x close

เปิดคุณสมบัติ ผู้สมัครชิงนายกรัฐมนตรี พบไม่เลือกตั้งครั้งก่อน ไม่มีผล

          ส่องคุณสมบัติ ผู้ถูกเสนอชื่อให้ชิงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 พบไม่เข้าเลือกตั้งครั้งก่อน ไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ
เลือกตั้ง 2562
ภาพจาก Workpoint News

          วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ถือเป็นวันรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันสุดท้าย และเป็นช่วงที่พรรคต้องแจ้งรายชื่อบุคคลที่มีมติว่าจะเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี

          สำหรับ คุณสมบัติของผู้ที่จะอยู่ในบัญชีว่าที่นายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ประกาศผ่าน ราชกิจจานุเบกษา มาตรา 88 และ 89 กำหนดให้การเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี คือ

          (1) ต้องมีหนังสือยินยอมของบุคคลซึ่งได้รับการเสนอชื่อ โดยมีรายละเอียดตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกําหนด
          (2) ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 160

           คุณสมบัติตามมาตรา 160 กำหนดให้

          (1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
          (2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปี
          (3) สําเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
          (4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
          (5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
          (6) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98
          (7) ไม่เป็นผู้ต้องคําพิพากษาให้จําคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
          (8) ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุกระทําการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือมาตรา 187 (เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการ) มาแล้วยังไม่ถึงสองปีนับถึงวันแต่งตั้ง

          ลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 มีข้อที่น่าสนใจได้แก่

          (4) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นภิกษุ หรือนักบวช, ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือ วิกลจริตจิตฟั่นเฟือน
          (5) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

          ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 กำหนดเรื่องผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กรณีผู้ใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผู้นั้นถูกจํากัดสิทธิ ดังต่อไปนี้

          (1) ยื่นคําร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
          (2) สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา
          (3) สมัครรับเลือกเป็นกํานันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่
          (4) ดํารงตําแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา
          (5) ดํารงตําแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหาร ท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

          การจํากัดสิทธิตามวรรคหนึ่ง ให้มีกําหนดเวลาครั้งละสองปีนับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และหากในการเลือกตั้งครั้งต่อไปผู้นั้น ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีกให้นับเวลาการจํากัดสิทธิครั้งหลังนี้โดย นับจากวันที่มิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งใหม่ หากกําหนดเวลาการจํากัดสิทธิครั้งก่อนยังเหลืออยู่เท่าใดให้กําหนดเวลาการจํากัดสิทธินั้นสิ้นสุดลง

          ทั้งนี้ การจำกัดสิทธิเลือกตั้งมีระยะเวลาเพียงสองปีจากการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย ซึ่งปัจจุบัน ไม่มีการเลือกตั้งมาถึง 4 ปี 7 เดือนแล้ว ทำให้ผู้ที่ไม่ได้เลือกตั้งในครั้งก่อน มีคุณสมบัติที่จะถูกเสนออยู่ในบัญชีว่าที่นายกรัฐมนตรีได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ราชกิจจานุเบกษา, เฟซบุ๊ก iLaw

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดคุณสมบัติ ผู้สมัครชิงนายกรัฐมนตรี พบไม่เลือกตั้งครั้งก่อน ไม่มีผล อัปเดตล่าสุด 8 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 14:44:58 10,186 อ่าน
TOP