หญิงไก่ ร่ำไห้ทรุดลงกราบศาลอุทธรณ์ หลังพิพากษากลับยกฟ้อง คดีค้ามนุษย์ ชี้ยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหม
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศาลอาญา ได้มีการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ อัยการคดีค้ามนุษย์ ยื่นฟ้อง นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ เป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ จากกรณีเมื่อเดือน มิถุนายน 2549 ถึง ตุลาคม 2553 จำเลยได้บังคับเด็กสาวชาวแม่ฮ่องสอน 2 คน ให้ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับจำเลย ตั้งแต่ เวลา 05.00-22.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีวันหยุด โดนก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยฐานค้ามนุษย์ 3 ปี
ซึ่งล่าสุด ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานและคำให้การของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยมีพฤติกรรมไม่ครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ เนื่องจากในระหว่างที่โจทย์อยู่กับจำเลยได้มีการดูแลเลี้ยงดูในระดับหนึ่ง ทั้งการซื้อโทรศัพท์มือถือให้ ให้เงินเดือนในการใช้จ่ายเดือนละประมาณ 1,000 บาท และเมื่อจำเลยต้องการกลับบ้านที่ภูมิลำเนา ก็ยังให้เงินไปอีก 5,000 บาท
อีกทั้งยังพบว่ามีพยานหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าจำเลยมีการพาโจทก์ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และจากการตรวจสอบห้องพักของจำเลยพบว่ามีขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งโจทก์ทั้งสองคนสามารถแบ่งงานกันทำได้ จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งให้ยกฟ้องเช่นเดียวกัน ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย ตามที่โจทก์เรียกร้องมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฟังศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว หญิงไก่ ได้ก้มลงกราบกับรั้วกั้นเขตฟังคำพิพากษา พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความดีใจ ก่อนที่จะร้องขอคัดสำเนาคำพิพากษาดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ในการสู้คดีอื่น ๆ เนื่องจากขณะนี้หญิงไก่ไม่มีทนายความเป็นของตนเอง
ส่วนคดีแจ้งความเท็จ กรณีลูกจ้างขโมยของในบ้านที่ สน.ประชาชื่น และคดีความผิดตาม พ.ร.บ.แรงงาน นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศาลอาญา ได้มีการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ อัยการคดีค้ามนุษย์ ยื่นฟ้อง นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ เป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ จากกรณีเมื่อเดือน มิถุนายน 2549 ถึง ตุลาคม 2553 จำเลยได้บังคับเด็กสาวชาวแม่ฮ่องสอน 2 คน ให้ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับจำเลย ตั้งแต่ เวลา 05.00-22.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีวันหยุด โดนก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยฐานค้ามนุษย์ 3 ปี
ซึ่งล่าสุด ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานและคำให้การของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยมีพฤติกรรมไม่ครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ เนื่องจากในระหว่างที่โจทย์อยู่กับจำเลยได้มีการดูแลเลี้ยงดูในระดับหนึ่ง ทั้งการซื้อโทรศัพท์มือถือให้ ให้เงินเดือนในการใช้จ่ายเดือนละประมาณ 1,000 บาท และเมื่อจำเลยต้องการกลับบ้านที่ภูมิลำเนา ก็ยังให้เงินไปอีก 5,000 บาท
อีกทั้งยังพบว่ามีพยานหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าจำเลยมีการพาโจทก์ไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และจากการตรวจสอบห้องพักของจำเลยพบว่ามีขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งโจทก์ทั้งสองคนสามารถแบ่งงานกันทำได้ จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งให้ยกฟ้องเช่นเดียวกัน ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย ตามที่โจทก์เรียกร้องมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฟังศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว หญิงไก่ ได้ก้มลงกราบกับรั้วกั้นเขตฟังคำพิพากษา พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความดีใจ ก่อนที่จะร้องขอคัดสำเนาคำพิพากษาดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ในการสู้คดีอื่น ๆ เนื่องจากขณะนี้หญิงไก่ไม่มีทนายความเป็นของตนเอง
ส่วนคดีแจ้งความเท็จ กรณีลูกจ้างขโมยของในบ้านที่ สน.ประชาชื่น และคดีความผิดตาม พ.ร.บ.แรงงาน นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก










