รศ.ดร. ปรียา ลีฬหกุล กลุ่มสาขาวิชาโภชนศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่สนใจศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโภชนาการอย่างมาก เพราะเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของโภชนาการต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และส่งผลไปตลอดจนถึงสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจของลูกในอนาคต
ร่างกายของลูกนั้นต้องการสารอาหารหลักทั้งหมด
6 กลุ่ม คือ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และน้ำ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มาจากอาหาร 5 หมู่
และน้ำดื่มนั่นเอง
ที่สำคัญมากตัวหนึ่งในสารอาหารกลุ่มวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ
คือ "โคลีน" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางสมองตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์ ซึ่งอาหารของแม่ที่เป็นแหล่งเดียวของอาหารของลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์และช่วงที่กินนมแม่อย่างเดียวนั้นจะขาดโคลีนไม่ได้เลย ถ้าเกิดขาดจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการดังกล่าวซึ่งไม่สามารถกลับคืนได้ จะส่งผลเสียต่อการเรียนรู้และความจำในอนาคตได้
การที่ร่างกายได้รับโคลีนร่วมกับสารอาหารจำเป็นชนิดอื่น
เช่น โปรตีน ไขมัน และวิตามินต่างๆในปริมาณที่เพียงพอในระหว่างการตั้งครรภ์และระยะให้นมบุตรจะส่งผลดีต่อบุตรในเรื่องของ
ความจำ การเรียนรู้ และพัฒนาการของระบบประสาท
การศึกษาในหญิงตั้งครรภ์พบว่า การเสริมโคลีนจะมีส่งผลที่ดีต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของลูก การที่ร่างกายมีระดับของโคลีนอย่างเพียงพอจะส่งผลดีต่อการพัฒนาการของสมองและความจำ นอกจากนี้โคลีนยังเป็นสารสำคัญที่ร่างกายจะนำไปสร้าง "อะเซทิลโคลีน (acetylcholine)" ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท และโคลีนยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างผนังเซลล์
เราได้โคลีนโดยตรง จากอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว จากร่างกายสร้างขึ้นเองที่ตับ และที่สำคัญเรายังได้โคลีนจาก "ฟอสฟาติดิลโคลีน
(phosphatidylcholine)" ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเลซิติน เลซิตินเป็นไขมันที่มีความจำเป็นต่อเซลล์ทุกชนิดในร่างกายโดยเฉพาะเยื่อหุ้มเซลล์และเยื่อหุ้มสมอง ฟอสฟาติดิลโคลีนนี้สามารถเปลี่ยนไปเป็นโคลีนในร่างกายของเราได
้พบมากใน ถั่วเหลือง ไข่แดง ในทางอุตสาหกรรมมีการสกัด ฟอสฟาติดิลโคลีน จากถั่วเหลืองมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆมากมายรวมทั้งผลิตภัณฑ์ทางด้านอาหารและอาหารสุขภาพด้วย
จากที่กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่าถั่วเหลืองเป็นแหล่งอาหารที่ให้โคลีนสูง
หาง่าย และราคาไม่แพง ประกอบกับในถั่วเหลืองยังมีสารอาหารอื่นที่สำคัญมีคุณภาพมาก เช่น
โปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายต้องได้จากอาหารเท่านั้นจำนวนมาก และไขมันที่ให้กรดไขมันตระกูลโอเมก้า 3, 6, 9 ดังนั้นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
เช่น "นมถั่วเหลือง" จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญดังกล่าวมาแล้วต่อพัฒนาการของสมองทั้งด้านกายภาพและการทำงานของสมอง
ดังนั้น "นมถั่วเหลือง" จึงเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพัฒนาการของสมอง เช่น หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และที่สำคัญคือควรเลือกดื่ม ? นมถั่วเหลือง ? ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานซึ่งคงสงวนคุณค่าและปริมาณของสารอาหารที่สำคัญต่อพัฒนาการของสมองดังกล่าวไว้ได้
