ชูวิทย์ เผย การเมือง-ทหาร เป็นของคู่กัน ตราบใดที่นักการเมืองยังไม่เลิกทะเลาะกัน เราก็คงหนีทหารไม่พ้น ซัดแค่ให้หาเสียงไม่กี่วันก็เริ่มตีกันแล้ว พอเข้าไปในสภาจะเป็นอย่างไร
หากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นักการเมืองพรรคเพื่อไทยไม่ใช้อำนาจในสภามากจนเกินที่สังคมจะรับได้ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่เลือกใช้หนทางนอกสภาแก้ปัญหาผ่านร่างทรงสุเทพ อีกทั้งพรรคขนาดกลางไม่นิ่งเฉยรอเข้าข้างคนชนะ ทหารคงไม่ออกมา
ดังนั้น จงอย่าถามว่าจะมีรัฐประหารอีกไหม
แต่จงถามว่าหลังจากนี้จะทำเหมือนเดิมหรือเปล่า
เพราะเมื่อไหร่ที่นักการเมืองทำเพื่อประชาชน ทหารทำเพื่อปกป้องประเทศชาติ
ต่างคนต่างทำหน้าที่ เรื่องแบบเดิมก็คงไม่เกิดขึ้นอีก
ส่วนคนที่ว่าตนเข้าข้างทหารนั้น คงเข้าใจผิด เพราะตนชื่อชูวิทย์ ไม่ได้ชื่อสุเทพ ตนติดคุก 3 รอบ ถูกขังเดี่ยว 3 วัน ที่กรมสารวัตรทหาร ถูกอายัดทรัพย์ ลูกชายจับใบแดงไปเป็นทหารเกณฑ์ และอีกมากมาย หากตนมีพลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หนุนหลังจริง ทำไมถึงได้โดนหนักขนาดนี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์
กมลวิศิษฎ์
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์
กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์
กมลวิศิษฎ์
แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเมืองที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ในหัวข้อการเมืองกับทหาร
ว่า ตราบใดที่นักการเมืองยังไม่เลิกทะเลาะกัน เราก็คงหนีทหารไม่พ้น
เพราะแค่เพียงปล่อยให้เริ่มหาเสียงไม่นาน ก็เริ่มมีปัญหากันแล้ว
เมื่อเลือกตั้งเสร็จพอเข้าไปในสภาก็ไปทะเลาะกันต่อ
แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเรายังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
และสุดท้ายก็ต้องจบลงแบบเดิมอีก เนื่องจากสังคมไทยมีทหารเป็นดุลอำนาจทางการเมือง
หากนักการเมืองใช้อำนาจเกินเมื่อไหร่
ก็เท่ากับว่าเป็นการเปิดประตูให้ทหารออกมา
หากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นักการเมืองพรรคเพื่อไทยไม่ใช้อำนาจในสภามากจนเกินที่สังคมจะรับได้ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่เลือกใช้หนทางนอกสภาแก้ปัญหาผ่านร่างทรงสุเทพ อีกทั้งพรรคขนาดกลางไม่นิ่งเฉยรอเข้าข้างคนชนะ ทหารคงไม่ออกมา
ส่วนคนที่ว่าตนเข้าข้างทหารนั้น คงเข้าใจผิด เพราะตนชื่อชูวิทย์ ไม่ได้ชื่อสุเทพ ตนติดคุก 3 รอบ ถูกขังเดี่ยว 3 วัน ที่กรมสารวัตรทหาร ถูกอายัดทรัพย์ ลูกชายจับใบแดงไปเป็นทหารเกณฑ์ และอีกมากมาย หากตนมีพลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หนุนหลังจริง ทำไมถึงได้โดนหนักขนาดนี้
ตนไม่ปฏิเสธว่ารู้จักกับผู้บัญชาการทหารบกจริง
แต่ตนสามารถแยกได้ระหว่างหน้าที่ กับความเป็นเพื่อน ทำอะไรผิด
ก็รับผิดในสิ่งที่ทำ ไม่ต้องไปร้องขอให้เพื่อนลำบากใจ
เพราะความเป็นเพื่อนมันห้ามกันไม่ได้ อย่างเดียวที่เคยขอคือ ขอกินเหล้า
และท่านก็ชงเหล้าให้ในฐานะเพื่อน ไม่ได้ชงให้ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก