ทบ. แจงเหตุ บิ๊กแดง ฟ้อง เสรีพิศุทธ์ 3 ข้อหา ปมดูถูก-หยามเครื่องหมายทหาร

          จากกรณี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาด อ.เมืองปราจีนบุรี และได้เดินไปหาทหารที่ทำหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์ และรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณนั้น พร้อมกล่าวว่า ทหารควรไปทำหน้าที่รั้วของชาติ มากกว่าเดินตามคนหาเสียง ตนไม่ได้สร้างความเดือดร้อน เป็นประชาชนที่จ่ายภาษีให้เป็นเงินเดือนทหาร รบกวนคนอื่นได้แต่ตนเอง พล.ต.อ. อย่ามาทะลึ่ง พร้อมไล่ไปไกล ๆ อย่ามาใกล้ระหว่างเดินหาเสียง (อ่านข่าว : เสรีพิศุทธ์ ของขึ้น ตะเพิดทหารเดินตามหาเสียง ลั่นอย่ามาทะลึ่งกับ พล.ต.อ.)

          ล่าสุด (5 มีนาคม 2562) สปริงนิวส์ รายงานว่า พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ในข้อหาดูหมิ่นดูแคลนเจ้าพนักงาน จากกรณีไล่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเดินหาเสียง รวมถึงฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทในนามส่วนตัว หลังจากที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับเครื่องหมายที่ติดอยู่บนเครื่องแบบทหารของ พล.อ. อภิรัชต์ ด้วยถ้อยคำรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหาย และถือเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม นอกจากนี้ ยังแจ้งความผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังนำข้อความที่ให้สัมภาษณ์ดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก

          ขณะที่ ไทยโพสต์ รายงานเพิ่มเติมว่า พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า  คำพูดของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ มีลักษณะพาดพิงผู้บังคับบัญชาและกองทัพ ส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องราวปัจจุบัน ตัวท่านเกษียณราชการไปนานกว่า 10 ปีแล้ว หลายอย่างมีการปรับเปลี่ยนไปมาก การกล่าวพาดพิงที่ผ่านมาท่านพยายามทำความเข้าใจและถือว่าเป็นการกระทำเพื่อต้องการคะแนนเสียงทางการเมือง จึงไม่ตอบกลับ แต่กรณีล่าสุดบิดเบือนข้อมูลกล่าวหาเรื่องวิ่งเต้นตำแหน่ง หรือการติดประดับเครื่องหมายอันทรงเกียรติของข้าราชการทหารลงบนเครื่องแบบ ทำนองดูถูกเหยียดหยาม และเหน็บแนมเลยเถิด ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียใจที่บุคคลที่อาสาเข้ามาทำงานการเมือง และเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สมควรที่จะให้เกียรติและมีจิตสำนึก

          อีกทั้ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ยังจงใจก้าวล่วงและไม่เคารพในเครื่องแบบที่มีความสำคัญยิ่งต่อข้าราชการทหารและองค์กร เพราะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่และแผ่นดิน รวมถึงการแต่งเครื่องแบบยังมีการประดับเครื่องหมายยศที่ได้รับพระราชทานและเครื่องหมายเชิดชูเกียรติต่าง ๆ จึงจำเป็นที่กองทัพบกต้องใช้สิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายในการปกป้องเกียรติภูมิขององค์กร มิให้ถูกนำไปกล่าวถึงอย่างขาดจิตสำนึก ผบ.ทบ. จึงมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการต่อไป และขอเรียนว่าการพึ่งพากระบวนการยุติธรรมในครั้งนี้ คงไม่มีฝ่ายใดนำไปโยงกับประเด็นการเมือง หรือนำไปกล่าวหาว่าใช้อำนาจพิเศษ เพราะเรื่องนี้เป็นการใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายอย่างแท้จริง