หนุ่มฉลองอายุ 18 ได้ฉีดวัคซีนครั้งแรก หลังพ่อ-แม่สายแอนตี้ ห้ามมาตลอดชีวิต

          หนุ่มชาวอเมริกันเพิ่งได้รับวัคซีนครั้งแรกตอนอายุ 18 ปี หลังพ่อ-แม่ ไม่ยอมให้ฉีดตั้งแต่เด็ก เพราะมีแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีน เชื่อว่าจะส่งผลต่อสมอง

          อีธาน เล่าว่า ตลอดช่วงที่เขาเติบโตมา พ่อและแม่คอยจะพูดกรอกหูของเขาเกี่ยวกับข้อเสียของวัคซีนมากมายตลอดเวลา และเมื่อเขาได้คุยกับเพื่อน เขาก็รู้ว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคใด ๆ เลยมาทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคหัด, คางทูม, ไวรัสตับอักเสบ, หัดเยอรมัน, อีสุกอีใส หรือแม้กระทั่งโปลิโอ ซึ่งเป็นโรคที่สามารถทำให้เกิดเป็นอัมพาตและถึงแก่ชีวิตได้ 


          จนถึงตอนนี้ อีธานได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไปแล้ว 6 ชนิด ซึ่งรวมถึงวัคซีนป้องกันโรคคางทูม และไวรัสตับอักเสบ อย่างไรก็ตาม จิล วีลเลอร์ แม่ของอีธาน ได้ออกมาเปิดเผยว่า สิ่งที่ลูกชายของเธอทำนั้น เหมือนกับการตบหน้าเธอ เธอไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากกับการตัดสินใจของเขา สาเหตุที่เธอไม่ยอมให้ลูกฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการปกป้องเขาให้ปลอดภัย เพราะเชื่อว่าวัคซีนจะส่งผลทำลายสมอง และเธอก็ยังคงเชื่อเช่นนั้นตลอด

          ทั้งนี้ทั้งนั้น อีธาน ได้ออกมาเผยผ่านทางบีบีซี กล่าวขอโทษถึงแม่ของเขา ที่ทำให้เธอต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ภายหลังจากนำเรื่องราวมาโพสต์แชร์เช่นนี้ โดยระบุว่า ตอนที่เขาเขียนกระทู้นั้น เขาต้องการระบายความไม่พอใจ คิดว่าแม่ไม่มีเหตุผล แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะไปไกลขนาดนี้ เขารู้สึกเสียใจที่พูดในสิ่งที่ไม่ควรออกไป และรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับแม่ของเขาด้วย