ช็อก แม่รอผัวเผลอ คว้ามีดฆ่าปาดคอลูกสาว 3 สัปดาห์ เหตุอิจฉาที่ผัวรักลูกมากกว่า

 

             ช็อก แม่รอสามีเผลอ คว้ามีดฆ่าปาดคอลูกสาว 3 สัปดาห์ดับจมกองเลือด เหตุอิจฉาที่สามีรักลูกมากกว่า เตรียมส่งตัวประเมินทางจิตเวช

              รายงานเผยว่า แม่วัย 21 ปี ฉวยโอกาสขณะที่สามีวัย 26 ปี ออกจากอพาร์ตเมนต์ไปทิ้งขยะ ก่อเหตุสังหารลูกสาววัยแบเบาะของตัวเอง สามีของเธอออกจากห้องไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่เมื่อกลับมาเขาก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นมือของภรรยาเต็มไปด้วยเลือด เขารีบวิ่งเข้าไปดูลูกสาวในห้องนอนทันที แล้วก็ถึงกับช็อกกับสภาพของทารกที่นอนนิ่งไม่ไหวติงจมกองเลือดอยู่

              สามีของผู้ต้องหาจึงโทร. ตามหน่วยกู้ภัยมาให้การช่วยเหลือทันที ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่ถามสามีของตัวเองว่า "คุณร้องไห้ทำไมน่ะ"

               ด้าน มาเรีย แม่ของฝ่ายชาย เปิดเผยว่า ลูกชายของเธอออกจากห้องไปได้ไม่กี่นาที ลูกสะใภ้ก็คว้ามีดทำครัวมาเชือดคอเด็ก เธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้อิจฉาลูกตัวเอง เพราะคิดว่าสามีรักลูกมากกว่า 

              "ฉันกับลูกชายของฉันรักเด็กคนนี้มาก เราคิดถึงและดูแลเธออย่างดี ทำให้ลูกสะใภ้อิจฉา คิดว่าสามีรักลูกมากกว่าเธอ เมื่อเช้าฉันยังอาบน้ำให้หลานอยู่แท้ ๆ แต่ตอนนี้เด็กน้อยไม่อยู่อีกแล้ว" มาเรีย เผยด้วยความเศร้าสลด 

              ทั้งนี้ ทางตำรวจเผยว่า พวกเขาพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุถูกวางอยู่ที่อ่างล้างจาน บนมีดยังมีรอยเลือดของทารกติดอยู่ ในขณะที่ทารกเสียชีวิตจากบาดแผลที่คอ แต่แม่ของเด็กกลับไม่สามารถอธิบายได้ว่าเธอก่อเหตุเพราะอะไร เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น

              รายงานเผยว่า หญิงผู้ก่อเหตุนั้นป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 โดยเชื่อว่าโรคน่าจะส่งผลต่อสุขภาพจิตของเธอ เธอเพิ่งเข้ารับการรักษาและถูกปล่อยตัวออกมาจากศูนย์ดูแลสุขภาพจิตเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา เพียงไม่กี่วันหลังคลอด เพราะแพทย์เชื่อว่าเธอหายดีแล้ว

              ขณะนี้หญิงสาวอยู่ในการควบคุมตัวของทางตำรวจ โดยเธอจะต้องเข้ารับการประเมินทางจิตเวช และหากพบว่าเธอมีสติรู้ตัวดีตอนก่อเหตุ เธออาจต้องเผชิญกับข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และอาจต้องรับโทษจำคุก 15 ปี