ทีมแพทย์สหรัฐฯ ประสบความสำเร็จครั้งแรกของโลก ผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายไตบริจาคให้ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ด้วยกันเอง โดยขณะนี้ทั้งคู่ปลอดภัย อาการปกติดี
นีนา มาร์ติเนซ (กลาง) ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ผู้บริจาคไต, ดร.ดอร์รี เซเกฟ (ซ้าย) และ ดร.คริสติน ดูแรนด์ (ขวา)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
นีนา มาร์ติเนซ (กลาง) ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ผู้บริจาคไต, ดร.ดอร์รี เซเกฟ (ซ้าย) และ ดร.คริสติน ดูแรนด์ (ขวา)
ภาพจาก Brendan Smialowski / AFP
วันที่ 29 มีนาคม 2562 สำนักข่าวบีบีซี เผยรายงานความสำเร็จครั้งสำคัญทางการแพทย์ เมื่อทีมแพทย์สหรัฐอเมริกา ประจำศูนย์การแพทย์จอห์น ฮอปกินส์ ในรัฐแมริแลนด์ สามารถทำการเปลี่ยนถ่ายไตของผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีรายหนึ่ง ไปให้ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีอีกรายหนึ่งได้ โดยทั้งคู่ปลอดภัย และอาการเป็นปกติดี
การปฏิบัติการผ่าตัดดำเนินขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา โดย นีนา มาร์ติเนซ วัย 35 ปี ผู้บริจาค จากเมืองแอตแลนตา เผยความรู้สึกว่า "รู้สึกดี" เธอได้รับแรงบันดาลใจในการบริจาคไตครั้งนี้จากรายการ Grey's Anatomy รายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการแพทย์ของสหรัฐฯ และเธอรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการทางการแพทย์ครั้งแรกและครั้งสำคัญเช่นนี้
"ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนที่พวกเขาเฝ้ารอ สำหรับใครที่กำลังเริ่มเผชิญความยากลำบาก ให้คิดว่ามันทำได้" มาร์ติเนซ กล่าว
การปฏิบัติการผ่าตัดดำเนินขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา โดย นีนา มาร์ติเนซ วัย 35 ปี ผู้บริจาค จากเมืองแอตแลนตา เผยความรู้สึกว่า "รู้สึกดี" เธอได้รับแรงบันดาลใจในการบริจาคไตครั้งนี้จากรายการ Grey's Anatomy รายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการแพทย์ของสหรัฐฯ และเธอรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการทางการแพทย์ครั้งแรกและครั้งสำคัญเช่นนี้
"ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนที่พวกเขาเฝ้ารอ สำหรับใครที่กำลังเริ่มเผชิญความยากลำบาก ให้คิดว่ามันทำได้" มาร์ติเนซ กล่าว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
"นี่เป็นครั้งแรกของโลก ที่ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตได้รับการอนุญาตให้บริจาคไต" ดร.ดอร์รี เซเกฟ หนึ่งในทีมแพทย์ กล่าว โดยก่อนหน้านี้มีความคิดว่า ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีมีความเสี่ยงมากเกินไปสำหรับการบริจาคไต แต่ด้วยประโยชน์ของการนำยาต้านรีโทรไวรัส (Anti-retroviral) หรือยาสำหรับรักษาการติดเชื้อรีโทรไวรัส โดยเฉพาะในกลุ่มไวรัสเอชไอวี ชนิดใหม่มาใช้ ทำให้ไตของผู้ป่วยมีความปลอดภัย
ดร.คริสติน ดูแรนด์ รองศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์แพทย์และเนื้องอกวิทยา ของศูนย์จอห์น ฮอปกินส์ เผยว่า การผ่าตัดครั้งนี้เป็นความท้าทาย และทำให้โลกมองเรื่องเชื้อเอชไอวีในแบบที่ต่างไป รวมไปถึงได้เห็นการแพทย์ที่ก้าวหน้า โดยผู้ป่วยทั้ง 2 คนรู้สึกซึ้งใจอย่างมากต่อการปฏิบัติการครั้งนี้ที่ประสบความสำเร็จ ส่วนด้านผู้รับบริจาคขอไม่เปิดเผยนาม แต่ร่างกายตอบสนองต่ออวัยวะใหม่ได้เป็นอย่างดี และทางทีมแพทย์ได้ติดตามเฝ้าดูอาการต่อไปในระยะยาว
ดร.คริสติน ดูแรนด์ รองศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์แพทย์และเนื้องอกวิทยา ของศูนย์จอห์น ฮอปกินส์ เผยว่า การผ่าตัดครั้งนี้เป็นความท้าทาย และทำให้โลกมองเรื่องเชื้อเอชไอวีในแบบที่ต่างไป รวมไปถึงได้เห็นการแพทย์ที่ก้าวหน้า โดยผู้ป่วยทั้ง 2 คนรู้สึกซึ้งใจอย่างมากต่อการปฏิบัติการครั้งนี้ที่ประสบความสำเร็จ ส่วนด้านผู้รับบริจาคขอไม่เปิดเผยนาม แต่ร่างกายตอบสนองต่ออวัยวะใหม่ได้เป็นอย่างดี และทางทีมแพทย์ได้ติดตามเฝ้าดูอาการต่อไปในระยะยาว