หมอไต้หวันผงะ หญิงตาบวมเจ็บมาเข้ารับการรักษา ตรวจเจอผึ้ง 4 ตัวในลูกตา กำลังดูดน้ำตา ประหนึ่งดูดน้ำหวาน เผย คนไข้ปล่อยไว้นานถึง 4 ชั่วโมง จนเกิดการอักเสบติดเชื้อ
เมื่อแพทย์ทำการตรวจเช็ก ก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อตรวจสอบภายในเบ้าตาที่บวมเป่งนั้นแล้วพบว่า มีผึ้งอยู่จำนวน 4 ตัว เกาะติดอยู่ที่ลูกตาและกำลังดูดน้ำและเหงื่อภายในตาของคนไข้ โดย ดร.ฮั่ง ชีถิง หัวหน้ารักษาแผนกรักษาโรคทางตาของโรงพยาบาล กล่าวว่า ไม่เคยพบเคสเช่นนี้มาก่อน
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า หญิงชาวไต้หวันรายหนึ่ง อายุประมาณ 20 กว่าปี ระบุชื่อว่าเหอ เดินทางเข้าไปพบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลฟู่หยิน ในเมืองผิงตง ทางตอนใต้ของไต้หวัน เพื่อตรวจเช็กดวงตา ภายหลังจากมีอาการปูดบวมและเจ็บปวดรุนแรง
เมื่อแพทย์ทำการตรวจเช็ก ก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อตรวจสอบภายในเบ้าตาที่บวมเป่งนั้นแล้วพบว่า มีผึ้งอยู่จำนวน 4 ตัว เกาะติดอยู่ที่ลูกตาและกำลังดูดน้ำและเหงื่อภายในตาของคนไข้ โดย ดร.ฮั่ง ชีถิง หัวหน้ารักษาแผนกรักษาโรคทางตาของโรงพยาบาล กล่าวว่า ไม่เคยพบเคสเช่นนี้มาก่อน
รายงานระบุว่า คนไข้หญิงเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพญาติ จากนั้นก็จัดการทำความสะอาดพื้นที่รอบ ๆ และถอนหญ้า จากนั้นอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเข้าไปในตา เจ็บแสบและระคายเคือง ตอนแรกคิดว่าเป็นฝุ่นหรือทราย จึงรีบไปล้างตาด้วยน้ำสะอาด จนกระทั่งถึงตอนกลางคืนก็เกิดอาการเจ็บปวดมาก ตาปูดบวม และน้ำตาไหล
แพทย์เผยว่า จากการที่คนไข้ถูกผึ้งเกาะและดูดกินน้ำภายในลูกตานานกว่า 4 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดภาวะเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และกระจกตาอักเสบ แพทย์ดำเนินการช่วยเหลือโดยใช้อุปกรณ์ช่วยคีบส่วนขาของผึ้ง แล้วค่อย ๆ ดึงตัวมันออกมาจากดวงตาของคนไข้ทีละตัวจนหมดทั้ง 4 ตัว หลังจากนั้นได้รักษาอาการในเบื้องต้น และอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยคาดว่าจะหายเป็นปกติในเร็ววันนี้
ส่วนผึ้งทั้งหมดนั้น ยังมีชีวิตรอดอยู่ เบื้องต้นพบว่าเป็นผึ้งตระกูลฮาลิคทีดี (Halictidae) แต่ไม่ได้มีการระบุสายพันธุ์ที่แน่ชัด
แพทย์เผยว่า จากการที่คนไข้ถูกผึ้งเกาะและดูดกินน้ำภายในลูกตานานกว่า 4 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดภาวะเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และกระจกตาอักเสบ แพทย์ดำเนินการช่วยเหลือโดยใช้อุปกรณ์ช่วยคีบส่วนขาของผึ้ง แล้วค่อย ๆ ดึงตัวมันออกมาจากดวงตาของคนไข้ทีละตัวจนหมดทั้ง 4 ตัว หลังจากนั้นได้รักษาอาการในเบื้องต้น และอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยคาดว่าจะหายเป็นปกติในเร็ววันนี้
ส่วนผึ้งทั้งหมดนั้น ยังมีชีวิตรอดอยู่ เบื้องต้นพบว่าเป็นผึ้งตระกูลฮาลิคทีดี (Halictidae) แต่ไม่ได้มีการระบุสายพันธุ์ที่แน่ชัด
