ศาลพิพากษา ประหารชีวิต นายพูล้า สัญชาติลาว ฆ่าปาดคอยาย-หลาน 2 ศพ และเด็กสาหัสอีก 1 ชี้โหดเหี้ยมทารุณผิดวิสัยมนุษย์ ไม่มีเหตุอันควรปรานีที่จะลดโทษให้
โดยจำเลยหยิบอาวุธมีดจากในครัว
แล้วงัดช่องลมห้องน้ำปีนเข้าไปในบ้านของนางมะลิ เพื่อลักทรัพย์
พบนางมะลิจึงบีบคอ ทำร้ายร่างกาย
ใช้อาวุธมีดปาดลำคอนางมะลิแล้วหยิบเอาทรัพย์ไป แต่ ด.ญ.อิสห์ยา และ
ด.ญ.อาภารัตน์ ตื่นขึ้นร้องโวยวาย จำเลยจึงใช้อาวุธมีดปาดลำคอ ด.ญ.อิสห์ยา
และ ด.ญ.อาภารัตน์ ก่อนหลบหนีไป เพื่อเตรียมกลับลาว แต่ถูกจับกุมได้ก่อน
การที่จำเลยใช้อาวุธมีดปาดลำคอนางมะลิ และปาดลำคอ ด.ญ.อิสห์ยา
จนถึงแก่ความตาย และปาดคอ ด.ญ.อาภารัตน์ บาดเจ็บสาหัส
เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย
ทั้งนี้ ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษประหารชีวิตเพียงสถานเดียว
แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา
เพราะกระทำโดยอุกอาจต่อหญิงชราและเด็กหญิงอย่างโหดเหี้ยมทารุณผิดวิสัยมนุษย์
นับเป็นภัยต่อสุจริตชน จึงไม่มีเหตุอันควรปรานีที่จะลดโทษให้
และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่ 1 และที่ 2 เป็นเงินคนละ
200,000 บาท กับให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 1,800,000 บาท
แก่โจทก์ร่วมที่ 3 พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
นับแต่วันก่อเหตุเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์
วันที่ 21 มีนาคม 2562 ข่าวเวิร์คพอยท์
รายงานว่า ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ บัลลังก์ 8
ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายพูล้า สัญชาติลาว
อายุ 22 ปี เป็นจำเลย ว่า
กระทำผิดกฎหมายฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด
ฐานบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ฐานฆ่าชิงทรัพย์นางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 68
ปี และ ด.ญ.อิสห์ยา เพิกเฉย อายุ 12 ปี ฐานพยายามฆ่า ด.ญ.อาภารัตน์ สำรวย
อายุ 9 ขวบ โดยทารุณโหดร้าย เพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานชิงทรัพย์
เพื่อปกปิดความผิด และฐานฆ่าแมวอันเป็นการทารุณกรรมโดยไม่มีเหตุสมควร
ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก