น้องทราย ช่างตัดผมเซ็กซี่ วอนอย่ามองตนแค่ภายนอก เซ็กซี่เพื่ออาชีพ ไม่ได้ขายตัว ด้าน ลีน่าจัง ลั่นไม่ให้แฟนไปตัดผมแน่ ทั้งอ่อย ทั้งยั่ว น่าเกลียด เปิดร้านทำผมหรือเปิดซ่อง
คนมองว่าร้านขายความเซ็กซี่ ตัดผมเป็นหรือเปล่า ปกติแต่งตัวแบบนี้ไหม ?
น้องทราย : น้อยกว่านี้นิดนึงค่ะ ถ้าใช้ชีวิตปกติก็จะประมาณนี้ แต่ถ้าอยู่ที่ร้านก็จะโป๊เพราะเป็นนิสัย
2 ปีก่อนเป็นข่าวช่างทำผมแต่งตัวเซ็กซี่ ชีวิตเปลี่ยนไปไหม ?
น้องทราย : เปลี่ยนค่ะ เปลี่ยนแบบเราไม่ค่อยอิน แบบเราไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้น แต่ก่อนเราก็ตั้งใจเปิดร้าน ก็รอรับลูกค้า แต่พอมีข่าวก็จะได้ลูกค้าเป็นประเภทที่มาดูเรามากกว่าการตัดผม
น้องทราย
: ใช่ค่ะ ตอนนั้นตั้งใจจะเปิดบาร์เบอร์ แต่เราก็รับผู้หญิงแหละ
แต่อยากเน้นบาร์เบอร์ เพราะเราเรียนเสริมทางการตัดผมชายมา
คราวที่แล้วเปิดวันเดียวก็เป็นข่าวครึกโครมขึ้นมาเลย
ครั้งนี้เปิดที่ใหม่มาก็ยังมีลูกค้าประจำจองคิวทุกวัน
ร้านอยู่หลังเซ็นทรัล ระยอง ข้างตลาดมิดไนท์ มีผู้ช่วย 1 คน
รับตัดผมหรือมีบริการอะไรบ้าง ตัด ดัด ซอย ทำเองทั้งหมดไหม ?
น้องทราย : ตอนนี้มีตัดผมทั้งชายทั้งหญิงเลย สระ ไดร์ ทรีตเมนต์ ทำสี ดัดเคมี มีต่อขนตา อนาคตใกล้ ๆ นี้ก็จะมีทำเล็บด้วย ให้ช่างคนอื่นทำ ส่วนเรื่องตัด ดัด ซอยก็ทำเองค่ะ ส่วนมากลูกค้าที่มาก็จะเป็นลูกค้าประจำ
ลูกค้าประจำที่ทรายพูดถึงคือลูกค้าที่เมื่อ 2 ปีก่อนเขาเคยดูข่าวหรือติดตามอยู่แล้ว ?
น้องทราย : เขาเคยตัดผมกับเราตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แล้วก็เป็นเพื่อนกันมายาวเลย
น้องทราย
: คือตอนแรกที่เป็นข่าว เราแต่งตัวแบบไม่ตั้งใจ แล้วคนติดภาพนั้น
พอมาเห็นเราใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ หรือมาเราหน้าสด เขาก็เหมือนไม่อิน
เราก็เลยรู้สึกว่าการกลับมาของเราก็ต้องเป็นภาพที่ขาจำ ตามภาษาการตลาด
แต่เอาจริง ๆ ทรายชอบใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ มากกว่า
เนื่องจากว่าเราทำธุรกิจ เรื่องของการทำผม ถามก่อนเลย ตั้งราคาสูงไหม ?
น้องทราย : ไม่สูงค่ะ คิดราคา 300 บาท แพงกว่าคราวที่แล้ว 50 บาทเอง คือราคามาตรฐานทั่วไป
ก่อนที่จะมาเปิดร้านทำผม เราเรียนอะไรมาถึงได้มาทำอาชีพนี้ ?
น้องทราย : จบปริญญาตรี บริหารการจัดการทั่วไปค่ะ
จบปริญญาตรีแล้วมาทำอาชีพทำผม อะไรคือจุดเริ่มต้น ?
น้องทราย : คืออยากให้แม่เห็น มันก็เป็นส่วนหนึ่ง ทรายทำงานมาตั้งแต่เด็ก ทำงานโรงงาน ใช้แรงงาน ผ่านความลำบากมาก่อน ที่คิดทำอาชีพทำผมตอนนั้นตามเพื่อน คือเพื่อนทำงานเป็นผู้ช่วยช่างสระไดร์ เราไปทีไรเพื่อนทำผมให้เราสวย ก็อยากทำบ้าง เผื่อจะรุ่ง เผื่อมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะว่าเราก็ทำงานประจำ ทำงานหนักตั้งแต่เด็ก เลยไม่อยากทำงานหนักไปตลอด จุดนั้นเลยทำให้เป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นก็ไปสมัครเรียนฟรีที่ กทม. สอน แล้วไปฝึกงานที่ชลาชล ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ สุดท้ายต้องออก เพราะแม่เข้าโรงพยาบาล ต้องไปดูแลแม่ ไปเฝ้าได้ประมาณ 2 เดือนแม่ก็เสีย เราก็กลับมาเรียนตัดผมชายเพิ่ม
จุดเริ่มต้นของร้านเกิดขึ้นครั้งแรกได้อย่างไร ?
น้องทราย : เกิดขึ้นจากที่เรากลับมาเรียนตัดผมชายจบ แล้วก็ไปเปิดร้านที่ระยอง จนเกิดเป็นข่าวขึ้น
หลังจากเปิดร้านเมื่อปี 2560 ดังถึงขนาดว่าหน่วยงานราชการจังหวัดระยอง ต้องมาตรวจที่ร้าน คิดว่าเป็นร้านอย่างอื่นไม่ได้ตัดผม ตกใจไหม ?
น้องทราย : ใช่ค่ะ ทั้งนายอำเภอ ทั้งตำรวจ แต่ไม่ได้ตกใจเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร จนมาเห็นเป็นข่าวถึงตกใจ
ก่อนหน้าที่เป็นผู้ชายที่ไปใช้บริการตัดผมก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่เข้ามามีโรคจิตด้วย รวมถึงพระ ?
น้องทราย : ใช่ค่ะ มีแบบมากวน แม้แต่พระก็ส่งข้อความมาในเชิงชู้สาว เราก็บล็อกค่ะ เขาก็พยายามแอดมาใหม่จนเราบอกว่า ถ้าไม่หยุดเราจะประจานนะ เรากลับเป็นคนโดนด่า
น้องทราย : เรียกว่าไม่คิดอะไรมากกว่า
เพราะว่าคนที่รู้จักเราเขาเป็นลูกค้าประจำเราเขาอินกับเรา
ส่วนคนที่มาครั้งเดียว มาพูดจาลวนลาม มามองแล้วเขาก็ไป
เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ไม่ได้ท้อใจอะไร แต่ถ้าโดนคนด่านี่รู้สึกท้อมากเลย
การที่ช่างด้วยกันมาดูถูกว่าทำนมหกครั้งเดียวดังเลย
แต่เขาไม่ได้มาเห็นความตั้งใจของเรา
เรามาดูสังคมช่างตัดผมกันดีกว่า ว่าในวงการนี้มีสงคราม ความอิจฉาริษยาเกิดขึ้นด้วยหรือ รุ่นใหญ่โดนบ้างไหม ?
ต้อม : ก็เป็นไปได้นะ ก็มีหมดแหละ ยิ่งโลกยุคโซเชียลใครเขียนอะไรก็เขียนได้ สำหรับพี่จะโดนเรื่องแฟนคลับมากกว่า พอเราเปลี่ยนเพศสภาพกลุ่มผู้ใหญ่บางกลุ่มเขาจะรับไม่ได้
หลังจากนั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำไมปิดร้าน เหตุมาจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือเปล่า ?
น้องทราย : สาเหตุจริง ๆ คือมีปัญหาเรื่องที่ เพราะว่าเจ้าของที่ไม่มาซ่อมแซมให้ เราซ่อมแซมไม่ไหวเพราะที่ตรงนั้นมันเป็นบ้านแบบ 300-400 ปี ฝนตกแล้วมันขึ้นรา เราก็ป่วยเป็นหอบด้วย ก็เลยตัดสินใจปิด อย่างที่บอกไปว่าลูกค้าบางคนไม่อิน มาเพราะว่าอยากมาพูดคุยมาดูเรามากกว่า พูดได้ว่าเราหมด passion กับลูกค้า แต่ไม่ได้หมด passion กับอาชีพ หลังจากปิดร้านก็กลับมาเรียนของเราเงียบ ๆ ที่หายไปก็ไปหาความรู้เพิ่มของการทำผม
ต้อม
: ใช่ มันแน่นอนอยู่แล้ว โลกมันไม่หยุดนิ่ง พื้นฐานหลักการมันมี
แต่แฟชั่นมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทคนิคมันเปลี่ยนโดยเฉพาะการทำสี การดัดผม
เดี๋ยวนี้คนจะคำนึงถึงความปลอดภัย ออร์แกนิกกันมากขึ้น เพราะฉะนั้น
โลกสมัยใหม่เขาก็พยายามมีนวัตกรรมอันใหม่มาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น
เราเป็นช่างเราก็เหมือนหมอผม คือถ้าเรามี option
ให้กับลูกค้าร้านนั้นก็จะมีจุดเด่น อย่างเช่น แม่ลีน่าจัง
อย่างที่คุยกันคือกลัวมากกับการทำสีผมเพราะเคยเป็นซีสต์ เขาก็จะผลิตอะไรที่เป็นออร์แกนิก เพราะบางคนเขาจะทนไม่ได้กับผมขาว
อย่างตัวเราเองยิ่งไม่ได้เลยเพราะเราเป็นช่าง
ลูกค้าก็จะเห็นว่าเราไม่ดูแลตัวเอง
แปลว่าอาชีพช่างทำผมที่ทุกคนคิดว่าใคร ๆ ก็ทำได้ หรือบอกว่าแค่เรียนรู้ทรงมาตรฐาน ก็เพียงพอแล้ว คิดว่าอย่างไร ?
ต้อม : ไม่เพียงพอครับ อย่างที่บอกทุกวิชาชีพ ยิ่งโลกพัฒนาเราก็ยิ่งต้องพัฒนา ถ้าเราไม่อยากเป็นคนที่นั่งทำอะไรซ้ำซาก การเรียนรู้เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์กับองค์กรเราได้เหมือนกัน
น้องทราย
: ทรายเป็นคนระยองเลยคิดว่าเป็นที่ของเรา
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็ตั้งใจว่าเราจะเปิดร้านใหม่ที่ระยองอยู่แล้ว
แต่ยังไม่มีทำเลที่ถูกใจ จังหวะก็เลยได้ที่ตรงนี้มา
ร้านเหมือนเดิมตรงที่เราตัดนี่แหละค่ะ
เพิ่มเติมก็จะมีพวกต่อขนตาและทำเล็บเข้ามา
เพราะลูกค้าเราแต่ละคนเขาก็มีแฟน
เสียเวลามานั่งรอแฟนก็ได้มีบริการอย่างอื่นจากร้านเราไป
คุณจะได้เห็นว่าคุณผู้ชายของคุณกำลังตัดผมอยู่
ลดข้อขัดแย้งในการมาร้านตัดผมทรายไปด้วย
ผลตอบรับเป็นอย่างไร หลังจากที่กลับมาเปิด ?
น้องทราย : ก็ดีค่ะ ตั้งแต่วันแรก มีลูกค้าประจำจองคิว แล้วก็มีคนที่เคยติดตามเราแต่ยังไม่เคยตัดกับเราก็จองคิวเข้ามา ก็โอเคเลย
ถามถึงคุณลีน่าจัง ในฐานะที่เป็นลูกค้าก่อน ถ้ามีแฟนจะให้ไปตัดร้านนี้ไหม ?
ลีน่าจัง : ไม่มีทางหรอกคะ นางอ่อย นางยั่ว โอ้โห น่าเกลียด จะมาเปิดร้านทำผมหรือจะมาเปิดซ่องคะ นางตัดไม่เป็น ตัดแต่ผู้ชายมันไถ ๆ ๆ ปัตตาเลี่ยนก็จบ ลองตัดผู้หญิงจะตัดเป็นหรือเปล่า คือมาอ่อยผู้ชายอย่างเดียวเลย ดิฉันไม่ให้สามีไปทำหรอก เคยเห็นตามคลิปน้องไม่ได้มีฝีมือเลย เห็นแค่เอากรรไกรเล็ม ๆ เด็กยังทำได้เลย คุณไม่เห็นหรือคะ นมนี่ลอยอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มานั่งตัดนี่ดมแล้วดมอีก ฉันคิดว่าถ้าทำแบบนี้ไปทำอาชีพอื่นเถอะ เหมือนการแฝง..... มันไม่เหมาะสม มันต้องขายฝีมือ
ถ้าดูจากร้านของน้องทราย เมื่อเทียบกับร้านพี่ต้อมก็ถือว่ามาตรฐานอยู่ไหม ?
ต้อม : ก็มาตรฐานร้านทำผมทั่วไป อย่างเสื้อสายเดี่ยว จริง ๆ มันก็มีแฟชั่นทั่วไปของกลุ่มวัยรุ่น เห็นเขาก็ใส่ออกไปซื้อของกันด้วยซ้ำ บางทีต้อมคิดว่าช่วงบนรู้สึกว่าไม่ค่อยอุจาด จะเป็นช่วงล่างมากกว่าที่เป็นกางเกงขาสั้นจนเห็นง่ามก้น อย่างนั้นต้องมองว่าไม่เหมาะเจาะ แต่ถ้าถามพูดกันตรง ๆ ในเรื่องความยุติธรรม เครื่องแต่งกาย แบบฟอร์มในการทำงานต่ออาชีพมันมีความสำคัญ ในแง่ของการตลาดอย่างที่น้องเขาพูดว่าเขาทำตรงนี้เนื่องจากความชอบส่วนตัว ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร บังเอิญมันเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เพราะเขาเป็นคนสวย อันนี้เราต้องยอมรับ รูปร่างดี แต่พี่เชื่อว่าความเหมาะเจาะของเวลาและสถานที่ยังเป็นเรื่องสำคัญ ทำไมน้องทรายถูกโจมตีจากคนอาชีพเดียวกัน คือเราตัดประเด็นเรื่องความอิจฉา แต่มันเป็นเรื่องของการแข่งขัน คือทุกร้านพยายามหาจุดขาย ก็มีตั้งเยอะแยะที่ออกมาทำบ้า ๆ บอ ๆ ยิ่งกว่านี้เพื่อให้ร้านตัวเองได้รับความสนใจ แล้วแต่เทคนิค
น้องทราย : เราตัดผมราคาเท่านี้ เราคงไม่เอาไปถู ๆ กับลูกค้าให้เปลืองตัวหรอกถูกไหมคะ ที่ชอบตัดผมผู้ชาย เพราะกลัวเจอลูกค้าผู้หญิงที่มาเหวี่ยงมาวีน จากที่เคยเจอมาตอนฝึกงานเพราะตอนนั้นเราไดร์ไม่เก่ง ทำทรงไม่เก่ง เพราะผู้หญิงมีความเรื่องเยอะว่าจะต้องสวยในปริมาณที่พอดีของเขา การแต่งตัวทำไปเพื่ออาชีพเท่านั้น ไม่ได้แฝงอะไรทั้งสิ้น อย่ามองแค่ภายนอก แล้วไม่ได้คิดจะทำอาชีพนี้ไปจนตาย
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
เรียกว่าแชร์กันสนั่นโซเชียล กับภาพช่างตัดผมที่ จ.ระยอง สุดเซ็กซี่
น้องทราย น.ส.กาญวนิศร์ อริยะพีระชัย
ทำเอาลูกค้าชายเข้าคิวรอตัดผมกันถล่มทลาย จนเมียต้องตามมาคุมที่ร้าน
เป็นข่าวฮือฮาทั้งโลกออนไลน์เมื่อ 2 ปีก่อน ต่อมาร้านได้ปิดไป แต่ล่าสุด (8
เมษายน 2562) รายการ เจาะประเด็น โดย ต่วย ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์
ผู้ดำเนินรายการ พาไปพูดคุยกับน้องทราย
หลังทราบว่าร้านตัดผมดังกล่าวกลับมาเปิดอีกครั้ง พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ ต้อม
ไกรวิทย์ พุ่มสุโข ตัวแม่ในวงการทำผม และตัวแม่ฉะแรงอย่าง ลีน่าจัง
ที่ยันเสียงแข็งว่าจะไม่ให้สามีไปตัดผมร้านนี้เด็ดขาด
คนมองว่าร้านขายความเซ็กซี่ ตัดผมเป็นหรือเปล่า ปกติแต่งตัวแบบนี้ไหม ?
น้องทราย : น้อยกว่านี้นิดนึงค่ะ ถ้าใช้ชีวิตปกติก็จะประมาณนี้ แต่ถ้าอยู่ที่ร้านก็จะโป๊เพราะเป็นนิสัย
น้องทราย : เปลี่ยนค่ะ เปลี่ยนแบบเราไม่ค่อยอิน แบบเราไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้น แต่ก่อนเราก็ตั้งใจเปิดร้าน ก็รอรับลูกค้า แต่พอมีข่าวก็จะได้ลูกค้าเป็นประเภทที่มาดูเรามากกว่าการตัดผม
ร้านเดิมเคยใช้ว่าเป็นบาร์เบอร์ และตอนนี้กลับมาเปิดร้านใหม่ดังชั่วข้ามคืน ?
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
รับตัดผมหรือมีบริการอะไรบ้าง ตัด ดัด ซอย ทำเองทั้งหมดไหม ?
น้องทราย : ตอนนี้มีตัดผมทั้งชายทั้งหญิงเลย สระ ไดร์ ทรีตเมนต์ ทำสี ดัดเคมี มีต่อขนตา อนาคตใกล้ ๆ นี้ก็จะมีทำเล็บด้วย ให้ช่างคนอื่นทำ ส่วนเรื่องตัด ดัด ซอยก็ทำเองค่ะ ส่วนมากลูกค้าที่มาก็จะเป็นลูกค้าประจำ
ลูกค้าประจำที่ทรายพูดถึงคือลูกค้าที่เมื่อ 2 ปีก่อนเขาเคยดูข่าวหรือติดตามอยู่แล้ว ?
น้องทราย : เขาเคยตัดผมกับเราตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว แล้วก็เป็นเพื่อนกันมายาวเลย
เปิดร้านตัดผมแล้วแต่งตัวแบบนี้ ถือว่าเป็นการตลาดเรียกลูกค้าไหม ?
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
เนื่องจากว่าเราทำธุรกิจ เรื่องของการทำผม ถามก่อนเลย ตั้งราคาสูงไหม ?
น้องทราย : ไม่สูงค่ะ คิดราคา 300 บาท แพงกว่าคราวที่แล้ว 50 บาทเอง คือราคามาตรฐานทั่วไป
ก่อนที่จะมาเปิดร้านทำผม เราเรียนอะไรมาถึงได้มาทำอาชีพนี้ ?
น้องทราย : จบปริญญาตรี บริหารการจัดการทั่วไปค่ะ
จบปริญญาตรีแล้วมาทำอาชีพทำผม อะไรคือจุดเริ่มต้น ?
น้องทราย : คืออยากให้แม่เห็น มันก็เป็นส่วนหนึ่ง ทรายทำงานมาตั้งแต่เด็ก ทำงานโรงงาน ใช้แรงงาน ผ่านความลำบากมาก่อน ที่คิดทำอาชีพทำผมตอนนั้นตามเพื่อน คือเพื่อนทำงานเป็นผู้ช่วยช่างสระไดร์ เราไปทีไรเพื่อนทำผมให้เราสวย ก็อยากทำบ้าง เผื่อจะรุ่ง เผื่อมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะว่าเราก็ทำงานประจำ ทำงานหนักตั้งแต่เด็ก เลยไม่อยากทำงานหนักไปตลอด จุดนั้นเลยทำให้เป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นก็ไปสมัครเรียนฟรีที่ กทม. สอน แล้วไปฝึกงานที่ชลาชล ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ สุดท้ายต้องออก เพราะแม่เข้าโรงพยาบาล ต้องไปดูแลแม่ ไปเฝ้าได้ประมาณ 2 เดือนแม่ก็เสีย เราก็กลับมาเรียนตัดผมชายเพิ่ม
จุดเริ่มต้นของร้านเกิดขึ้นครั้งแรกได้อย่างไร ?
น้องทราย : เกิดขึ้นจากที่เรากลับมาเรียนตัดผมชายจบ แล้วก็ไปเปิดร้านที่ระยอง จนเกิดเป็นข่าวขึ้น
หลังจากเปิดร้านเมื่อปี 2560 ดังถึงขนาดว่าหน่วยงานราชการจังหวัดระยอง ต้องมาตรวจที่ร้าน คิดว่าเป็นร้านอย่างอื่นไม่ได้ตัดผม ตกใจไหม ?
น้องทราย : ใช่ค่ะ ทั้งนายอำเภอ ทั้งตำรวจ แต่ไม่ได้ตกใจเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร จนมาเห็นเป็นข่าวถึงตกใจ
ก่อนหน้าที่เป็นผู้ชายที่ไปใช้บริการตัดผมก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่เข้ามามีโรคจิตด้วย รวมถึงพระ ?
น้องทราย : ใช่ค่ะ มีแบบมากวน แม้แต่พระก็ส่งข้อความมาในเชิงชู้สาว เราก็บล็อกค่ะ เขาก็พยายามแอดมาใหม่จนเราบอกว่า ถ้าไม่หยุดเราจะประจานนะ เรากลับเป็นคนโดนด่า
เรารู้สึกไหมว่าตั้งใจจะทำอาชีพช่างตัดผม
แต่การตีความบางคนไม่ได้ดูที่ความสามารถของเรา
ดูจากการแต่งตัวและบุคลิกของเรา รู้สึกท้อไหม ?
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
เรามาดูสังคมช่างตัดผมกันดีกว่า ว่าในวงการนี้มีสงคราม ความอิจฉาริษยาเกิดขึ้นด้วยหรือ รุ่นใหญ่โดนบ้างไหม ?
ต้อม : ก็เป็นไปได้นะ ก็มีหมดแหละ ยิ่งโลกยุคโซเชียลใครเขียนอะไรก็เขียนได้ สำหรับพี่จะโดนเรื่องแฟนคลับมากกว่า พอเราเปลี่ยนเพศสภาพกลุ่มผู้ใหญ่บางกลุ่มเขาจะรับไม่ได้
หลังจากนั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำไมปิดร้าน เหตุมาจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือเปล่า ?
น้องทราย : สาเหตุจริง ๆ คือมีปัญหาเรื่องที่ เพราะว่าเจ้าของที่ไม่มาซ่อมแซมให้ เราซ่อมแซมไม่ไหวเพราะที่ตรงนั้นมันเป็นบ้านแบบ 300-400 ปี ฝนตกแล้วมันขึ้นรา เราก็ป่วยเป็นหอบด้วย ก็เลยตัดสินใจปิด อย่างที่บอกไปว่าลูกค้าบางคนไม่อิน มาเพราะว่าอยากมาพูดคุยมาดูเรามากกว่า พูดได้ว่าเราหมด passion กับลูกค้า แต่ไม่ได้หมด passion กับอาชีพ หลังจากปิดร้านก็กลับมาเรียนของเราเงียบ ๆ ที่หายไปก็ไปหาความรู้เพิ่มของการทำผม
วงการทำผม ต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลาหรือเปล่า หรือหลายคนคิดว่าทรงมันมาตรฐาน ?
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
แปลว่าอาชีพช่างทำผมที่ทุกคนคิดว่าใคร ๆ ก็ทำได้ หรือบอกว่าแค่เรียนรู้ทรงมาตรฐาน ก็เพียงพอแล้ว คิดว่าอย่างไร ?
ต้อม : ไม่เพียงพอครับ อย่างที่บอกทุกวิชาชีพ ยิ่งโลกพัฒนาเราก็ยิ่งต้องพัฒนา ถ้าเราไม่อยากเป็นคนที่นั่งทำอะไรซ้ำซาก การเรียนรู้เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์กับองค์กรเราได้เหมือนกัน
หลังจากไปเรียนเพิ่มเติมสุดท้ายกลับมาเปิดร้านที่ระยองอีกครั้ง
รูปแบบเหมือนเมื่อ 2 ปีที่แล้วไหม มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปบ้าง ?
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
ผลตอบรับเป็นอย่างไร หลังจากที่กลับมาเปิด ?
น้องทราย : ก็ดีค่ะ ตั้งแต่วันแรก มีลูกค้าประจำจองคิว แล้วก็มีคนที่เคยติดตามเราแต่ยังไม่เคยตัดกับเราก็จองคิวเข้ามา ก็โอเคเลย
ถามถึงคุณลีน่าจัง ในฐานะที่เป็นลูกค้าก่อน ถ้ามีแฟนจะให้ไปตัดร้านนี้ไหม ?
ลีน่าจัง : ไม่มีทางหรอกคะ นางอ่อย นางยั่ว โอ้โห น่าเกลียด จะมาเปิดร้านทำผมหรือจะมาเปิดซ่องคะ นางตัดไม่เป็น ตัดแต่ผู้ชายมันไถ ๆ ๆ ปัตตาเลี่ยนก็จบ ลองตัดผู้หญิงจะตัดเป็นหรือเปล่า คือมาอ่อยผู้ชายอย่างเดียวเลย ดิฉันไม่ให้สามีไปทำหรอก เคยเห็นตามคลิปน้องไม่ได้มีฝีมือเลย เห็นแค่เอากรรไกรเล็ม ๆ เด็กยังทำได้เลย คุณไม่เห็นหรือคะ นมนี่ลอยอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มานั่งตัดนี่ดมแล้วดมอีก ฉันคิดว่าถ้าทำแบบนี้ไปทำอาชีพอื่นเถอะ เหมือนการแฝง..... มันไม่เหมาะสม มันต้องขายฝีมือ
ถ้าดูจากร้านของน้องทราย เมื่อเทียบกับร้านพี่ต้อมก็ถือว่ามาตรฐานอยู่ไหม ?
ต้อม : ก็มาตรฐานร้านทำผมทั่วไป อย่างเสื้อสายเดี่ยว จริง ๆ มันก็มีแฟชั่นทั่วไปของกลุ่มวัยรุ่น เห็นเขาก็ใส่ออกไปซื้อของกันด้วยซ้ำ บางทีต้อมคิดว่าช่วงบนรู้สึกว่าไม่ค่อยอุจาด จะเป็นช่วงล่างมากกว่าที่เป็นกางเกงขาสั้นจนเห็นง่ามก้น อย่างนั้นต้องมองว่าไม่เหมาะเจาะ แต่ถ้าถามพูดกันตรง ๆ ในเรื่องความยุติธรรม เครื่องแต่งกาย แบบฟอร์มในการทำงานต่ออาชีพมันมีความสำคัญ ในแง่ของการตลาดอย่างที่น้องเขาพูดว่าเขาทำตรงนี้เนื่องจากความชอบส่วนตัว ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร บังเอิญมันเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เพราะเขาเป็นคนสวย อันนี้เราต้องยอมรับ รูปร่างดี แต่พี่เชื่อว่าความเหมาะเจาะของเวลาและสถานที่ยังเป็นเรื่องสำคัญ ทำไมน้องทรายถูกโจมตีจากคนอาชีพเดียวกัน คือเราตัดประเด็นเรื่องความอิจฉา แต่มันเป็นเรื่องของการแข่งขัน คือทุกร้านพยายามหาจุดขาย ก็มีตั้งเยอะแยะที่ออกมาทำบ้า ๆ บอ ๆ ยิ่งกว่านี้เพื่อให้ร้านตัวเองได้รับความสนใจ แล้วแต่เทคนิค
น้องทราย : เราตัดผมราคาเท่านี้ เราคงไม่เอาไปถู ๆ กับลูกค้าให้เปลืองตัวหรอกถูกไหมคะ ที่ชอบตัดผมผู้ชาย เพราะกลัวเจอลูกค้าผู้หญิงที่มาเหวี่ยงมาวีน จากที่เคยเจอมาตอนฝึกงานเพราะตอนนั้นเราไดร์ไม่เก่ง ทำทรงไม่เก่ง เพราะผู้หญิงมีความเรื่องเยอะว่าจะต้องสวยในปริมาณที่พอดีของเขา การแต่งตัวทำไปเพื่ออาชีพเท่านั้น ไม่ได้แฝงอะไรทั้งสิ้น อย่ามองแค่ภายนอก แล้วไม่ได้คิดจะทำอาชีพนี้ไปจนตาย
สามารถติดตาม รายการ เจาะประเด็น ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.35 น. ทางช่อง 8 หรือติดตามย้อนหลังได้ที่ FB Live ช่อง 8
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น
ภาพจาก รายการ เจาะประเด็น