สาวไทยในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย ป่วยเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่น สายพันธุ์บี อาการทรุดหนักเกือบเอาชีวิตไม่รอด โคม่าอยู่ 10 วัน หมอต้องตัดนิ้วมือ ตัดขา เพื่อยื้อชีวิต
ย้อนกลับไปในคืนหนึ่งของเดือนตุลาคม 2561 หรือเมื่อ 5 เดือนก่อน จุตติมา ชินศรี (Juttima Chinnasri) หญิงสาวชาวไทย วัย 28 ปี ผู้อาศัยอยู่ในนครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ได้เข้านอนเร็วกว่าปกติ เนื่องจากรู้สึกไม่ค่อยสบายและมีไข้ เธอไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าตัวเองเป็นไข้หวัดธรรมดา ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทว่าหลังจากที่จุตติมาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอก็ต้องตกใจสุดชีวิต เมื่อพบว่าร่างกายของเธอมีผื่นแดงลักษณะเป็นจุดจ้ำเลือดอยู่เต็มไปหมด
จุตติมารีบไปโรงพยาบาลทันที และในตอนนั้นเอง ประสบการณ์เจ็บป่วยสุดเลวร้ายที่เปลี่ยนชีวิตของเธอและเกือบทำให้เธอเอาชีวิตไม่รอด ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
จากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล ในวันที่ 10 มีนาคม 2562 ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากเดอะเดลี่เทเลกราฟ ระบุว่า จุตติมาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จในซิดนีย์ แพทย์ได้ตรวจเลือดของเธอเพื่อหาสาเหตุอาการป่วย และค้นพบว่าเธอป่วยเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่น สายพันธุ์บี (Meningococcal Disease B)
อาการของจุตติมาทรุดหนักลงอย่างรุนแรงมาก และเธอก็ไม่รู้สึกตัว ต้องกลายเป็นผู้ป่วยภาวะโคม่า แพทย์และพยาบาลพยายามกันอย่างหนักเพื่อยื้อชีวิตหญิงสาวคนนี้ จนกระทั่งอาการของเธอเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และรู้สึกตัวได้ที่สุด หลังจากไม่ได้สติอยู่นานถึง 10 วัน
ทว่าจุตติมาต้องตื้นขึ้นมารับรู้ข่าวร้ายที่สุด
โดยแพทย์บอกเธอว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องตัดนิ้วมือและขาทั้งสองข้างของเธอออก
เพื่อเป็นการรักษาชีวิตของเธอเอาไว้ จุตติมาเปิดเผยว่า
ตอนที่เธอได้ยินเรื่องนี้
เธอรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายครึ่งหนึ่งของเธอไม่อยากเชื่อว่ามันคือความจริง
เธอได้แต่หวังว่ามันจะมีวิธีการรักษาอย่างอื่น
ที่สามารถให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป
โดยยังรักษานิ้วมือและขาทั้งสองข้างเอาไว้ได้
แต่มันก็เป็นได้แค่ความหวังเท่านั้น
หลังจากที่ถูกตัดนิ้วมือทั้งสองข้าง และขาทั้งสองข้างออกไป จุตติมาต้องใช้เวลาทำกายภาพบำบัดอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 3 เดือน เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตใหม่โดยที่ไม่มีขาและนิ้วมือ ปัจจุบันเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว และอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านของครอบครัว ตั้งอยู่ในโคการาห์ ย่านทางเมืองทางตอนใต้ของนครซิดนีย์
ทั้งนี้ แม้จุตติมาจะต้องใช้รถเข็นอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถกลับมาเดินได้อีก แต่เธอก็ยังมองโลกในแง่ดี และมองว่าตัวเองโชคดีที่รอดชีวิตมาได้
จุตติมารีบไปโรงพยาบาลทันที และในตอนนั้นเอง ประสบการณ์เจ็บป่วยสุดเลวร้ายที่เปลี่ยนชีวิตของเธอและเกือบทำให้เธอเอาชีวิตไม่รอด ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
จากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล ในวันที่ 10 มีนาคม 2562 ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากเดอะเดลี่เทเลกราฟ ระบุว่า จุตติมาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จในซิดนีย์ แพทย์ได้ตรวจเลือดของเธอเพื่อหาสาเหตุอาการป่วย และค้นพบว่าเธอป่วยเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่น สายพันธุ์บี (Meningococcal Disease B)
อาการของจุตติมาทรุดหนักลงอย่างรุนแรงมาก และเธอก็ไม่รู้สึกตัว ต้องกลายเป็นผู้ป่วยภาวะโคม่า แพทย์และพยาบาลพยายามกันอย่างหนักเพื่อยื้อชีวิตหญิงสาวคนนี้ จนกระทั่งอาการของเธอเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และรู้สึกตัวได้ที่สุด หลังจากไม่ได้สติอยู่นานถึง 10 วัน
หลังจากที่ถูกตัดนิ้วมือทั้งสองข้าง และขาทั้งสองข้างออกไป จุตติมาต้องใช้เวลาทำกายภาพบำบัดอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 3 เดือน เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตใหม่โดยที่ไม่มีขาและนิ้วมือ ปัจจุบันเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว และอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านของครอบครัว ตั้งอยู่ในโคการาห์ ย่านทางเมืองทางตอนใต้ของนครซิดนีย์
ทั้งนี้ แม้จุตติมาจะต้องใช้รถเข็นอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถกลับมาเดินได้อีก แต่เธอก็ยังมองโลกในแง่ดี และมองว่าตัวเองโชคดีที่รอดชีวิตมาได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Juttima Chinnasri