จากปากเด็กลูกครึ่งตกตึก แม่ไม่เคยพาไปทำกายภาพบำบัด -หนองไหล ตอนนี้งอขาไม่ได้ !

          น้องลูก้า และน้องดีดี้ 2 เด็กลูกครึ่ง เผยหนีจากบ้านเพราะแม่ทำร้าย พบแผลตกตึกยังไม่หาย เผยแม่ไม่ช่วยทำแผล ไม่พาไปกายภาพ ซ้ำยังกระทืบแผล สุดทนต้องหนีออกจากบ้าน
          จากกรณีที่ น้องลูก้า วัย 11 ขวบ และน้องดีดี้ วัย 12 ปี เด็กที่รอดชีวิตจากเหตุตกจากห้องพักย่านรามคำแหง หนีออกจากบ้านด้วยการเดินเท้ากว่า 2 ชั่วโมง หวังไปหาพ่อชาวสวิส ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยเหลือ โดยเด็กทั้ง 2 คนมีอาการซึมเศร้า ยืนยันว่าไม่อยากอยู่กับแม่ชาวไทยแล้ว เนื่องจาก 4 ปีที่ผ่านมานั้นโดนทำร้ายแทบทุกวัน (อ่านข่าว : คดีพลิก ! เด็กลูกครึ่งหายตัว ที่แท้เดินเท้า 2 ชม. หนีออกจากบ้าน โดนแม่ตีซ้ำแผลตกตึก !)

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 31 มีนาคม 2562 เพจเฟซบุ๊ก ล่า รายงานว่า จากการสอบถาม น้องลูก้า และน้องดีดี้ ก่อนส่งเข้าบ้านพักเด็ก น้องร้องไห้บอกว่า "หนูอยากให้พ่อมาเร็ว ๆ" และ "หนูกลัวเเม่มาตามกลับบ้าน" โดยพบว่าตอนนั่งรถไปบ้านพักเด็ก ทั้งคู่เห็นรถของเเม่ ต่างพากันหมอบลง เนื่องจากจำได้ และไม่อยากให้แม่มาเห็น


           นอกจากนี้ เรื่องที่น่าสงสารคือ บาดแผลที่ขาของน้องดีดี้ ซึ่งได้รับจากเหตุตกตึกพร้อมกับน้อง ๆ อีก 3 คน ซึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดัง พบว่า 1 ปีผ่านมา แผลยังไม่หาย โดยทุกวันน้องดีดี้ต้องทำแผลเอง โดยที่แม่นั่งดูเฉย ๆ ปัจจุบันน้องดีดี้งอขาไม่ได้ ตามจริงน้องต้องทำกายภาพบำบัด แต่แม่ไม่ได้พาไป  

           ทั้งนี้ ชนวนเหตุที่ทั้งคู่หนีออกจากบ้าน เด็ก ๆ เล่าว่า แม่ได้ทำร้ายดีดี้แบบไม่มีเหตุผล จนลูก้าเข้าไปช่วยห้าม แต่ก็ถูกแม่ทำร้ายลูกกลับ ซ้ำแม่ยังกระทืบซ้ำตรงแผลของดีดี้ต่อหน้าลูก้า โดยสภาพแผลปัจจุบันของดีดี้ยังมีหนองไหลอยู่ตลอด และถือเป็นภาพที่น่าสงสารอย่างมากที่แผลของน้องยังคงอยู่ในสภาพไม่หายดีเช่นนี้




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เพจเฟซบุ๊ก ล่า