กองทัพเรือ เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย 2 ผัว-เมีย เจ้าของบ้านกลางทะเล จ.ภูเก็ต เหตุก่อสร้างโดยไม่ขออนุญาต - กีดขวางเส้นทางเดินเรือ
ภาพจาก seasteading
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (15 เมษายน 2562) มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก กองทัพเรือ Royal Thai Navy ได้มีการโพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวว่า สิ่งก่อสร้างนั้นยังอยู่ในเขตพื้นที่บริเวณเขตต่อเนื่อง (ในเขต 24 ไมล์ทะเลจากฝั่ง) ที่ประเทศไทยในฐานะรัฐชายฝั่งยังมีสิทธิผลประโยชน์ที่จะแสวงหาเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เช่น การทำการประมง การดำเนินการด้านศุลกากร เป็นต้น
หากผู้ใดจะมาดำเนินการสร้างสิ่งก่อสร้างในเขตพื้นที่ดังกล่าว
จะต้องมีการขออนุญาตรัฐชายฝั่ง โดยกลุ่มคนดังกล่าว
มิได้มีการดำเนินการขออนุญาตต่อทางการของประเทศไทยแต่อย่างใด
รวมทั้งยังมีการเชิญชวนให้กลุ่มคนที่มีความสนใจที่จะเข้ามาพักหรือสร้างสิ่งก่อสร้างเข้ามาใช้บริการได้
ซึ่งจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้น แสดงออกถึงความไม่เคารพกฎหมาย
หรือไม่สนใจประเทศไทยในฐานะรัฐชายฝั่งแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยอีกว่า ที่พักอาศัยในทะเล หรือ Seasteading ดังกล่าว พบว่ามีการวางตัวของสิ่งก่อสร้างทั้งเหนือแนวน้ำและใต้แนวน้ำ ซึ่งกีดขวางเส้นทางเดินเรือ จนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินเรือของเรือชนิดต่าง ๆ ที่ใช้เส้นทางนี้ในการเดินเรือได้ เนื่องจากสิ่งก่อสร้างนั้นไม่มีอุปกรณ์เตือนภัยใด ๆ ในการแจ้งบอกให้กับเรือที่เดินทางไป-มา ได้รับทราบถึงการมีอยู่ของสิ่งก่อสร้างนี้เลยแม้แต่น้อย
จึงขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในช่วงเวลาที่กองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการบังคับใช้กฏหมายต่อผู้ที่ละเมิดต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก กองทัพเรือ Royal Thai Navy
ภาพจาก seasteading
จากกรณีที่มีหญิงสาวชาวไทย และสามีชาวต่างชาติ
ใช้เงินได้จากการลงทุนบิตคอยน์ จำนวน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.77
ล้านบาท สร้างบ้านลอยน้ำ (Seasteading) ในทะเลนอกชายฝั่ง จ.ภูเก็ต
ประเทศไทย
พร้อมเผยสาเหตุว่าต้องการปลดล็อกตัวเองจากการอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ
จนตกเป็นที่พูดถึงในสังคมขณะนี้ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว :
เปิดใจผัวเมีย ตั้งบ้านลอยน้ำ เขตปกครองตัวเอง ใช้ชีวิตอิสระ ไร้กฎควบคุม)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (15 เมษายน 2562) มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก กองทัพเรือ Royal Thai Navy ได้มีการโพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวว่า สิ่งก่อสร้างนั้นยังอยู่ในเขตพื้นที่บริเวณเขตต่อเนื่อง (ในเขต 24 ไมล์ทะเลจากฝั่ง) ที่ประเทศไทยในฐานะรัฐชายฝั่งยังมีสิทธิผลประโยชน์ที่จะแสวงหาเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เช่น การทำการประมง การดำเนินการด้านศุลกากร เป็นต้น
ทั้งนี้
จากเหตุผลและความจำเป็นตามที่กล่าวมาในข้างต้น กองทัพเรือจึงมีความจำเป็นต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ
ที่มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย
เข้ามาดำเนินการจัดการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวขยายวงกว้างและยากที่จะแก้ไข
รวมทั้งแสดงถึงการมีสิทธิ์ของรัฐชายฝั่งที่ต้องปกป้องรักษาผลประโยชน์ของชาติให้ดำรงคงอยู่ ผู้ใดจะมาละเมิดมิได้
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยอีกว่า ที่พักอาศัยในทะเล หรือ Seasteading ดังกล่าว พบว่ามีการวางตัวของสิ่งก่อสร้างทั้งเหนือแนวน้ำและใต้แนวน้ำ ซึ่งกีดขวางเส้นทางเดินเรือ จนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินเรือของเรือชนิดต่าง ๆ ที่ใช้เส้นทางนี้ในการเดินเรือได้ เนื่องจากสิ่งก่อสร้างนั้นไม่มีอุปกรณ์เตือนภัยใด ๆ ในการแจ้งบอกให้กับเรือที่เดินทางไป-มา ได้รับทราบถึงการมีอยู่ของสิ่งก่อสร้างนี้เลยแม้แต่น้อย
จึงขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในช่วงเวลาที่กองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการบังคับใช้กฏหมายต่อผู้ที่ละเมิดต่อไป