ศิลปินญี่ปุ่น ผู้สร้างหุ่นสุดหลอน โมโม่ ทำลายผลงานทิ้ง หลังถูกนำไปใช้ใน Momo Challenge ทำร้ายเด็ก ๆ รับตั้งใจสร้างให้ออกมาน่ากลัว แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเครื่องมืออันตราย จนเดือดร้อนทั่วโลก

ภาพจาก Instagram j_s_rock
นอกจากโมโม่จะจะถูกใช้ในเกมอันตราย ๆ บนอินเทอร์เน็ตแล้ว หน้าสุดหลอนนี้ยังถูกนำมาตัดต่อใส่ลงไปในคลิปวิดีโอ หรือการ์ตูนบนยูทูบ มุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็ก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะช่วยคัดกรอง เพราะหน้าปกคลิปหรือเนื้อหาของบางคลิปมันดูไม่มีพิษไม่มีภัยเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อกดคลิกไปชมวิดีโอที่มีโมโม่ ก็จะมีเสียงหลอน ๆ ดังออกมา สั่งให้เด็กทำร้ายตัวเอง แม้ต่อมาจะมีรายงานข่าวยืนยันว่า กระแสเด็กทำร้ายตัวเองที่สื่อพูดถึงไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม แต่เรื่องที่มีคนนำโมโม่ามาแทรกในคลิปเพื่อลวงให้เด็กทำสิ่งไม่ดี ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
ทีมงานผู้สื่อข่าวของเดอะซันได้เข้าพูดคุยกับ เคสุโกะ ที่สตูดิโอของเขา ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เคสุเกะเป็นศิลปินนักปั้นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างผลงานหลอน ๆ สยองขวัญ มายาวนานร่วม 20 ปี และสตูดิโอของเขายังสร้างหุ่นหลอนสำหรับใช้ในรายการโทรทัศน์ด้วยเช่นกัน สำหรับหุ่นแม่นกตัวนี้ หลังจากที่สร้างเสร็จ มันก็ถูกนำมาจัดแสดงที่หอศิลป์ Vanilla Gallery ในกรุงโตเกียว
นอกจากนี้แล้ว หุ่นแม่นกหรือโมโม่ยังสร้างความเดือดร้อนแก่ศิลปินคนหนึ่งอีกด้วย เพราะมีกระแสข่าวลือว่าศิลปินคนนั้นเป็นคนสร้างสรรค์หุ่นโมโม่ขึ้นมา และเธอก็ถูกขู่ฆ่าเพราะเรื่องนี้ ตัวเขาเองก็ถูกขู่ฆ่าทุกวันเช่นกัน
"ผมสร้างหุ่นแม่นกตัวนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนแรกที่มันถูกนำไปจัดแสดงที่หอศิลป์ มันไม่ได้รับความสนใจมากเท่าไหร่นัก ผมก็ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังนะ พอมันมีกระแสเรื่องโมโม่ขึ้นมา มันก็ได้รับความสนใจไปทั่ว ผมก็แปลกใจนะ เพราะมันไม่ใช่ผลงานที่โดดเด่นของผมเลย แต่ผมรู้สึกดีใจครับ เพราะตอนแรกโมโม่ดังในทิศทางที่ดี พอผมมารับรู้ว่าโมโม่ได้สร้างเรื่องอันตรายแก่เด็ก ๆ มันแย่มากครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนรับผิดชอบกับเรื่องนี้ ผมไม่เคยคิดอยากให้มันกลายเป็นเครื่องมือทำร้ายเด็ก ๆ เลย" เคสุเกะ กล่าว
เคสุเกะ กล่าวอีกว่า ไม่นานหลังจากที่โมโม่กลายเป็นข่าวใหญ่ ตัวหุ่นแม่นกก็เริ่มเน่าและพัง เพราะตอนที่สร้างมัน เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันอยู่นาน ด้วยสภาพที่เน่า บวกกับปัญหาที่มันสร้างขึ้น เคสุเกะจึงทำลายมันทิ้งและทิ้งซากมันไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว
เคสุเกะ กล่าวว่า เขาหวังว่ากระแสโมโม่ชาเลนจ์จะซาลงและหายไป เพราะตอนนี้โมโม่ได้ตายลงแล้ว ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับตัวมันก็ควรตายตามมันไปด้วย และเขาอยากฝากไปถึงเด็ก ๆ ทุกคนด้วยว่า ปีศาจโมโม่ที่น่ากลัวได้ถูกทำลายไปแล้ว มันหายไปจากโลกนี้แล้ว และจะไม่สามารถทำร้ายใครได้อีกต่อไป

ภาพจาก Instagram j_s_rock
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2562 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า หลังจาก หุ่นโมโม่ (Momo) ผลงานของศิลปินชาวญี่ปุ่น ถูกคนนำไปใช้ในทางที่ผิดจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวาดกลัว แถมยังมีกระแส Momo Challenge เกมอันตรายบนอินเทอร์เน็ต แพร่กระจายไปทั่วโลก ทั้งในเฟซบุ๊ก และวอทส์แอป (Whatsapp) ซึ่งผู้ใช้นิรนามได้ใช้รูปโมโม่แทนใบหน้าตัวเอง สั่งให้เด็ก ๆ และวัยรุ่นทำร้ายตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ ไปจนถึงขั้นฆ่าตัวตาย ล่าสุด เคสุเกะ ไอโสะ ศิลปินชาวญี่ปุ่น วัย 43 ปี ก็ได้เปิดเผยว่า เขาได้ทำลาย หุ่นโมโม่ (Momo) ทิ้งไปแล้ว
หุ่นดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 2559 ภายใต้ชื่อ แม่นก (Mother Bird) แน่นอนว่า โมโม่ ไม่ใช่ชื่อดั้งเดิมของมัน แต่เพิ่งจะถูกเรียกในภายหลัง เมื่อมันกลายเป็นกระแสบนสังคมออนไลน์ หุ่นนี้มีลักษณะเป็นท่อนบนของผู้หญิงเปลือยอก และมีท่อนล่างเป็นขาของนก
เคสุเกะได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้มาจากตำนาน อูบุเมะ เรื่องเล่าโบร่ำโบราณของญี่ปุ่น เกี่ยวกับหญิงสาวที่เสียชีวิตจากการคลอดลูกและกลายเป็นผีครึ่งนกครึ่งคน ตามหลอกหลอนผู้คนในพื้นที่ที่เธอตายจากไป ตำนานนี้ยังระบุอีกว่า หญิงสาวดังกล่าวจะอุ้มทารกเดินไปตามทาง เมื่อพบเจอคนแปลกหน้าผ่านมา เธอก็จะยื่นเด็กให้ และเด็กก็จะกลายเป็นก้อนหิน โดยเคสุเกะสร้างหุ่นแม่นกขึ้นมาจากยางผสมกับน้ำมัน
หุ่นดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 2559 ภายใต้ชื่อ แม่นก (Mother Bird) แน่นอนว่า โมโม่ ไม่ใช่ชื่อดั้งเดิมของมัน แต่เพิ่งจะถูกเรียกในภายหลัง เมื่อมันกลายเป็นกระแสบนสังคมออนไลน์ หุ่นนี้มีลักษณะเป็นท่อนบนของผู้หญิงเปลือยอก และมีท่อนล่างเป็นขาของนก
เคสุเกะได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้มาจากตำนาน อูบุเมะ เรื่องเล่าโบร่ำโบราณของญี่ปุ่น เกี่ยวกับหญิงสาวที่เสียชีวิตจากการคลอดลูกและกลายเป็นผีครึ่งนกครึ่งคน ตามหลอกหลอนผู้คนในพื้นที่ที่เธอตายจากไป ตำนานนี้ยังระบุอีกว่า หญิงสาวดังกล่าวจะอุ้มทารกเดินไปตามทาง เมื่อพบเจอคนแปลกหน้าผ่านมา เธอก็จะยื่นเด็กให้ และเด็กก็จะกลายเป็นก้อนหิน โดยเคสุเกะสร้างหุ่นแม่นกขึ้นมาจากยางผสมกับน้ำมัน
นอกจากโมโม่จะจะถูกใช้ในเกมอันตราย ๆ บนอินเทอร์เน็ตแล้ว หน้าสุดหลอนนี้ยังถูกนำมาตัดต่อใส่ลงไปในคลิปวิดีโอ หรือการ์ตูนบนยูทูบ มุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็ก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะช่วยคัดกรอง เพราะหน้าปกคลิปหรือเนื้อหาของบางคลิปมันดูไม่มีพิษไม่มีภัยเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อกดคลิกไปชมวิดีโอที่มีโมโม่ ก็จะมีเสียงหลอน ๆ ดังออกมา สั่งให้เด็กทำร้ายตัวเอง แม้ต่อมาจะมีรายงานข่าวยืนยันว่า กระแสเด็กทำร้ายตัวเองที่สื่อพูดถึงไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม แต่เรื่องที่มีคนนำโมโม่ามาแทรกในคลิปเพื่อลวงให้เด็กทำสิ่งไม่ดี ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
ทีมงานผู้สื่อข่าวของเดอะซันได้เข้าพูดคุยกับ เคสุโกะ ที่สตูดิโอของเขา ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เคสุเกะเป็นศิลปินนักปั้นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างผลงานหลอน ๆ สยองขวัญ มายาวนานร่วม 20 ปี และสตูดิโอของเขายังสร้างหุ่นหลอนสำหรับใช้ในรายการโทรทัศน์ด้วยเช่นกัน สำหรับหุ่นแม่นกตัวนี้ หลังจากที่สร้างเสร็จ มันก็ถูกนำมาจัดแสดงที่หอศิลป์ Vanilla Gallery ในกรุงโตเกียว
โยโกะ ทากุชิ เจ้าหน้าที่ของหอศิลป์ เล่าว่า ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ทางหอศิลป์จะจัดนิทรรศการผลงานศิลปะเกี่ยวกับตำนานผีของญี่ปุ่น ปกติแล้วทางหอศิลป์จะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพผลงานศิลปะ แต่หุ่นแม่นกเป็นข้อยกเว้น เพราะมันถูกจัดวางบริเวณด้านหน้าทางเข้า และทีมงานก็อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพคู่กับมันได้ พวกเขาไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าหุ่นตัวนี้จะสร้างผลร้ายแรงอย่างมาก
ทางด้าน เคสุเกะ เปิดเผยว่า ตอนที่สร้างหุ่นแม่นกตัวนี้ เขายอมรับว่าตั้งใจให้มันออกมาดูน่ากลัว เป็นปีศาจหลอน ๆ ที่ทำให้คนขนลุกเมื่อพบเห็น แต่เขาไม่ได้ตั้งใจและไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อยว่ามันจะกลายเป็นเครื่องมือทำร้ายเด็ก ๆ และสร้างความเจ็บปวดไม่สบายใจให้กับผู้คนมากมาย ทั้งเด็ก ครู และผู้ปกครอง
ทางด้าน เคสุเกะ เปิดเผยว่า ตอนที่สร้างหุ่นแม่นกตัวนี้ เขายอมรับว่าตั้งใจให้มันออกมาดูน่ากลัว เป็นปีศาจหลอน ๆ ที่ทำให้คนขนลุกเมื่อพบเห็น แต่เขาไม่ได้ตั้งใจและไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อยว่ามันจะกลายเป็นเครื่องมือทำร้ายเด็ก ๆ และสร้างความเจ็บปวดไม่สบายใจให้กับผู้คนมากมาย ทั้งเด็ก ครู และผู้ปกครอง
นอกจากนี้แล้ว หุ่นแม่นกหรือโมโม่ยังสร้างความเดือดร้อนแก่ศิลปินคนหนึ่งอีกด้วย เพราะมีกระแสข่าวลือว่าศิลปินคนนั้นเป็นคนสร้างสรรค์หุ่นโมโม่ขึ้นมา และเธอก็ถูกขู่ฆ่าเพราะเรื่องนี้ ตัวเขาเองก็ถูกขู่ฆ่าทุกวันเช่นกัน
"ผมสร้างหุ่นแม่นกตัวนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนแรกที่มันถูกนำไปจัดแสดงที่หอศิลป์ มันไม่ได้รับความสนใจมากเท่าไหร่นัก ผมก็ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังนะ พอมันมีกระแสเรื่องโมโม่ขึ้นมา มันก็ได้รับความสนใจไปทั่ว ผมก็แปลกใจนะ เพราะมันไม่ใช่ผลงานที่โดดเด่นของผมเลย แต่ผมรู้สึกดีใจครับ เพราะตอนแรกโมโม่ดังในทิศทางที่ดี พอผมมารับรู้ว่าโมโม่ได้สร้างเรื่องอันตรายแก่เด็ก ๆ มันแย่มากครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนรับผิดชอบกับเรื่องนี้ ผมไม่เคยคิดอยากให้มันกลายเป็นเครื่องมือทำร้ายเด็ก ๆ เลย" เคสุเกะ กล่าว
เคสุเกะ กล่าวอีกว่า ไม่นานหลังจากที่โมโม่กลายเป็นข่าวใหญ่ ตัวหุ่นแม่นกก็เริ่มเน่าและพัง เพราะตอนที่สร้างมัน เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันอยู่นาน ด้วยสภาพที่เน่า บวกกับปัญหาที่มันสร้างขึ้น เคสุเกะจึงทำลายมันทิ้งและทิ้งซากมันไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว
เคสุเกะ กล่าวว่า เขาหวังว่ากระแสโมโม่ชาเลนจ์จะซาลงและหายไป เพราะตอนนี้โมโม่ได้ตายลงแล้ว ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับตัวมันก็ควรตายตามมันไปด้วย และเขาอยากฝากไปถึงเด็ก ๆ ทุกคนด้วยว่า ปีศาจโมโม่ที่น่ากลัวได้ถูกทำลายไปแล้ว มันหายไปจากโลกนี้แล้ว และจะไม่สามารถทำร้ายใครได้อีกต่อไป