หากจะขอมอบคำว่า “บุรุษผู้จุดปาฏิหาริย์” ให้แด่คุณ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ก็คงเหมาะสมที่สุดแล้ว บุรุษผู้สานฝันให้กับคนไทย สร้างปาฏิหาริย์และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้หลายต่อหลายครั้ง หากคุณวิชัยรับรู้ได้ เราอยากบอกว่า “ขอบคุณ”
ใคร ๆ ต่างรู้ว่า “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจ แต่ภาพจำไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะคุณวิชัยเป็นผู้จุดประกายและเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ในโลกของกีฬาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จากการที่คุณวิชัย ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ หรือ จิ้งจอกสยาม ในประเทศอังกฤษ ท่านเป็นเสมือน “ฮีโร่” ผู้ที่ปลุกปั้นและทุ่มเทในการพาทีมไต่ระดับจากแชมเปี้ยนชิพ ก้าวขึ้นสู่ระดับสูงสุดด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้เมื่อปี 2016 แล้วตอนนั้นเอง มูลค่าของสโมสรที่คุณวิชัยซื้อมาในราคา 39 ล้านปอนด์ พุ่งทะยานขึ้นสูงกว่า 400 ล้านปอนด์
ประธานสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก
นอกจากที่คุณวิชัยจะสวมบทบาทเป็นเจ้านายที่เคารพรักของบรรดานักเตะฟุตบอลเลสเตอร์ทุกคนแล้ว ท่านยังสามารถเป็นที่ปรึกษาปัญหาทุกอย่างได้ และมีความเป็นกันเอง ขนาดสื่ออังกฤษต่างพร้อมใจกันเชิดชูคุณวิชัยเป็น “ประธานสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก” เพราะไม่มีความคิดจะกอบโกยใด ๆ แถมยังใช้วิธีการบริหารจัดการที่แฝงความมีน้ำจิตน้ำใจแบบไทยแท้ได้อย่างน่าทึ่ง จนแทบไม่มีช่องว่างเหลือระหว่างบิ๊กบอสกับกองเชียร์ ซึ่งไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน และนั่นเองทำให้เหล่าแฟนกีฬาสรรเสริญคุณวิชัยในฐานะ “แรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่” ของใครอีกหลายคน หลังจากร่วมกันเขียนเทพนิยายเลสเตอร์ เพื่อจุดประกายความหวังให้กับคนตัวเล็ก ๆ ทั่วโลกต่อไป
คุณวิชัยบอกเสมอว่า เพราะการให้คือความสุข และการให้ยังสามารถทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ หากวันใดมีการแข่งขัน คุณวิชัยจะเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มกับแฟนบอลอยู่เสมอ ยิ่งไปกว่านั้นหากวันใดที่เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมเยือน คุณวิชัยก็จะออกค่าเดินทางให้แฟนบอลเพื่อจะได้ตามไปเชียร์ทีมรักของพวกเขาได้ สำหรับนักเตะในทีมเองก็จะมีการมอบรางวัล โบนัสเพื่อเป็นการซื้อใจ นอกจากนั้นคุณวิชัยยังได้บริจาคเงินกว่า 2 ล้านปอนด์ ให้กับมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ และโรงพยาบาลที่เมืองเลสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย จนถึงขั้นที่ว่า หากใครที่ไปเยือนเมืองเลสเตอร์ ซิตี้ แล้วบอกว่าเป็นคนไทย ก็จะได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างอบอุ่นเป็นพิเศษจากชาวเมืองเลยทีเดียว และแนวคิดนี้เองที่คุณวิชัยนำมาสร้างประโยชน์กับวงการฟุตบอลไทย
สานต่อความฝันบอลไทย “ปั้นนักกีฬาไทยสู่ลีกยุโรป”
หลากหลายโครงการจากกลุ่มบริษัท “คิง เพาเวอร์” ได้นำแนวคิดของคุณวิชัยมาต่อยอด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ปั้นนักกีฬาไทยสู่ลีกยุโรป” เพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชนไทยอย่างครบวงจร เพราะความฝันของเด็กไทยคือการได้ไปสัมผัสบรรยากาศการเล่นฟุตบอลในลีกยุโรป แต่เพราะขาดโอกาสและทุนทรัพย์ รวมถึงตัวกลางในการสร้างโอกาสให้เยาวชนที่มีความสามารถจริง ๆ ทั้งหมดนี้จึงเป็นได้แค่ความฝันที่ไม่มีวันกลายเป็นจริง
แต่คุณวิชัย ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นจริง ! จากสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปได้แล้ว หลังจากเกิดโครงการ “FOX HUNT ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม” ได้มอบทุนการศึกษาและโอกาสที่เงินไม่สามารถซื้อได้ให้กับเด็กไทย ส่งไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ และสโมสรโอเอช ลูเวิน ที่ประเทศเบลเยียม ถือเป็นการปูทางให้กับอนาคตของเยาวชนไทยให้ได้มีช่องทางเข้าไปเล่นในลีกยุโรปได้อย่างเต็มตัว
โครงการเพื่อสังคมของ “คิง เพาเวอร์” จากแนวคิดริเริ่มของคุณวิชัย ไม่ใช่เน้นแค่ที่ปลายน้ำ แต่ยังมุ่งพัฒนาส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยให้มีความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลในทุกมิติ ทั้งโครงการ “ล้านลูกล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” มอบลูกฟุตบอลจำนวน 1 ล้านลูก ให้เด็กไทยและชุมชน รวมถึงโครงการ “100 สนามพลังเยาวชนไทย” ที่สร้างสนามหญ้าเทียมจำนวน 100 สนามทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี นี่คือ ปณิธานตั้งมั่นที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตั้งใจจะทำให้ได้
“ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ข้อความจาก “ผู้ได้รับโอกาส” ถึงคุณวิชัย
“คำสอนของท่านประธานวิชัยในตอนแรกที่ผมไปอังกฤษเลย คือท่านบอกไว้ว่า โอกาสครั้งนี้ที่พวกผมได้คว้าไว้ เป็นโอกาสที่เด็กไทยหลาย ๆ คนต้องการเหมือนกัน แล้วในเมื่อพวกผมได้คว้ามันไว้แล้ว ก็ต้องทำให้เต็มที่เพื่อตัวเราเอง และเพื่อเด็กไทยคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสเหมือนเรา แล้วสุดท้ายคือทำเพื่อชาติของเราด้วย เพราะการที่เรามาในครั้งนี้ คือการเป็นตัวแทนเยาวชนของชาติ ดังนั้นทุกการกระทำมีความหมายและต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ท้ายที่สุด คือการทำทุกวินาทีให้มีค่าและมีความหมายที่สุด ขอบคุณที่ได้มอบโอกาสดี ๆ ให้ผม ผมกล้าพูดได้เลยว่า ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสที่ดีแบบนี้อีกครั้งในชีวิตไหม และต้องขอบคุณ คิง เพาเวอร์ ด้วย ที่ได้มอบโอกาสให้กับเด็กไทยได้สานฝันให้เป็นจริง ผมอยากให้มีโครงการดี ๆ แบบนี้ต่อไป ผมคิดว่าโครงการนี้จะยกระดับบอลไทยให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นครับ” กองกลางจาก โอเอช ลูเวิน ต้นสังกัดเดียวกับ “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ทิ้งท้าย
อีกหนึ่งเด็กไทย ซึ่งได้รับโอกาสจาก “คิง เพาเวอร์” อย่าง “แฟร้ง” สุวิจักขณ์ มูลแก้ว ที่ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตรของ เลสเตอร์ อะคาเดมี่ ในอังกฤษ เปิดใจว่า “ตอนเจอคุณวิชัยครั้งแรก ท่านบอกว่าให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ได้โอกาสมาอยู่อังกฤษแล้วก็ตั้งใจซ้อม ตั้งใจเรียน ขยัน มีวินัย อย่าท้อ และต้องเข้มแข็ง สำคัญที่สุดคือต้องอดทน คำพูดของท่านทำให้ผมอดทนอะไรหลาย ๆ อย่าง ตลอดเวลาที่ผมได้มาอยู่ที่นี่ ผมรู้สึกว่าต้องใช้โอกาสดี ๆ ที่ท่านได้ให้กับผมให้มีค่ามากที่สุด ทุกวันนี้ ผมได้กำลังใจเพราะคำพูดของท่านวันนั้น ขอบคุณที่ให้โอกาสเด็กไทยทุกคนได้มาเรียนที่ประเทศอังกฤษ ได้มาเล่นฟุตบอลที่แตกต่างจากเมืองไทย ผมไม่มีวันนี้แน่ ถ้าท่านไม่ได้ให้โอกาสดี ๆ แบบนี้ ขอบคุณโครงการ ฟ็อกซ์ ฮันท์ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ คิง เพาเวอร์ ได้ทำเพื่อคนไทย ได้ให้สิ่งดี ๆ กับคนไทย ขอบคุณจริง ๆ ครับ”
“ตูน บอดี้สแลม” ศิลปินที่คนไทยรักมาก ยกให้คุณวิชัยเป็น “ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” จากการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งน่าจะเป็นภาพเดียวกันกับที่คนไทยจดจำคุณวิชัยมากที่สุดในตอนนี้
ขอแค่ได้เห็นเด็กจาก ฟ็อกซ์ ฮันท์ ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่สักคน เราก็ถือว่าโครงการของเรา ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่แล้วครับ
คุณต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา