พริตตี้สาวเปิดใจหลังโดนแฟนซ้อมสาหัส เผยเกือบโดนจุดไฟเผา ต้องยกมือไหว้ขอชีวิต หลังจากนี้ขอตัดขาดและจะเอาเรื่องถึงที่สุด ชี้เคยทำร้ายแฟนเก่ามาแล้ว แต่ยังไม่เลิกนิสัย
จากกรณีพริตตี้สาวคนหนึ่ง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแฉพฤติกรรมสุดเลวร้ายของแฟนหนุ่มผู้ทำให้เธอเจ็บทั้งกายและใจ โดนทำร้ายร่างกายสารพัดจนฟกช้ำไปทั่วทั้งร่าง ทั้งเอามีดตี คียบอร์ดฟาด เอาทีวีทุ่มใส่หัว รวมทั้งราดน้ำมันใส่เพื่อจะจุดไฟเผา แถมยังส่งข้อความไปข่มขู่คุกคามแม่ของตัวเอง ซึ่งเธอก็ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเหล่านี้ ขอลาขาด ถ้าจะเจอกันอีกครั้งก็คงต้องเจอที่โรงพัก (อ่านข่าว : สาวโพสต์แฉ เจอแฟนหนุ่มอัดน่วม ทีวีทุ่มหัว ฟกช้ำเต็มร่าง จนขาชาครึ่งซีก)
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของประเด็นนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ทีมข่าวได้ติดต่อพูดคุยกับ พริตตี้สาว อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย โดย เธอเล่าว่า แฟนหนุ่มของตนชื่อ ปราบ อายุ 24 ปี สาเหตุที่ทำร้ายเกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิดของฝ่ายชาย ที่คิดว่าตัวเองแอบนอกใจไปมีคนอื่น ทั้งที่มันไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้แอบไปคบใครที่ไหน แค่มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายเท่านั้น
ในวันเกิดเหตุ (4 เมษายน) แฟนหนุ่มได้บุกมาหาตนที่ห้อง เข้ามาหาเรื่องทะเลาะวิวาท ไม่มีการสอบถามใด ๆ ทั้งสิ้นและเปิดฉากทำร้ายตนทันที เขาปาโทรศัพท์ลงพื้นจนแตก คว้ามีดสปาต้ามาทำร้ายตน โดยใช้สันมีดฟาดเข้าที่หลังตน หลังจากนั้นเขาก็หยิบคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ มาฟาดกระหน่ำใส่ตนไม่ยั้งจนแป้นแตก
ตนพยายามวิ่งหนีตะเกียกตะกายจากจุดดังกล่าวแล้ว แต่แฟนหนุ่มก็ไล่ตาม ก่อนจะคว้าขวดน้ำมันมาเทราดใส่ตน แล้วจะจุดไฟเผา ตนต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต แฟนหนุ่มจึงไม่ได้จุดไฟ และตนก็หาโอกาสวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือ
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนก็ตัดสินใจจบความสัมพันธ์แฟนหนุ่มทันที แต่เขายังส่งข้อความมาข่มขู่อยู่ตลอด จนตัวเองทนไม่ไหวและโพสต์เฟซบุ๊กประจานพฤติกรรม ชาวโซเชียลได้เข้าไปรุมด่าฝ่ายชายและขณะนี้ฝ่ายชายก็ยุติความเคลื่อนไหว ไม่ได้ติดต่อมาหาตนอีก ตนได้นำข้อความและหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่อดีตแฟนหนุ่มจะมาคบกับตนและซ้อมตน ก็เคยทำร้ายร่างกายแฟนเก่ามาแล้ว ตนจึงอยากฝากเตือนไปถึงผู้หญิงทุก ๆ คนว่า ถ้าคิดจะคบกับใคร อยากให้ดูกันไปยาว ๆ ก่อน จนแน่ใจ และอย่ามองหาแต่ความรักเพียงอย่างเดียว ให้มองหาความสุขและความปลอดภัยในชีวิตตัวเองด้วย เพราะมันคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด และสำหรับผู้ชายคนนี้ ตนอยากขอให้หยุดพฤติกรรมทำร้ายผู้หญิงได้แล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณีพริตตี้สาวคนหนึ่ง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแฉพฤติกรรมสุดเลวร้ายของแฟนหนุ่มผู้ทำให้เธอเจ็บทั้งกายและใจ โดนทำร้ายร่างกายสารพัดจนฟกช้ำไปทั่วทั้งร่าง ทั้งเอามีดตี คียบอร์ดฟาด เอาทีวีทุ่มใส่หัว รวมทั้งราดน้ำมันใส่เพื่อจะจุดไฟเผา แถมยังส่งข้อความไปข่มขู่คุกคามแม่ของตัวเอง ซึ่งเธอก็ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเหล่านี้ ขอลาขาด ถ้าจะเจอกันอีกครั้งก็คงต้องเจอที่โรงพัก (อ่านข่าว : สาวโพสต์แฉ เจอแฟนหนุ่มอัดน่วม ทีวีทุ่มหัว ฟกช้ำเต็มร่าง จนขาชาครึ่งซีก)
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของประเด็นนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ทีมข่าวได้ติดต่อพูดคุยกับ พริตตี้สาว อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย โดย เธอเล่าว่า แฟนหนุ่มของตนชื่อ ปราบ อายุ 24 ปี สาเหตุที่ทำร้ายเกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิดของฝ่ายชาย ที่คิดว่าตัวเองแอบนอกใจไปมีคนอื่น ทั้งที่มันไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้แอบไปคบใครที่ไหน แค่มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายเท่านั้น
ในวันเกิดเหตุ (4 เมษายน) แฟนหนุ่มได้บุกมาหาตนที่ห้อง เข้ามาหาเรื่องทะเลาะวิวาท ไม่มีการสอบถามใด ๆ ทั้งสิ้นและเปิดฉากทำร้ายตนทันที เขาปาโทรศัพท์ลงพื้นจนแตก คว้ามีดสปาต้ามาทำร้ายตน โดยใช้สันมีดฟาดเข้าที่หลังตน หลังจากนั้นเขาก็หยิบคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ มาฟาดกระหน่ำใส่ตนไม่ยั้งจนแป้นแตก
ตนพยายามวิ่งหนีตะเกียกตะกายจากจุดดังกล่าวแล้ว แต่แฟนหนุ่มก็ไล่ตาม ก่อนจะคว้าขวดน้ำมันมาเทราดใส่ตน แล้วจะจุดไฟเผา ตนต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต แฟนหนุ่มจึงไม่ได้จุดไฟ และตนก็หาโอกาสวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือ
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนก็ตัดสินใจจบความสัมพันธ์แฟนหนุ่มทันที แต่เขายังส่งข้อความมาข่มขู่อยู่ตลอด จนตัวเองทนไม่ไหวและโพสต์เฟซบุ๊กประจานพฤติกรรม ชาวโซเชียลได้เข้าไปรุมด่าฝ่ายชายและขณะนี้ฝ่ายชายก็ยุติความเคลื่อนไหว ไม่ได้ติดต่อมาหาตนอีก ตนได้นำข้อความและหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่อดีตแฟนหนุ่มจะมาคบกับตนและซ้อมตน ก็เคยทำร้ายร่างกายแฟนเก่ามาแล้ว ตนจึงอยากฝากเตือนไปถึงผู้หญิงทุก ๆ คนว่า ถ้าคิดจะคบกับใคร อยากให้ดูกันไปยาว ๆ ก่อน จนแน่ใจ และอย่ามองหาแต่ความรักเพียงอย่างเดียว ให้มองหาความสุขและความปลอดภัยในชีวิตตัวเองด้วย เพราะมันคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด และสำหรับผู้ชายคนนี้ ตนอยากขอให้หยุดพฤติกรรมทำร้ายผู้หญิงได้แล้ว