สลดสังคม พ่อญี่ปุ่นข่มขืนลูกสาวนานหลายปี ตั้งแต่ ม.2 แต่ลูกไม่กล้าขัดขืน พอโตขึ้นเลยฟ้อง แต่ศาลตัดสินว่าพ่อไม่ผิด ชี้ ลูกไม่ขัดขืน เท่ากับสมยอม
เป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ก่อนหน้านี้ กับกรณีข่าวพ่อแท้ ๆ ชาวญี่ปุ่น ก่อเหตุข่มขืนลูกสาวมาเป็นเวลาหลายปี ตั้งแต่ลูกอยู่ ม.2 แต่ลูกสาวไม่กล้าขัดขืน เนื่องจากพ่อเป็นผู้รับผิดชอบค่าเล่าเรียนของเธอ จึงกลัวว่าหากขัดขืนจะลำบาก จนกระทั่งลูกสาวอายุได้ 19 ปี พ่อจึงถูกฟ้องร้องเรื่องนี้ แต่ศาลตัดสินว่าพ่อไม่ผิด เพราะการที่ลูกสาวไม่ขัดขืน ก็เข้าใจได้ว่าสมยอม
โดยเพจ ญี่ปุ่นกรุบ ได้นำเสนอข่าวและให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีดังกล่าวไว้ว่า ทางทนายฝ่ายพ่อแก้ต่างว่า จริง ๆ สามารถขัดขืนได้ แต่ลูกสาวยินยอม ขณะศาลตัดสินว่าลูกสาวอยู่ในภาวะที่ถูกพรากความมุ่งมั่นในการขัดขืนไป และเห็นด้วยว่าลูกสาวไม่ได้ยินยอม แต่ไม่อาจฟันธงได้ว่าลูกสาวอยู่ในสถานการณ์ที่ขัดขืนไม่ได้ เนื่องจากการที่เคยถูกใช้กำลังตอนปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ครั้งก่อนหน้า ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ากลัวการถูกใช้กำลังจึงไม่ขัดขืน อีกทั้งลูกสาวเคยปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ และเคยหลบหนี จึงพูดยากว่าต้องยอมเพราะอยู่ในสถานะผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้การปกครอง ศาลจึงตัดสินให้พ่อไม่มีความผิด
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กฎหมายญี่ปุ่นหากเป็นเพียงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ยินยอม จะยังไม่เข้าข่ายว่ามีความผิด จะเอาผิดได้คือต้องเป็นเพศสัมพันธ์ที่มีการใช้กำลังบังคับ หรืออีกฝ่ายตกอยู่ในภาวะที่ไม่อาจขัดขืนหรือต่อต้านได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับหลาย ๆ ฝ่ายเป็นอย่างมาก อีกทั้งในโซเชียลก็มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันไม่น้อย
โดยล่าสุด (20 เมษายน 2562) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ธนากร ใจสุขสกุลดี ได้เผยความคืบหน้าว่า หลังจากข่าวดังกล่าวสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ ได้มีผู้คนหลายร้อยคนซึ่งไม่พอใจกับความอยุติธรรมในครั้งนี้ มาชุมนุมกันที่ลานกว้าง บริเวณไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าโตเกียว นำโดยคุณ Kitahara Minori นักเขียนชื่อดัง มาถือดอกไม้และป้าย พร้อมแฮชแท็ก #Metoo และ #Withyou เพื่อประท้วงและต่อต้านการกระทำรุนแรงทางเพศต่อทั้งสตรีและเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว ซึ่งหลายคนกังวลกันว่าคดีนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ทำให้พ่อบางคนเลียนแบบ และอาจเกิดคดีแบบนี้เพิ่มมากขึ้น โดยประชาชนมีความสงสัยและข้องใจในการตัดสินคดีดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
