พ่อแม่ อดีตเจ้าหน้าที่เวรเปลฆ่าปาดคอพยาบาลสาว ขอโทษแทนลูกชาย รับรู้สึกช็อกหลังทราบเรื่อง เผย ที่ผ่านมาลูกเป็นคนดี ไม่คิดว่าจะฆ่าใครได้ ส่วนเรื่องเงินที่ค้างอยู่ 12,000 ทางบ้านทราบ แต่เรื่องส่วนตัวไม่เคยทราบมาก่อน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายอั๋น หรือ น๊อต ฟักศิริ อายุ 33 ปี อดีตพนักงานเวรเปล ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ นางศรีสุภางค์ อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่พยาบาลห้องฉุกเฉิน รพ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ภายในรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ญฉ 5426 กรุงเทพมหานคร โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่วัดลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ภาชี โดยผู้ต้องหาได้สารภาพว่าพลั้งมือฆ่า หลังนัดเคลียร์ใจไม่ลงตัว โต้เถียงรุนแรง จึงใช้คัตเตอร์แทงกลางอก ปาดคอซ้ำ เพราะผู้ตายขัดขืนต่อสู้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : มือปาดคอพยาบาล อ้างพลั้งมือฆ่า โมโหเคลียร์ไม่ลงตัว เผยแอบคบกันมานาน 5 ปี)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า พ่อและแม่ ของนายอั๋น ได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่องทรัพย์สินของนายอั๋น หลังขโมยสร้อยคอทองคำของผู้ตายไป และนำไปจำนำไว้ในพื้นที่ อ.เสนา พร้อมให้นำเงินจำนวน 6,000 บาท ไปไถ่สร้อยคอทองคำคืน
โดยแม่ผู้ต้องหา ระบุว่า คืนวันเกิดเหตุลูกชายบอกว่าออกไปรับลูกเลี้ยงกับแฟนใหม่ และกลับมานอนบ้านตามปกติ ก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไร เพราะลูกจะกลับบ้านตี 2 ตี 3 เป็นประจำ เช้าก็ตื่นไปทำงานตามปกติ กระทั่งมาทราบข่าวจากตำรวจว่าลูกฆ่าคนตาย ก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าลูกจะทำได้
ด้านพ่อผู้ต้องหา ได้ยกมือไหว้ขอโทษทางฝั่งครอบครัวผู้ตาย
พร้อมเปิดเผยว่า ไม่รู้ว่าลูกจะลงมือทำเรื่องแบบนี้
ปกติลูกก็เป็นคนที่เชื่อฟังดี แต่ยอมรับว่าลูกมีปัญหาด้านการเงินตลอด
เงินเดือนไม่พอก็จะมาขอพ่อแม่ประจำ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาครอบครัวรับทราบปัญหาเรื่องเงินที่ลูกชายค้างพยาบาลรายนี้มาบ้าง และเคยคุยทางโทรศัพท์แล้ว 1 ครั้ง เพื่อขอเคลียร์หนี้สินจำนวน 12,000 บาท โดยจะผ่อนให้เดือนละ 2,000 บาท แต่เดือนล่าสุดครอบครัวไม่มีเงินจึงไม่ได้ส่งต่อ และไม่เคยคิดว่าลูกชายจะก่อเหตุแบบนี้ขึ้น แต่ความสัมพันธ์อื่น ๆ นั้นทางครอบครัวไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน
![มือฆ่าปาดคอพยาบาล]( "มือฆ่าปาดคอพยาบาล")
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 สปริงนิวส์ รายงานว่า พ่อและแม่ ของนายอั๋น ได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่องทรัพย์สินของนายอั๋น หลังขโมยสร้อยคอทองคำของผู้ตายไป และนำไปจำนำไว้ในพื้นที่ อ.เสนา พร้อมให้นำเงินจำนวน 6,000 บาท ไปไถ่สร้อยคอทองคำคืน
โดยแม่ผู้ต้องหา ระบุว่า คืนวันเกิดเหตุลูกชายบอกว่าออกไปรับลูกเลี้ยงกับแฟนใหม่ และกลับมานอนบ้านตามปกติ ก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไร เพราะลูกจะกลับบ้านตี 2 ตี 3 เป็นประจำ เช้าก็ตื่นไปทำงานตามปกติ กระทั่งมาทราบข่าวจากตำรวจว่าลูกฆ่าคนตาย ก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าลูกจะทำได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาครอบครัวรับทราบปัญหาเรื่องเงินที่ลูกชายค้างพยาบาลรายนี้มาบ้าง และเคยคุยทางโทรศัพท์แล้ว 1 ครั้ง เพื่อขอเคลียร์หนี้สินจำนวน 12,000 บาท โดยจะผ่อนให้เดือนละ 2,000 บาท แต่เดือนล่าสุดครอบครัวไม่มีเงินจึงไม่ได้ส่งต่อ และไม่เคยคิดว่าลูกชายจะก่อเหตุแบบนี้ขึ้น แต่ความสัมพันธ์อื่น ๆ นั้นทางครอบครัวไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน
