x close
hilight > ข่าวต่างประเทศ

ไซโคลนอิดาอีถล่มแอฟริกา บ้านเรือน 3 ประเทศ จมบาดาล ยอดเสียชีวิตอาจทะลุพันราย

| 12,601 อ่าน

          พายุไซโคลนอิดาลี พัดถล่ม โมซัมบิก ซิมบับเว และมาลาวี บ้านเรือนจมบาดาลทั้ง 3 ประเทศ ยอดผู้เสียชีวิต คาดทะลุ 1,000 คน ทีมเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ ชี้เป็นพายุรุนแรง สะเทือนขวัญที่สุด

          วันที่ 19 มีนาคม 2562 สำนักข่าวบีบีซี โมซัมบิก ซิมบับเว และ มาลาวี สามประเทศทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงจากพายุไซโคลนอิดาอี (Cyclone Idai) สิ่งปลูกสร้าง และต้นไม้ หักโค่นล้มระเนระนาด บ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่จมอยู่ใต้บาดาล ระดับน้ำท่วมขังสูงเกือบมิดหลังคาบ้าน และยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ คาดว่ามากเกินกว่า 1,000 ราย

          พายุไซโคลนอิดาอี พัดถล่มมาตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม มีความเร็วลม 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และก่อให้เกิดฝนตกหนักต่ออย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ฝนหยุดตกแล้ว แต่คาดว่าในอีก 2-3 วันข้างหน้า พายุฝนจะกลับมาอีกครั้ง

          นายฟิลิเป นยูซี ประธานาธิบดีโมซัมบิก ได้เดินทางลงพื้นที่ที่ประสบภัยร้ายแรงที่สุดเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเขากล่าวว่าสถานการณ์เลวร้ายมาก และพบเห็นศพผู้เสียชีวิตลอยมาตามแม่น้ำ ขณะที่ นายเอ็มเมอร์สัน เอ็มนังกักวา ประธานาธิบดีซิมบับเว ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติแล้ว ก่อนหน้านี้เขาประชุมอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ได้รีบเดินทางกลับมายังซิมบับเวแล้ว

          เจมี่ เลอซูเยร์ หัวหน้าที่ช่วยเหลือจาก สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ หรือ ไอเอฟอาร์ซี (IFRC - International Federation of Red Cross and Red Crescent Societies) กล่าวว่า ภัยพิบัติครั้งนี้มันเลวร้ายสะเทือนขวัญอย่างที่สุด ทีมเจ้าหน้าที่ใช้เวลาทั้งคืนการออกติดตามหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ปีนหนีน้ำไปอยู่บนต้นไม้ และยังคงเดินหน้าช่วยเหลืออยู่

          ทางด้าน เจอรัลด์ เบอร์เก เจ้าหน้าที่โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า ทีมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเมืองเบรา ทางตะวันออกของโมซัมบิก การเดินทางลำบากมาก กว่าจะถึงพื้นที่ก็ปาเข้าไปวันที่ 17 มีนาคม สิ่งที่เกิดคือฝันร้ายอย่างแท้จริง บ้านเรือนประชาชนกว่า 500,000 ครัวเรือน ได้รับความเสียหายจากพายุ แทบไม่มีบ้านหลังไหนที่ไม่เสียหาย หลังคาหายเกลี้ยงไปหลายหลัง บางหลังก็ไม่เหลือแม้แต่กำแพง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ท้องถนนเต็มไปด้วยเสาไฟฟ้าที่ล้มทับกันระเนระนาด

          ผู้รอดชีวิตอย่างหวุดหวิดหลายคนจากภัยพิบัติในพื้นที่เมืองชิมานิมานิ ทางตะวันออกของประเทศซิมบับเว ได้รับการช่วยเหลือและกำลังพักฟื้นในโรงพยาบาล พวกเขาต่างพบเห็นบ้านเรือนและคนในครอบครัวหายไปกับพายุ

          โดย เจน ชิตซูโร เล่าอย่างเจ็บปวดว่า เธอพบเห็นบ้านของตัวเองและคนในครอบครัว ถูกน้ำพัดหายไปต่อหน้าต่อตาบ้านของเธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ไม่เหลือเสื้อผ้า ไม่เหลือเฟอร์นิเจอร์ เหลือเศษซากให้ดูต่างหน้า เธอพยายามออกตามหาลูกสาวตามใต้ซากปรักหักพัง แต่ก็หาไม่พบ ขณะที่ ไพรส์ ชิโปเร เล่าว่า ตอนพายุมา เธอกับลูกสาวนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน และอยู่ดี ๆ ก็มีน้ำพัดเข้ามาอย่างแรง จนพัดลูกสาวหลุดมือหายไป

          ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในโมซัมบิกที่สามารถยืนยันได้คือ 84 ราย แต่ข้อมูลจากซีเอ็นเอ็น ประธานาธิบดีของโมซัมบิก ชี้ว่าจากความสูญเสียที่เกิดขึ้นน่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน และอีก 100,000 ชีวิตกำลังอยู่ในอันตราย

          ส่วนที่ซิมบับเว มีผู้สูญหาย 217 ราย และมีผู้เสียชีวิตที่สามารถยืนยันได้ 98 ราย ในจำนวนนี้รวมทั้งเด็กนักเรียน 2 คน ของโรงเรียนเซนต์ชาร์ล ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำชายล้วน ตั้งอยู่ในเมืองชิมานิมานิ เนื่องจากหินและดินถล่มทับหอพักของพวกเขา เด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้รับการช่วยเหลือแล้ว ทางด้านประเทศมาลาวีก็เดือดร้อนหนักเช่นกัน และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 122 ราย

          ทั้งนี้ คาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในพื้นที่ประสบภัยทั้ง 3 ประเทศ จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะนี้ปฏิบัติการช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบภัยกำลังดำเนินไป หลายประเทศจากนานาชาติก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลือแล้ว

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไซโคลนอิดาอีถล่มแอฟริกา บ้านเรือน 3 ประเทศ จมบาดาล ยอดเสียชีวิตอาจทะลุพันราย อัปเดตล่าสุด 19 มีนาคม 2562 เวลา 18:14 12,601 อ่าน
TOP