x close

คดีพลิก เด็กลูกครึ่งหายตัว ที่แท้เดินเท้า 2 ชม. หนีออกจากบ้าน โดนแม่ตีซ้ำแผลตกตึก

          สองเด็กลูกครึ่งสวิส หนีพ้นบ้าน ด้านมูลมิธิเด็กเข้าช่วยแล้ว พบต้นตอถูกแม่ทำร้ายทุกวัน ตีซ้ำแผลตกตึกจนผ่าน 1 ปี ยังไม่หาย แฉเห็นแม่เสพยา จากนี้หวังได้ไปอยู่กับพ่อ

เด็กลูกครึ่งตกตึก

เด็กลูกครึ่งตกตึก

          จากกรณีที่โลกออนไลน์ช่วยกันตามหา น้องลูก้า วัย 11 ขวบ และน้องดีดี้ วัย 12 ปี เด็กที่รอดชีวิตจากเหตุตกตึกจากห้องพักย่านรามคำแหง จนส่งผลให้น้องอีก 2 คน เสียชีวิต โดยล่าสุดพบว่า น้องลูก้า และน้องดีดี้ ได้หนีออกจากบ้านย่านซอยรามคำแหง 34

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 30 มีนาคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สอบถาม นางสาวรัตติกาล ประกายแก้ว แม่เด็ก เปิดเผยพร้อมน้ำตาว่า ตนพอจะจำคำพูดสุดท้ายของเด็กได้ว่า "จะไปจัดการป่ะป๊า จะไปจัดการแทนคุณแม่" ไม่รู้ว่าลูกจะสื่ออะไร คาดว่าน่าจะเกี่ยวกับกระแสข่าวที่แม่ถูกโจมตีจากฝ่ายพ่อ ลูกจึงอาสาออกไปดำเนินการแทน โดยครั้งสุดท้ายสามารถติดต่อลูกผ่านโทรศัพท์ได้ในช่วงเวลา 14.00 น. ก่อนจะปิดเครื่องไป

           นางสาวรัตติกาล เล่าอีกว่า จากนั้นตนและยายของเด็ก จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปดูที่บ้านพ่อของเด็กย่านร่มเกล้า แต่ไม่พบ เพราะพ่อเด็กย้ายบ้านไปแล้ว ไม่รู้ว่าย้ายไปอาศัยอยู่ที่ไหน แต่ก็มีเพื่อนบ้านบางคนบอกกับตนว่าพบเห็นเด็ก 2 คน เดินทางมาที่บ้านของพ่อจริง แต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหนต่อ ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่พ่อที่เป็นคนพาเด็กไป เพราะเนื่องจากล่าสุดตนตรวจสอบแล้วว่าพ่อเด็กอยู่ต่างประเทศ

เด็กลูกครึ่งตกตึก

เด็กลูกครึ่งตกตึก

           ทั้งนี้ นางสาวรัตติกาล ยืนยันว่า ก่อนที่เด็กจะออกจากบ้านไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีการดุด่าหรือทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่าเรื่องของการดุด่าเป็นเรื่องธรรมดาที่แม่จะสอนลูก แต่ไม่ถึงขั้นลูกต้องหนีออกจากบ้าน ดังนั้น จากที่ลูกทั้ง 2 คนหายตัวออกไปตนจึงรู้สึกเป็นห่วง และกังวลเป็นอย่างมาก ได้แต่ออกตามหาและสอบถามคนที่เห็น แต่ก็ยังไม่ทราบเบาะแส จึงเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้

เด็กลูกครึ่งตกตึก

           ด้าน เพื่อนบ้านของพ่อเด็ก เปิดเผยว่า เด็กมาที่หน้าบ้านของพ่อจริง แต่พบว่าพ่อย้ายบ้านไปแล้ว โดยเด็กมีอาการซึมเศร้าและร้องไห้ ก่อนเล่าว่า เดินมาจากบ้านย่านรามคำแหง หวังที่จะได้เจอพ่อ พูดซ้ำ ๆ ว่าไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่กับแม่เพราะมักโดนทำร้าย แม่มักบังคับให้บอกกับทุกคนว่าไม่อยากเจอพ่อ ซึ่งเด็กยืนยันว่าไม่อยากไปเจอแม่อีก ตนจึงประสานไปยังตำรวจ ก่อนที่ต่อมาจะมีกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ดส.) และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (พม.) เข้ามาช่วยเหลือ

เด็กลูกครึ่งตกตึก

           ขณะที่ นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เผยว่า เด็กเล่าให้ฟังว่า ถูกแม่ทำร้ายร่างกายมาต่อเนื่องตลอดทั้ง 4 ปี บังคับให้มีพฤติกรรมหลายอย่างที่ไม่เหมาะสม และครั้งสุดท้ายถูกทำร้ายร่างกายหนัก มีรอยช้ำตามร่างกาย จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เดินเท้าด้วยระยะทางรวมกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อไปหาพ่อ ขณะนี้ พม. ประเมินแล้วว่า แม่ไม่มีความพร้อมที่จะดูแลเด็ก ๆ ส่วนสภาพจิตใจของเด็กทั้ง 2 คน ขณะนี้แข็งแรงดี มีความมุ่งมั่นที่จะไม่กลับไปอยู่กับแม่

           เพจเฟซบุ๊ก ล่า เผยอีกว่า จากการสอบถาม เด็กเล่าว่าตลอด 4 ปี โดนแม่ตี และทำร้ายร่างกายทุกวัน หนักสุดคือ ถีบหน้าอกลูก้าจนตัวไปกระแทกประตูบาดเจ็บ ส่วนเหตุที่ทนไม่ไหว เพราะแม่ตีดีดี้แบบไม่มีเหตุผล ทำให้ลูก้าเข้าไปห้ามแต่ก็ถูกแม่ตีอีก ระหว่างนั้นแม่ยังถีบไปที่แผลของดีดี้ซึ่งดามเหล็กไว้ตั้งแต่ตกตึก พบว่าแผลดังกล่าวผ่านมา 1 ปี ยังไม่หาย เด็กต้องทำแผลเอง ซ้ำแม่ก็ไม่ได้พาไปทำกายภาพ

           นอกจากนี้ เด็กยังเล่าอีกว่า ภายหลังจากวางแผนจะหนีออกจากบ้าน ก็ไปเปิดลิ้นชักในห้องแม่ พบมีเงินแบงก์พันจำนวนมาก คาดว่าเป็นเงินบริจาค แต่เด็กหยิบเงินมาแค่ 500 บาท นอกจากนี้ยังเห็นว่า มีซองยา ลักษณะเป็นสีแดง เม็ดเล็ก เขียนว่า wy โดยเด็ก ๆ ทราบว่าคือยาอะไร และยังเล่าว่า เคยเห็นแม่ถือกระดาษฟอยล์ กับไฟแช็ก เดินเข้าห้องน้ำ พอถามแม่ว่าอะไร แม่ก็ขยำ แล้วซ่อนไว้ข้างหลัง

เด็กลูกครึ่งตกตึก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่า

เด็กลูกครึ่งตกตึก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่า

เด็กลูกครึ่งตกตึก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่า

เด็กลูกครึ่งตกตึก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่า



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, เฟซบุ๊ก ล่า

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คดีพลิก เด็กลูกครึ่งหายตัว ที่แท้เดินเท้า 2 ชม. หนีออกจากบ้าน โดนแม่ตีซ้ำแผลตกตึก อัปเดตล่าสุด 1 เมษายน 2562 เวลา 10:05:22 62,518 อ่าน
TOP