ผู้บังคับการตำรวจจราจร ไฟเขียวเจ้าหน้าที่ หากเจอผู้ฝ่าฝืนกฎหมายวิ่งบนทางเท้าและขัดขืนการจับกุม อนุญาตให้ "ยิงขา" ป้องกันตัว ไม่ต้องรอถูกทำร้ายก่อน
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า พล.ต.ต. นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เผยว่า ตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า จากการจับกุมผู้ฝ่าฝืนวินัยจราจร มีใครมีปฏิกิริยาขัดขวางเจ้าหน้าที่หรือไม่ กรณีปลายปีที่แล้วที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าไปตักเตือน วินจักรยานยนต์ขี่บนทางเท้า แล้วควักมีดออกมาข่มขู่ ซึ่งกรณีนี้เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ใช้อาวุธ
อย่างไรก็ดี พล.ต.ต. นิธิธร ระบุว่า เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ หากเจอผู้มีพฤติกรรมขัดขวาง ขัดขืนการปฏิบัติงานขณะจับกุม ก็สามารถใช้อาวุธได้โดยไม่ต้องรอให้ถูกทำร้ายก่อน จะยิงขา ยิงอะไรก็ยิงไป เพื่อสกัดกั้นการคุกคาม ก็จะใช้มาตรการรุนแรงไปด้วย
ที่ผ่านมา บก.จร. มีผลการจับกุมผู้ขับขี่บนทางเท้าเดือนละ 100 ราย ขณะที่โรงพักทั่วกรุงเทพฯ มีการจับกุมไม่ต่ำกว่า 700 ราย สำหรับข้อหากระทำผิด ตำรวจจะทำการปรับครั้งแรก 500 บาท ขณะที่ฝ่ายเทศกิจจะปรับครั้งแรก 1,000 บาท ซึ่งผลการจับกุมของเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ดำเนินการเรื่อยมา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2561 โดยมีผู้กระทำผิดแล้วกว่า 14,000 ราย ได้ทำการเปรียบเทียบปรับรวมยอดทั้ง 50 เขต เป็นเงินกว่า 1.7 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า พล.ต.ต. นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เผยว่า ตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า จากการจับกุมผู้ฝ่าฝืนวินัยจราจร มีใครมีปฏิกิริยาขัดขวางเจ้าหน้าที่หรือไม่ กรณีปลายปีที่แล้วที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าไปตักเตือน วินจักรยานยนต์ขี่บนทางเท้า แล้วควักมีดออกมาข่มขู่ ซึ่งกรณีนี้เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ใช้อาวุธ
อย่างไรก็ดี พล.ต.ต. นิธิธร ระบุว่า เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ หากเจอผู้มีพฤติกรรมขัดขวาง ขัดขืนการปฏิบัติงานขณะจับกุม ก็สามารถใช้อาวุธได้โดยไม่ต้องรอให้ถูกทำร้ายก่อน จะยิงขา ยิงอะไรก็ยิงไป เพื่อสกัดกั้นการคุกคาม ก็จะใช้มาตรการรุนแรงไปด้วย
ที่ผ่านมา บก.จร. มีผลการจับกุมผู้ขับขี่บนทางเท้าเดือนละ 100 ราย ขณะที่โรงพักทั่วกรุงเทพฯ มีการจับกุมไม่ต่ำกว่า 700 ราย สำหรับข้อหากระทำผิด ตำรวจจะทำการปรับครั้งแรก 500 บาท ขณะที่ฝ่ายเทศกิจจะปรับครั้งแรก 1,000 บาท ซึ่งผลการจับกุมของเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ดำเนินการเรื่อยมา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2561 โดยมีผู้กระทำผิดแล้วกว่า 14,000 ราย ได้ทำการเปรียบเทียบปรับรวมยอดทั้ง 50 เขต เป็นเงินกว่า 1.7 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
