เด็กสาวอเมริกัน วัย 19 ปี ผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงในโรงเรียน ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังทุกข์ที่เพื่อนต้องตาย และรู้สึกผิดที่ยังมีชีวิตอยู่ ใบหน้าที่ยิ้มสดใส แต่ข้างในแสนเจ็บปวด
ซิดนีย์เป็นเด็กสาวร่าเริงสดใส
และมักทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม เธอเป็นคนสวย เป็นเชียร์ลีดเดอร์
และมีอนาคตที่ดีรออยู่ ทว่าตั้งแต่วันแห่งความรักเมื่อปีที่แล้ว
ทุกอย่างก็พังลงไป และโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในวันนั้น
ก็นับเป็นหนึ่งในเหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐฯ
เด็กสาวคนนี้ก็อยู่ที่โรงเรียนในวันนั้น แต่เธอไม่ได้อยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ มีโดว์ พอลแล็ก หนึ่งในเพื่อนสนิทของเธอ กลับอยู่ที่นั่นและถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ ซิดนีย์ก็ประสบภาวะสะเทือนขวัญ เครียด หรือจิตใจผิดปกติจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง หรือที่เรียกว่า พีทีเอสดี (PTSD - Post Traumatic Stress Disorder)
เด็กสาวได้เปิดเผยความเจ็บปวดนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Sydney Aiello ของเธอ ซิดนีย์ได้ไปร่วมขบวนต่อต้านความรุนแรงจากการใช้ปืน และพยายามต่อสู้เพื่อคนอื่นแม้ว่าภายนอกเธอจะดูปกติดี แต่ความสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตเด็กสาวคนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยซิดนีย์ได้โพสต์ไว้อาลัยมีโดว์ และกล่าวว่าเธอเสียใจมากที่ต้องสูญเสียเพื่อนคนนี้
ซิดนีย์ยังโพสต์รูปภาพที่เคยถ่ายคู่กับมีโดว์เมื่อครั้งอดีต ภาพหนังสือเฟรนด์ชิปสมัยเกรด 5 หรือประถมศึกษาปีที่ 5 ระบุลายมือของมีโดว์ที่เขียนถึงตัวเอง ส่งความรักและห่วงใย พร้อมบอกว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นเพื่อนกัน รวมถึงคลิปวิดีโอสนุก ๆ ที่บันทึกชีวิตเพื่อนคนนี้ สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
ข้อมูลจากเดลี่เมล ระบุว่า ซิดนีย์จบการศึกษาในเดือนมีนาคม หรือหนึ่งเดือนนับจากเหตุกราดยิง เธอเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฟลอริดา แอตแลนติก แต่การเรียนของเธอไม่ราบรื่นนัก เพราะเธอหวาดกลัวการอยู่ในห้องเรียนมาก และมีอาการซึมเศร้าอยู่บ่อย ๆ
ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2561 ซิดนีย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นนัย ๆ ถึงความคิดอยากตาย โพสต์ดังกล่าวระบุชื่อคนดัง 3 คน ที่เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย พร้อมข้อความทำนองว่า บางครั้งที่แข็งแกร่งที่สุดก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น และสังคมก็ควรหันไปมองพวกเขาเหล่านี้บ้าง
แม้ว่าซิดนีย์จะดูเศร้า แต่ก็ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร และความสะเทือนใจจากการเสียชีวิตของมีโดว์ทำให้ซิดนีย์จมดิ่งลงไปในความทุกข์ ลึกลงเรื่อย ๆ และความรู้สึกผิดที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ มันกัดกินหัวใจเธอ จนกระทั่งในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม ซิดนีย์ก็จบชีวิตตัวเองด้วยการยิงตัวตาย
ครอบครัวของซิดนีย์ ได้กล่าวไว้อาลัยถึงเธอว่า ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา เด็กสาวคนนี้ได้ใช้ชีวิตของเธอในฐานะลูกสาวอันเป็นที่รัก ในฐานะพี่สาว และเพื่อนที่ดีต่อใคร ๆ หลายต่อหลายคน เธอมอบแสงสว่างสดใสในทุก ๆ ที่ที่เธอก้าวไปเยือน หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความคิดอยากช่วยเหลือคนอื่น และเธอก็ใฝ่ฝันว่าจะทำงานในวงการการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ หรือผู้ป่วยที่ต้องการความรักความดูแลเป็นพิเศษ
แอนดรูว์ พอลแล็ก พ่อของมีโดว์ ผู้เข้าใจถึงความเจ็บปวดแห่งการสูญเสีย ได้กล่าวแสดงความเสียใจจากหัวใจถึงพ่อแม่ของซิดนีย์ เขากล่าวว่า เด็กสาวทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันน่าเศร้าและเลวร้ายมาก เขาอยากให้ทุกคนสู้ต่อไป ไม่อยากให้ใครต้องมาจบชีวิตตัวเองอีก เพราะมันไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย
ขณะที่ ฮันเตอร์ พอลแล็ก พี่ชายของมีโดว์ ก็ได้เขียนคำไว้อาลัยจากใจถึงซิดนีย์ว่า
"ผมเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องฝังร่างเด็กสาวแสนสวยในวันนี้ ชุมชนของเราต้องพบเจอกับข่าวร้ายอีกครั้ง ได้โปรดร่วมเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวไอเยโลด้วยนะครับ"
วันที่ 24 มีนาคม 2562 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น
รายงานว่า ซิดนีย์ ไอเยโล เด็กสาวชาวอเมริกัน วัย 19 ปี
ผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยมสโตนแมน ดักลาส ที่รัฐฟลอริดา
เมื่อปีที่แล้ว ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
หลังจากทนทุกข์และเจ็บปวดกับความเสียใจที่เพื่อนสนิทต้องจากไป
และสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างมากที่ยังมีชีวิตอยู่
จนไม่สามารถอดทนอยู่ต่อไปได้อีก
ซิดนีย์ (ขวา) ถ่ายภาพคู่กับ มีโดว์ (ซ้าย) เพื่อนสนิท ที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก
Sydney Aiello
เด็กสาวคนนี้ก็อยู่ที่โรงเรียนในวันนั้น แต่เธอไม่ได้อยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ มีโดว์ พอลแล็ก หนึ่งในเพื่อนสนิทของเธอ กลับอยู่ที่นั่นและถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ ซิดนีย์ก็ประสบภาวะสะเทือนขวัญ เครียด หรือจิตใจผิดปกติจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง หรือที่เรียกว่า พีทีเอสดี (PTSD - Post Traumatic Stress Disorder)
เด็กสาวได้เปิดเผยความเจ็บปวดนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก Sydney Aiello ของเธอ ซิดนีย์ได้ไปร่วมขบวนต่อต้านความรุนแรงจากการใช้ปืน และพยายามต่อสู้เพื่อคนอื่นแม้ว่าภายนอกเธอจะดูปกติดี แต่ความสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตเด็กสาวคนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยซิดนีย์ได้โพสต์ไว้อาลัยมีโดว์ และกล่าวว่าเธอเสียใจมากที่ต้องสูญเสียเพื่อนคนนี้
มีโดว์ พอลแล็ก และ ซิดนีย์ สมัยยังเด็ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก
Sydney Aiello
ซิดนีย์ยังโพสต์รูปภาพที่เคยถ่ายคู่กับมีโดว์เมื่อครั้งอดีต ภาพหนังสือเฟรนด์ชิปสมัยเกรด 5 หรือประถมศึกษาปีที่ 5 ระบุลายมือของมีโดว์ที่เขียนถึงตัวเอง ส่งความรักและห่วงใย พร้อมบอกว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นเพื่อนกัน รวมถึงคลิปวิดีโอสนุก ๆ ที่บันทึกชีวิตเพื่อนคนนี้ สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
ข้อมูลจากเดลี่เมล ระบุว่า ซิดนีย์จบการศึกษาในเดือนมีนาคม หรือหนึ่งเดือนนับจากเหตุกราดยิง เธอเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฟลอริดา แอตแลนติก แต่การเรียนของเธอไม่ราบรื่นนัก เพราะเธอหวาดกลัวการอยู่ในห้องเรียนมาก และมีอาการซึมเศร้าอยู่บ่อย ๆ
ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2561 ซิดนีย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นนัย ๆ ถึงความคิดอยากตาย โพสต์ดังกล่าวระบุชื่อคนดัง 3 คน ที่เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย พร้อมข้อความทำนองว่า บางครั้งที่แข็งแกร่งที่สุดก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น และสังคมก็ควรหันไปมองพวกเขาเหล่านี้บ้าง
แม้ว่าซิดนีย์จะดูเศร้า แต่ก็ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร และความสะเทือนใจจากการเสียชีวิตของมีโดว์ทำให้ซิดนีย์จมดิ่งลงไปในความทุกข์ ลึกลงเรื่อย ๆ และความรู้สึกผิดที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ มันกัดกินหัวใจเธอ จนกระทั่งในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม ซิดนีย์ก็จบชีวิตตัวเองด้วยการยิงตัวตาย
ครอบครัวของซิดนีย์ ได้กล่าวไว้อาลัยถึงเธอว่า ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา เด็กสาวคนนี้ได้ใช้ชีวิตของเธอในฐานะลูกสาวอันเป็นที่รัก ในฐานะพี่สาว และเพื่อนที่ดีต่อใคร ๆ หลายต่อหลายคน เธอมอบแสงสว่างสดใสในทุก ๆ ที่ที่เธอก้าวไปเยือน หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความคิดอยากช่วยเหลือคนอื่น และเธอก็ใฝ่ฝันว่าจะทำงานในวงการการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ หรือผู้ป่วยที่ต้องการความรักความดูแลเป็นพิเศษ
แอนดรูว์ พอลแล็ก พ่อของมีโดว์ ผู้เข้าใจถึงความเจ็บปวดแห่งการสูญเสีย ได้กล่าวแสดงความเสียใจจากหัวใจถึงพ่อแม่ของซิดนีย์ เขากล่าวว่า เด็กสาวทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันน่าเศร้าและเลวร้ายมาก เขาอยากให้ทุกคนสู้ต่อไป ไม่อยากให้ใครต้องมาจบชีวิตตัวเองอีก เพราะมันไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย
ขณะที่ ฮันเตอร์ พอลแล็ก พี่ชายของมีโดว์ ก็ได้เขียนคำไว้อาลัยจากใจถึงซิดนีย์ว่า
"ผมเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องฝังร่างเด็กสาวแสนสวยในวันนี้ ชุมชนของเราต้องพบเจอกับข่าวร้ายอีกครั้ง ได้โปรดร่วมเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวไอเยโลด้วยนะครับ"
"สำหรับซิดนีย์ หลับให้สบายนะ และช่วยดูแลน้องสาวของพี่ในสวรรค์ด้วยนะ"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก
Sydney Aiello
ภาพจาก เฟซบุ๊ก
Sydney Aiello