เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 หรือ Thailand International Wind Symphony Competition 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากคุณกิติมา ปวเรศกุล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงิน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล, ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะกรรมการจัดการประกวด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
โดยหลังจากที่ฝึกซ้อมมาอย่างหนักตลอดระยะเวลาหลายเดือน วันนี้จึงเป็นโอกาสที่กลุ่มน้อง ๆ นักเรียน และรุ่นไม่จำกัดอายุที่มีหัวใจรักดนตรี จะได้แสดงศักยภาพด้านดนตรีออกมาอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง เต็มความสามารถ เพื่อประกาศศักดาเป็นสุดยอดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ โดยการประกวดแบ่งเป็นรุ่น Class A 10 วง, รุ่น Class B 10 วง, รุ่น Class C และ D รุ่นละ 16 วง ชิงถ้วยรางวัลและเงินรางวัลรวมมูลค่า 4,330,000 บาท
ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้จัดการประกวดร่วมกับ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อีกครั้ง ซึ่งในการจัดประกวดในปีที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งจากเยาวชนไทยและระดับนานาชาติ สะท้อนได้จากตัวเลขของทีมที่สมัครเข้าร่วมแข่งขันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นว่าอย่างน้อยสังคมเริ่มมีการตื่นตัวใช้กิจกรรมดนตรีเป็นกิจกรรมที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สำหรับการประกวดในปีนี้มีจำนวนผู้สมัครทั้งหมด 86 ทีม เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 14 ทีม และในปีนี้มีทีมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศจำนวน 20 ทีม โดยบรรยากาศในการแข่งขันครั้งนี้เป็นไปอย่างเข้มข้น แต่แฝงเอาไว้ด้วยความน่ารักและอบอุ่นของเด็กไทย ทำให้ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นที่ยอมรับในวงการดนตรีระดับโลก อาทิ โรเบิร์ต เอ็ม คาเนอร์กัน ผู้อำนวยการของวงซิมโฟนิค วินด์ อังซังเบลอ (Wind Ensemble) ของโรงเรียนสอนดนตรี Frost School of Music, ผู้กำกับเพลง, วาทยกรของวง Frost Wind Ensemble และศาสตราจารย์ด้านวาทยกรประจำมหาวิทยาลัยไมอามี นอกจากนี้ยังมี ดร.ไบรอัน ที.กิลป์ ศาสตราจารย์ด้านดนตรีเครื่องเป่า และสมาชิกวง Brass และ Woodwind Quintets ของมหาวิทยาลัยอินเดียนาในปี 1998 ร่วมเป็นกรรมการตัดสิน พร้อมร่วมมอบรางวัลให้แก่ทีมผู้ชนะเลิศหลังแข่งขันเสร็จ
โดยในรุ่น Class A ไม่จำกัดอายุ เงินรางวัล 1,000,000 บาท ผู้ชนะได้แก่ วง Million Wind Philharmonic ที่รวมนักดนตรีมืออาชีพของไทยกว่า 70 ชีวิต และยังได้รับรางวัลป๊อปปูล่าร์โหวตไปครองอีกรางวัล นางสาวกัลยาณ์ พงศธร ตัวแทนจากทีม Million Wind Philharmonic เปิดเผยว่า ทันทีที่ได้ยินประกาศว่าทีมได้รางวัลชนะเลิศ ทุกคนในวงรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจมากที่สุด ที่ในฐานะนักดนตรีมืออาชีพยังมีโอกาสดี ๆ ที่ได้มารวมตัวกันทำในสิ่งที่รัก และได้แสดงพลังออกมาอย่างเต็มที่ออกไปในระดับนานาชาติ ที่ผ่านมาทีมฝึกซ้อมอย่างหนัก และยอมรับว่ามีกดดันบ้าง แต่รางวัลที่ได้รับทำให้ทุกคนหายเหนื่อย และพร้อมที่จะสร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรีต่อไป
รางวัลชนะเลิศ ประเภท Class B เงินรางวัล 500,000 บาท ได้แก่ ทีม Suranaree Girls Wind Symphony วงดุริยางค์หญิงล้วน จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา จังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถพิสูจน์ความสามารถของเด็กไทยสู่เวทีระดับสากล นางสาวธันย์ชนก ธรรมดา ตัวแทนจากทีม Suranaree Girls Wind Symphony กล่าวว่า วินาทีที่ทราบผลการตัดสินทุกคนตื่นเต้นกันมาก เพื่อน ๆ ดีใจจนร้องไห้ เพราะพวกเราทุ่มเทให้เวลากับการฝึกซ้อมอย่างมาก รางวัลนี้เป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียน และของทุกคนในทีมที่พิสูจน์แล้วว่าเราทำได้ ขอบคุณโอกาสดี ๆ ที่เปิดพื้นที่ให้เด็กไทยได้ปล่อยของ และเวทีนี้ยังทำให้พวกเราได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ของทีมอื่นที่มีความเก่ง และความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป
รางวัลชนะเลิศ ประเภท Class D เงินรางวัล 100,000 บาท ตกเป็นของทีม Ektra Sax Quartet จากโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา นายณัฐนนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ตัวแทนทีม Ektra Sax Quartet กล่าวว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลแห่งความพยายามของพวกเรา เป็นรางวัลสุดท้ายก่อนจะเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย ดีใจมากที่พวกเราได้มีเวทีในการแสดงความสามารถร่วมกับเพื่อน ๆ ที่มีใจรักดนตรีเหมือนกัน ตอนอยู่บนเวทีความสุขของพวกเรา คือเห็นคนดูและกรรมการมีความสุขไปกับบทเพลงของพวกเรา สุดท้ายนี้เวทีนี้มีมากกว่าการประกวด เพราะได้เพื่อนใหม่อีกมากมาย
ส่วนอีกทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศประเภท Class C ได้แก่ ทีม HKAPA Winds Ensemble จากประเทศฮ่องกง รับเงินรางวัล 200,000 บาท
โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจากคุณกิติมา ปวเรศกุล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงิน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล, ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรเบิร์ต เอ็ม คาเนอร์กัน คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมมอบรางวัล ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมมอบรางวัลให้กับตัวแทนทีมชนะเลิศ
ทั้งนี้ จากกิจกรรมการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 สอดคล้องกับคำกล่าวของ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ต้องการเปิดโอกาสให้คนไทยได้แสดงศักยภาพในระดับโลก ถือเป็นสิ่งที่คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย
โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่ในปีนี้จะมีการต่อยอดโครงการด้านดนตรี หรือ MUSIC POWER ผ่านการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 เป็นปีที่ 2 โดยได้รับความร่วมมือจาก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อร่วมยกระดับให้วงดุริยางค์เครื่องเป่าไทยสู่งานประกวดในระดับนานาชาติมากขึ้น เราอยากจะเป็นหนึ่งแรงสนับสนุนให้คนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรีออกมาได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ภายหลังการประกาศผลรางวัลยังมีไฮไลต์พิเศษ มินิคอนเสิร์ตจากวง บอดี้สแลม ที่มาร่วมสร้างสีสัน แสดงร่วมกับวงดุริยางค์เครื่องเป่า มหิดล Wind Orchestra เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีหัวใจรักดนตรีไม่ย่อท้อต่อการเดินทางตามความฝัน และกล้าที่จะก้าวออกมาแสดงศักยภาพที่มีอยู่ให้โลกได้เห็น
#kingpowerthaipowerพลังคนไทย #เชื่อในศักยภาพคนไทย #webelieveinthaipower #ดนตรี #tiwsc2019
