กกต. นำสื่อดูแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า คุมเข้มกันทุจริต ตำรวจเฝ้า-ติดกล้อง

          กกต. นำสื่อดูคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ป้องกันการทุจริตเข้มงวด คุมเข้มตำรวจเฝ้า-ติดกล้อง แจงไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือบนบัตรเลือกตั้งถูกต้องแล้ว  

          โดยนายอิทธิพร กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการนำบัตรเลือกตั้งทั่วประเทศเดินทางมาถึงที่ไปรษณีย์หลักสี่ ครบหมดทุกเขตแล้ว ยังเหลือเพียงบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเท่านั้น ที่ยังส่งมาไม่ครบ ซึ่งการทำการแยกบัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการคัดแยกบัตรเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ถ่ายทอดบรรยากาศการคัดแยก เพื่อให้ผู้แทนจากพรรคการเมือง สื่อมวลชน และบุคคลทั่วไปที่ต้องการติดตามการคัดแยกได้รับชมอย่างใกล้ชิด
          ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมเจ้าหน้าที่กว่า 3,000 คน เพื่อสลับหมุนเวียนทำการตรวจคัดแยกบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในครั้งนี้ กว่า 2.6 ล้านฉบับ ที่ถูกส่งมาจากทุกหน่วยเลือกตั้งในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยตลอดการขนส่งจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัย ด้วยการใช้รถตำรวจ 1 คัน นำหน้ารถไปรษณีย์ และภายในรถไปรษณีย์ จะมีตำรวจ 1-2 นาย คอยเฝ้าดูความเรียบร้อย ทั้งยังมีการติดกล้องวงจรปิดภายในรถ และติดตั้ง GPS คำนวณระยะเวลาการเดินทาง ซึ่งรถขนส่งจะออกเดินทางพร้อมกันในเช้าของวันที่ 22 มีนาคม และถึงหน่วยเลือกตั้งภายใน 1 วัน และนำบัตรไปไว้ในห้องขังที่สถานีตำรวจในหน่วยเลือกตั้งนั้น ๆ

          ด้าน นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือบนบัตรเลือกตั้งเหมือนเช่นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยใช้เพียงการเซ็นชื่อบนต้นขั้วนั้น ว่า ตามขั้นตอนที่ถูกต้องแล้วจะใช้การเซ็นชื่อบนต้นขั้วเท่านั้น แต่ในการลงประชามติครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นมิติใหม่ของอดีต กกต. ที่คิดให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือแทนการเซ็นชื่อ และยืนยันว่าแม้จะใช้การเซ็นชื่ออย่างเดียว ก็ไม่มีความแตกต่างกัน เพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นผู้มาใช้สิทธิ์ ส่วนที่มีผู้กังวลว่าอาจทำให้มีการสวมสิทธิ์กันนั้น ยืนยันว่าสามารถส่งลายเซ็นบนต้นขั้วไปตรวจสอบ เพื่อยืนยันตัวบุคคลได้ที่กองพิสูจน์หลักฐาน จึงขอให้มั่นใจในความโปร่งใส
          นายณัฏฐ์ ยังได้กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งให้บัตรผิดเขตและมีการวินิจฉัยว่าเป็นบัตรเสียนั้น ว่า ต้องการให้ผู้ใช้สิทธิ์รักษาสิทธิ์ของตัวเอง หากได้รับบัตรผิดเขตก็ขอให้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับบัตรที่ถูกต้องมา ส่วนจะกลายเป็นบัตรเสียหรือไม่นั้นต้องรอวันที่ 24 มีนาคม ในการนับคะแนน หากนำบัตรออกมานับคะแนนและพบว่าไม่ตรงตามเขตจะถือว่าเป็นบัตรเสียทันที แต่หากพบระหว่างการคัดแยกบัตรสามารถที่จะส่งไปยังเขตที่ถูกต้องได้ก่อนให้คณะกรรมการประจำเขตพิจารณา ต้องเข้าใจว่าในเชิงระบบทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปตามกระบวนการ

          ทั้งนี้ หากตรวจสอบว่ามีผู้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ กกต. และบิดเบือนข้อเท็จจริงและทำให้ กกต. เสียหายจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN