เยเมนประหารชีวิตนักโทษ 2 คน ต่อหน้าสาธารณชน หลังก่อเหตุลักพาตัวเด็กชาย วัย 12 ปี ไปรุมข่มขืน ก่อนปาดคอและหั่นศพโยนทิ้ง เผยมีผู้หญิงช่วยอำพรางศพ แต่ยังประหารไม่ได้ เพราะกำลังท้อง
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล์ รายงาน วาเดาะห์ เรฟัต วัย 28 ปี และ โมฮาเหม็ด คาลีด วัย 31 ปี สองนักโทษชาวเยเมน ผู้ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เนื่องจากช่วยกันก่อเหตุลักพาตัวเด็กชาย วัย 12 ปี ไปรุมข่มขืนและฆ่า ในช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยทั้งสองถูกควบคุมตัวมายังลานประหารในเมืองเอเดน เมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ท่ามกลางประชาชนที่มาเฝ้ารอดูหลายร้อยคน
รายงานระบุว่า เด็กชายผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในละแวกบ้านของหนึ่งในผู้ต้องหา โดยในวันเกิดเหตุ เด็กชายกำลังเล่นอยู่นอกบ้าน วาเดาะห์และโมฮาเหม็ดได้เข้าจู่โจมเด็กชาย จัดการลากตัวเข้ามาในบ้าน และใช้กำลังข่มขืน เด็กชายได้ร้องไห้และส่งเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ หนึ่งในผู้ต้องหาจึงคว้ามีดมาปาดคอเขาจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุ ทั้งสองได้จัดการอำพรางศพของเด็กชายด้วยการหั่นศพออกเป็นชิ้น ๆ และนำไปโยนทิ้ง โดยได้รับการช่วยเหลือจากหญิง วัย 33 ปี คนหนึ่ง ซึ่งไม่มีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่าเธอมีสถานะความสัมพันธ์อย่างไรกับทั้งสอง
คลิปวิดีโอที่แชร์บนสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นภาพ วาเดาะห์ และ โมฮาเหม็ด สวมชุดนักโทษสีฟ้าอ่อน ขณะถูกนำตัวมายังลานประหารซึ่งเป็นพื้นทราย ทั้งสองถูกใส่กุญแจมือไพล่หลังและมีโซตรวนที่ข้อเท้า เจ้าหน้าที่ได้เอาน้ำมาให้พวกเขาดื่ม ขณะยืนรอการจัดเตรียมลานประหารกลางแดดจ้า หลังจากนั้นทั้งสองถูกจับให้นอนคว่ำลงบนเสื่อข้างกัน
เพชรฆาตสองนายถือปืนยาวคนละกระบอก กดปลายกระบอกปืนไปที่แผ่นหลังของทั้งสอง ในตำแหน่งตรงกับหัวใจ และได้ลงมือลั่นไกหลายนัด ประชาชนที่มาเฝ้ารอดูการประหารต่างก็ชูโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพและคลิปวิดีโอ หลายคนส่งเสียงโหร้อง บ้างก็พากันร้องเพลงอย่างยินดี ที่ได้เห็นนักโทษเดนนรกถูกลงโทษอย่างสาสม
สำหรับผู้หญิงที่ช่วยผู้ต้องหาทั้งสองอำพรางศพเด็กชายนั้น เธอก็ถูกจับกุมและได้รับการพิพากษาโทษประหารชีวิตเช่นกัน แต่ด้วยความที่เธอกำลังตั้งครรภ์ การประหารชีวิตจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน และจะมีการดำเนินการตามระเบียบต่อไป เมื่อเธอคลอดบุตรเรียบร้อยแล้ว
