราะจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริง และจะได้รู้ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคิด
ทั้งนี้ กระแสตอบรับที่กลับมา ตนไม่รู้สึกกังวลและอยากให้คนมองเป็นศิลปะ เพราะยังมีเพลงอื่นที่โชว์มากกว่านี้ เนื้อหาหนักกว่านี้ ส่วนท่าเต้นที่คนวิจารณ์ว่าเห็นกางเกงในของนักร้อง ก็ยืนยันว่าไม่ใช่กางเกงใน ตนไม่กลัวคนมองว่าลามกอนาจาร เพราะเชื่อว่าเพลงนี้จะไม่มีปัญหา แต่ก็เข้าใจว่าเมื่อผลงานถูกเผยแพร่ออกไป จะต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่สำหรับตนนั้น ถือเป็นการแสดงเพื่อความบันเทิง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการทุบโต๊ะข่าว