สาวผวาหนัก ถูกหื่นกามลวนลามในรถตู้ แต่ตำรวจปล่อยตัว เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ให้แจ้งความอีกสถานีแทน พบมีประวัติลักทรัพย์-ล่วงละเมิดทางเพศบนรถโดยสารรวม 7 คดี
จากกรณีที่ น.ส.นก (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ได้เข้าร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ว่า ถูกชายคนหนึ่งลวนลามขณะโดยสารรถตู้สายกรุงเทพฯ-ลพบุรี (ปลายทางฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) พยายามนั่งเบียดใช้มือล้วงเข้าไปใต้กระเป๋าจับเข้าที่หว่างขา จึงได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าลุกขึ้นมาบอกว่าตนเองก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน แต่ได้ปัดป้องจนชายดังกล่าวลุกขึ้นมานั่งกับตนแทน ตนจึงโทร. แจ้งตำรวจ และจับคนร้ายไปที่สถานีตำรวจ แต่ได้คำตอบว่าให้ไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายพบว่าชื่อ นายสุรเดช อายุ 44 ปี มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ กระทำอนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศบนรถโดยสารรวมถึง 7 คดี แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าจึงต้องปล่อยตัวไปก่อน น.ส.นก บอกว่า รู้สึกคับแค้นใจอย่างบอกไม่ถูก ทำใจไม่ได้ทั้งที่คนร้ายอยู่ตรงหน้ากลับไม่ถูกดำเนินคดี จากนั้นก็เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง หลังผ่านไป 2 วัน เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้าจึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาฯ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ. สุพิตร โคนพันธ์ ผกก. (สอบสวน) สภ.คลองหลวง รักษาราชการแทน ผกก.สภ.คลองหลวง เพื่อขอให้เร่งสอบปากคำ น.ส.นก และรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ และจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะถือเป็นภัยสำหรับผู้หญิงอย่างยิ่ง ล่าสุดตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดธัญบุรีแล้ว
และในวันที่ 18 มีนาคม 2562 เฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เผยความคืบหน้าว่า น.ส.นก ได้เข้าขอบคุณนางปวีณา ที่ช่วยติดตามคดีและให้ความเป็นธรรม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับคนร้ายอย่างรวดเร็ว เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบจิตใจตนเป็นอย่างมาก ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาไปกระทำกับคนอื่นอีก บางคนถูกกระทำแต่อาย ไม่กล้าขอความช่วยเหลือ ทำให้ผู้ต้องหาได้ใจก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะตนต้องขึ้นรถตู้มาทำงานทุกวัน ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดผวา ถ้าเจอคนร้ายอีกอาจจะได้รับอันตราย เพราะคนร้ายจำหน้าตนได้ และเกรงว่าจะมีผู้หญิงอื่นตกเป็นเหยื่อ
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องความไม่ปลอดภัยต่อผู้หญิงทุกคน เราไม่ต้องการจะปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล ต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดี คนทำผิดต้องได้รับบทลงโทษ เพราะถ้าปล่อยให้ลอยนวลเขาก็จะกระทำต่อไปเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง และต้องขอบคุณผู้เสียหายเช่นกันที่กล้าหาญลุกขึ้นมาต่อสู้กับสิ่งที่ผิดกฎหมาย อยากให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้กับอะไรที่เราถูกกระทำ เราต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อความถูกต้อง
จากกรณีที่ น.ส.นก (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ได้เข้าร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ว่า ถูกชายคนหนึ่งลวนลามขณะโดยสารรถตู้สายกรุงเทพฯ-ลพบุรี (ปลายทางฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) พยายามนั่งเบียดใช้มือล้วงเข้าไปใต้กระเป๋าจับเข้าที่หว่างขา จึงได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าลุกขึ้นมาบอกว่าตนเองก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน แต่ได้ปัดป้องจนชายดังกล่าวลุกขึ้นมานั่งกับตนแทน ตนจึงโทร. แจ้งตำรวจ และจับคนร้ายไปที่สถานีตำรวจ แต่ได้คำตอบว่าให้ไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายพบว่าชื่อ นายสุรเดช อายุ 44 ปี มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ กระทำอนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศบนรถโดยสารรวมถึง 7 คดี แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าจึงต้องปล่อยตัวไปก่อน น.ส.นก บอกว่า รู้สึกคับแค้นใจอย่างบอกไม่ถูก ทำใจไม่ได้ทั้งที่คนร้ายอยู่ตรงหน้ากลับไม่ถูกดำเนินคดี จากนั้นก็เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง หลังผ่านไป 2 วัน เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้าจึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาฯ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ. สุพิตร โคนพันธ์ ผกก. (สอบสวน) สภ.คลองหลวง รักษาราชการแทน ผกก.สภ.คลองหลวง เพื่อขอให้เร่งสอบปากคำ น.ส.นก และรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ และจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะถือเป็นภัยสำหรับผู้หญิงอย่างยิ่ง ล่าสุดตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดธัญบุรีแล้ว
และในวันที่ 18 มีนาคม 2562 เฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เผยความคืบหน้าว่า น.ส.นก ได้เข้าขอบคุณนางปวีณา ที่ช่วยติดตามคดีและให้ความเป็นธรรม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับคนร้ายอย่างรวดเร็ว เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบจิตใจตนเป็นอย่างมาก ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาไปกระทำกับคนอื่นอีก บางคนถูกกระทำแต่อาย ไม่กล้าขอความช่วยเหลือ ทำให้ผู้ต้องหาได้ใจก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะตนต้องขึ้นรถตู้มาทำงานทุกวัน ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดผวา ถ้าเจอคนร้ายอีกอาจจะได้รับอันตราย เพราะคนร้ายจำหน้าตนได้ และเกรงว่าจะมีผู้หญิงอื่นตกเป็นเหยื่อ
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องความไม่ปลอดภัยต่อผู้หญิงทุกคน เราไม่ต้องการจะปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล ต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดี คนทำผิดต้องได้รับบทลงโทษ เพราะถ้าปล่อยให้ลอยนวลเขาก็จะกระทำต่อไปเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง และต้องขอบคุณผู้เสียหายเช่นกันที่กล้าหาญลุกขึ้นมาต่อสู้กับสิ่งที่ผิดกฎหมาย อยากให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้กับอะไรที่เราถูกกระทำ เราต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อความถูกต้อง
