สาวกลายเป็นหม้ายหลังแต่งงานได้ 48 วัน เพราะสามีเสียชีวิตจากโรคร้าย ได้รับตุ๊กตาหมีจากเพื่อนของเขา จากที่ไม่คิดสนใจอะไรนัก กลับต้องน้ำตาซึม เมื่อได้รู้ว่าเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lauren Easton
เรื่องราวความรักและชีวิตแสนเศร้าของแดร์เรน กับ ลอเรน ถูกหยิบมารายงานโดยเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 โดยแดร์เรนล้มป่วยด้วยโรคซิสติก ไฟโบรโอซิส (Cystic Fibrosis) โรคเรื้อรังทางพันธุกรรมที่ทำให้ร่างกายสร้างเสมหะข้น ๆ ในปอด และเมือกในตับอ่อน ส่งผลให้ปอดเกิดการติดเชื้อ อีกทั้งยังขัดขวางการหลั่งเอนไซม์ในตับ ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Darren Easton
แดร์แรนกับลอเรนปลูกต้นรักกันเหมือนกับคู่รักคนอื่น ๆ พวกเขาย้ายมาอยู่ด้วยกัน เลี้ยงเจ้าตูบน่ารักตัวหนึ่งด้วยกัน และไม่เคยแยกห่างจากกัน กระทั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว อาการของแดร์เรนทรุดหนักลงมาก แพทย์บอกว่าเขามีเวลาเหลืออยู่อีกไม่นานแล้ว เพราะโรคมาถึงจุดที่เกินเยียวยาได้ ข่าวร้ายนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองเศร้ามาก และตัดสินใจจะแต่งงานกัน เพื่อใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตแดร์เรน
ด้วยความที่ทั้งสองไม่ได้มีเงินมากมาย จึงไม่สามารถจัดงานแต่งงานหรูหราใหญ่โตได้ พวกเขาจึงเปิดระดมทุนบนเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อหาเงินก้อนเล็ก ๆ สักก้อนสำหรับจัดงานวิวาห์ครั้งนี้ เรื่องราวของทั้งสองสร้างความประทับใจและสะเทือนใจแก่ผู้คนมากมาย และคนแปลกหน้าจำนวนมากก็ได้ช่วยกันบริจาคเงิน เพื่อให้คู่รักหนุ่มสาวคู่นี้ได้มีงานแต่งงานในฝัน
และแล้วในวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่แล้ว ทั้งสองก็จูงมือเข้าประตูวิวาห์ด้วยกันที่โรงพยาบาลแฮร์ฟีลด์ ในเทศบาลฮิลลิงตัน เกรเทอร์ลอนดอน ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนฝูงจำนวนหนึ่งที่มาร่วมแสดงความยินดี มันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี อบอุ่น และมีความสุข แม้ว่าสุขภาพของตัวเองจะแย่ แต่แดร์เรนก็ไม่เคยเป็นทุกข์ เขายังคงยิ้มแย้ม และบอกว่าจะอยู่ต่อไปยาว ๆ อีกสักปี เพื่อใช้ชีวิตคู่กับลอเรน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Darren Easton
ลอเรนเองก็ยินดีที่ได้ยินคนรักพูดแบบนี้ และเธอก็ไม่แปลกใจ เพราะเขาเป็นคนดื้อ อีกทั้งยังใจสู้มาก ๆ โรงพยาบาลก็เข้าใจพวกเขาเป็นอย่างดี อนุญาตให้แดร์เรนกลับบ้านไปฉลองคริสต์มาสกับภรรยา แม้เขาควรได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดอยู่ตลอด แต่ความสุขของเขาก็สำคัญเช่นกัน
สุขภาพของเขาทรุดหนักลงเรื่อย ๆ เขาไม่สามารถหายใจเองได้ ไร้เรี่ยวแรงจนเดินไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงกัดฟันสู้ และเดินทางไปดูละครเวทีเรื่อง Lion King กับลอเรน ด้วยความช่วยเหลือของมูลนิธิ Willow Tree ที่ได้จองที่นั่งสำหรับรถเข็นให้กับเขา กระทั่งวันที่ 23 มกราคม แดร์เรนก็จากไป จบชีวิตคู่ในระยะเวลาอันสั้น แค่เพียง 48 วัน เท่านั้น โดยเขาต่อสู้กับมันอย่างหนักมาตลอดชีวิต และสู้จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ภรรยาหม้ายของเขาต้องทนอยู่กับความเศร้า แม้ว่าเธอจะทำใจล่วงหน้ามานานแล้ว แต่การรับมือกับสถานการณ์ความเป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทว่าหลังจากที่แดร์เรนเสียชีวิตไม่นาน ซาราห์ เชอร์รีแมน เพื่อนสนิทของเขา ได้นำตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งมามอบให้กับลอเรนเป็นของขวัญ ซึ่งในตอนแรกเธอก็ยังไม่เข้าใจว่าเพื่อนคนดังกล่าวต้องการจะสื่อถึงอะไรถึงมอบตุ๊กตาตัวนี้แก่เธอ แต่เธอยังเศร้าใจเกินกว่าจะนึกถึงอย่างอื่นได้ ซาราห์จึงบอกให้เธอลองบีบมันดู ซึ่งเธอก็ทำตาม จนพบว่าตุ๊กตาหมีตัวนี้สามารถอัดเสียงได้ และเสียงที่ออกมาจากตัวมันคือเสียงของแดร์เรน สามีที่เธอรัก ที่ได้ส่งข้อความสุดท้ายเอาไว้ถึงเธอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Darren Easton
"สวัสดีที่รัก ผมอยากจะบอกว่าผมรักคุณ และผมคิดถึงคุณมาก ๆ เลยนะ คุณคือโลกทั้งใบของผม เป็นอยู่เสมอและตลอดไป" เสียงของแดร์เรนที่บันทึกเอาไว้ ดังออกมาจากตุ๊กตาหมี
ของขวัญชิ้นนี้สร้างความรู้สึกตื้นตันและซาบซึ้งให้กับลอเรนเป็นอย่างมาก มันคือของขวัญที่มีคุณค่ามากที่สุดสำหรับเธอ ลอเรนกล่าวว่าตั้งแต่วันที่แดร์เรนจากไป เธอวางตุ๊กตาหมีน้อยตัวนี้เอาไว้บนโซฟาตัวโปรดของแดร์เรน ในจุดที่เขาชอบนั่ง และบีบตัวมันเพื่อฟังเสียงเขาทุกครั้งที่เธอนึกถึงเขา ลอเรนเคยนึกกลัวอยู่ทุกวันว่าจะลืมเสียงของเขา แต่นับจากนี้ เธอจะได้ยินเสียงของเขาอยู่ตลอดเวลา และไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิตของเธอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lauren Easton
แดร์เรน และ ลอเรน อีสตัน คือคู่รักหนุ่มสาวชาวอังกฤษที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเล็ก พวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยรุ่น เติบโตขึ้นมาด้วยกัน จนพัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนมาเป็นคนรักและจับมือเดินไปด้วยกัน แดร์เรนทำงานเป็นช่างยนต์ ส่วนลอเรนเป็นช่างเสริมสวย พวกเขามีบ้านหลังเล็ก ๆ ด้วยกัน และเลี้ยงสุนัขเป็นเพื่อน แม้ว่าชีวิตรักของทั้งสองจะเป็นไปด้วยดี อีกทั้งยังเติมเต็มความหวานให้กันอยู่เสมอ แต่โลกความจริงมันค่อนข้างโหดร้าย...
โดยแดร์เรนล้มป่วยเป็นโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิต ลอเรนคอยอยู่เคียงข้างเขาอยู่เสมอ และทั้งสองก็ตัดสินใจแต่งงานกัน แม้ว่าเวลาบนโลกของแดร์เรนจะเหลือน้อยลงไปทุกที จนกระทั่งในวันที่แดร์เรนเสียชีวิต ลอเรนได้รับของขวัญจากเพื่อนสนิทของสามี ตอนแรกเธอไม่ได้สนใจมันเลย เพราะเธอโศกเศร้ามาก และไม่คิดว่ามันเป็นของขวัญที่น่าจดจำอะไร แต่แล้วเธอก็ได้รับรู้ว่าของขวัญชิ้นนั้นมีความหมายอย่างที่เธอนึกไม่ถึง
โดยแดร์เรนล้มป่วยเป็นโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิต ลอเรนคอยอยู่เคียงข้างเขาอยู่เสมอ และทั้งสองก็ตัดสินใจแต่งงานกัน แม้ว่าเวลาบนโลกของแดร์เรนจะเหลือน้อยลงไปทุกที จนกระทั่งในวันที่แดร์เรนเสียชีวิต ลอเรนได้รับของขวัญจากเพื่อนสนิทของสามี ตอนแรกเธอไม่ได้สนใจมันเลย เพราะเธอโศกเศร้ามาก และไม่คิดว่ามันเป็นของขวัญที่น่าจดจำอะไร แต่แล้วเธอก็ได้รับรู้ว่าของขวัญชิ้นนั้นมีความหมายอย่างที่เธอนึกไม่ถึง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lauren Easton
เรื่องราวความรักและชีวิตแสนเศร้าของแดร์เรน กับ ลอเรน ถูกหยิบมารายงานโดยเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 โดยแดร์เรนล้มป่วยด้วยโรคซิสติก ไฟโบรโอซิส (Cystic Fibrosis) โรคเรื้อรังทางพันธุกรรมที่ทำให้ร่างกายสร้างเสมหะข้น ๆ ในปอด และเมือกในตับอ่อน ส่งผลให้ปอดเกิดการติดเชื้อ อีกทั้งยังขัดขวางการหลั่งเอนไซม์ในตับ ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
ลอเรนเองก็ป่วยเป็นโรคนี้เช่นกัน แต่อาการของเธอไม่หนักหนาเท่ากับเขา ด้วยความที่ทั้งสองป่วยเหมือนกัน อีกทั้งต้องเข้าโรงพยาบาลกันอยู่ตลอด พวกเขาจึงใกล้ชิดกันมากขึ้น ความรู้สึกจึงเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรักอย่างไม่รู้ตัว และแล้วในคืนวันสิ้นปี 2558 แดร์เรนก็เอ่ยปากขอคบกับลอเรน ขณะนั่งดูดอกไม้ไฟด้วยกันจากหน้าต่างโรงพยาบาล
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Darren Easton
แดร์แรนกับลอเรนปลูกต้นรักกันเหมือนกับคู่รักคนอื่น ๆ พวกเขาย้ายมาอยู่ด้วยกัน เลี้ยงเจ้าตูบน่ารักตัวหนึ่งด้วยกัน และไม่เคยแยกห่างจากกัน กระทั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว อาการของแดร์เรนทรุดหนักลงมาก แพทย์บอกว่าเขามีเวลาเหลืออยู่อีกไม่นานแล้ว เพราะโรคมาถึงจุดที่เกินเยียวยาได้ ข่าวร้ายนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองเศร้ามาก และตัดสินใจจะแต่งงานกัน เพื่อใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตแดร์เรน
ด้วยความที่ทั้งสองไม่ได้มีเงินมากมาย จึงไม่สามารถจัดงานแต่งงานหรูหราใหญ่โตได้ พวกเขาจึงเปิดระดมทุนบนเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อหาเงินก้อนเล็ก ๆ สักก้อนสำหรับจัดงานวิวาห์ครั้งนี้ เรื่องราวของทั้งสองสร้างความประทับใจและสะเทือนใจแก่ผู้คนมากมาย และคนแปลกหน้าจำนวนมากก็ได้ช่วยกันบริจาคเงิน เพื่อให้คู่รักหนุ่มสาวคู่นี้ได้มีงานแต่งงานในฝัน
และแล้วในวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่แล้ว ทั้งสองก็จูงมือเข้าประตูวิวาห์ด้วยกันที่โรงพยาบาลแฮร์ฟีลด์ ในเทศบาลฮิลลิงตัน เกรเทอร์ลอนดอน ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนฝูงจำนวนหนึ่งที่มาร่วมแสดงความยินดี มันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี อบอุ่น และมีความสุข แม้ว่าสุขภาพของตัวเองจะแย่ แต่แดร์เรนก็ไม่เคยเป็นทุกข์ เขายังคงยิ้มแย้ม และบอกว่าจะอยู่ต่อไปยาว ๆ อีกสักปี เพื่อใช้ชีวิตคู่กับลอเรน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Darren Easton
ลอเรนเองก็ยินดีที่ได้ยินคนรักพูดแบบนี้ และเธอก็ไม่แปลกใจ เพราะเขาเป็นคนดื้อ อีกทั้งยังใจสู้มาก ๆ โรงพยาบาลก็เข้าใจพวกเขาเป็นอย่างดี อนุญาตให้แดร์เรนกลับบ้านไปฉลองคริสต์มาสกับภรรยา แม้เขาควรได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดอยู่ตลอด แต่ความสุขของเขาก็สำคัญเช่นกัน
สุขภาพของเขาทรุดหนักลงเรื่อย ๆ เขาไม่สามารถหายใจเองได้ ไร้เรี่ยวแรงจนเดินไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงกัดฟันสู้ และเดินทางไปดูละครเวทีเรื่อง Lion King กับลอเรน ด้วยความช่วยเหลือของมูลนิธิ Willow Tree ที่ได้จองที่นั่งสำหรับรถเข็นให้กับเขา กระทั่งวันที่ 23 มกราคม แดร์เรนก็จากไป จบชีวิตคู่ในระยะเวลาอันสั้น แค่เพียง 48 วัน เท่านั้น โดยเขาต่อสู้กับมันอย่างหนักมาตลอดชีวิต และสู้จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ภรรยาหม้ายของเขาต้องทนอยู่กับความเศร้า แม้ว่าเธอจะทำใจล่วงหน้ามานานแล้ว แต่การรับมือกับสถานการณ์ความเป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทว่าหลังจากที่แดร์เรนเสียชีวิตไม่นาน ซาราห์ เชอร์รีแมน เพื่อนสนิทของเขา ได้นำตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งมามอบให้กับลอเรนเป็นของขวัญ ซึ่งในตอนแรกเธอก็ยังไม่เข้าใจว่าเพื่อนคนดังกล่าวต้องการจะสื่อถึงอะไรถึงมอบตุ๊กตาตัวนี้แก่เธอ แต่เธอยังเศร้าใจเกินกว่าจะนึกถึงอย่างอื่นได้ ซาราห์จึงบอกให้เธอลองบีบมันดู ซึ่งเธอก็ทำตาม จนพบว่าตุ๊กตาหมีตัวนี้สามารถอัดเสียงได้ และเสียงที่ออกมาจากตัวมันคือเสียงของแดร์เรน สามีที่เธอรัก ที่ได้ส่งข้อความสุดท้ายเอาไว้ถึงเธอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Darren Easton
"สวัสดีที่รัก ผมอยากจะบอกว่าผมรักคุณ และผมคิดถึงคุณมาก ๆ เลยนะ คุณคือโลกทั้งใบของผม เป็นอยู่เสมอและตลอดไป" เสียงของแดร์เรนที่บันทึกเอาไว้ ดังออกมาจากตุ๊กตาหมี
ของขวัญชิ้นนี้สร้างความรู้สึกตื้นตันและซาบซึ้งให้กับลอเรนเป็นอย่างมาก มันคือของขวัญที่มีคุณค่ามากที่สุดสำหรับเธอ ลอเรนกล่าวว่าตั้งแต่วันที่แดร์เรนจากไป เธอวางตุ๊กตาหมีน้อยตัวนี้เอาไว้บนโซฟาตัวโปรดของแดร์เรน ในจุดที่เขาชอบนั่ง และบีบตัวมันเพื่อฟังเสียงเขาทุกครั้งที่เธอนึกถึงเขา ลอเรนเคยนึกกลัวอยู่ทุกวันว่าจะลืมเสียงของเขา แต่นับจากนี้ เธอจะได้ยินเสียงของเขาอยู่ตลอดเวลา และไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิตของเธอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lauren Easton