โอละพ่อ ด.ญ. อายุ 12 อ้างถูกไอ้โม่งฉุดไปขังนาน 5 วัน สารภาพกับญาติกุเรื่องหลบอยู่ใต้ถุนบ้าน คาดเรียกร้องความสนใจ แม่รับผิดเอง เอาแต่ทำงานไม่มีเวลาดูแล
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณี ด.ญ.กุ้ง นามสมมติ อายุ 12 ปี ได้หายออกจากบ้านใน ม.5 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2562 โดยพบเพียงรถจักรยานจอดทิ้งในป่ารกใกล้บ้าน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 เมษายน พบตัวน้องที่สุเหร่าข้างบ้าน ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลลาดบัวหลวง โดยน้องกุ้งระบุว่า ถูกชายสวมหมวกไอ้โม่งจับมาขังตัวไว้ในอาคารไม้หลังโรงเรียนลาดบัวหลวงนั้น
ล่าสุด วันที่ 23 เมษายน 2562 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ได้ลงพื้นที่สอบถามแม่ของน้องกุ้ง ได้ความว่า ตนมั่นใจว่าไม่น่าจะมีใครพาลูกไปขัง แต่ยังไม่ได้คุยกับลูก เพราะลูกไม่ยอมคุยกับตน ที่ผ่านมายอมรับว่าตนไม่ค่อยสนิทกับลูกนัก เนื่องจากทำแต่งานจึงไม่ค่อยมีเวลา โดยตอนแรกไม่คิดว่าลูกจะไปไหน แต่หลังจากหายไปหลายวันโดยไม่มีใครรู้ ก็รู้สึกเป็นห่วงมาก และได้ไปแจ้งความ จนกระทั่งออกตามหาจนมาพบตัว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
พร้อมยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดตนผิดเองที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก และขอร้องสังคมอย่าไปตำหนิแม่ของตนว่าดูแลหลานไม่ดี เพราะปัญหาเกิดจากตน หากมีเวลาให้ลูกคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพิ่มเติม โดยเพื่อนบ้านของน้องกุ้งได้นำภาพกล้องวงจรปิดขณะที่น้องกำลังปีนหน้าต่างบ้านออกไป ซึ่งทางเด็กก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้เพื่อน ๆ และโต๊ะและม๊ะ (เป็นคนอิสลาม) ว่า ไม่ได้หนีไปไหน แอบซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของใต้ถุนบ้าน และกินน้ำในขวดที่วางไว้ในห้อง เวลามีคนมาเปิดห้องนี้ก็แอบตัวในกองผ้า ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าน้องกุ้งหายไปไหน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากการสอบถามน้าชายที่เลี้ยงดูน้องกุ้ง เล่าว่า น้องกุ้งเคยหายจากบ้านมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ตอนนั้นก็กลับมาเอง ซึ่งยอมรับว่าหลานเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร บางครั้งก็แอบไปนอนเล่นที่ตึกร้าง หรือโรงเรียนคนเดียว ก่อนเกิดเหตุหายตัวไป น้องไปหาแม่ ซึ่งทำงานก่อสร้างใกล้เคียงกับบ้าน แต่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนถึงขณะนี้ น้องก็ไม่ยอมเจอกับแม่อีก
เรื่องที่น้องระบุว่าถูกคนร้ายใส่ไอ้โม่งเอาไปขังที่โรงเรียนนั้น ตนเชื่อว่า อาจจะไม่เป็นความจริง ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องว่าเกิดอะไร ขอให้น้องรักษาตัวก่อน และน้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับหมอที่รักษาฟังหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้ คุณยายพอทราบเรื่องของน้อง ก็เป็นลมล้มฟุบ พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเช่นกัน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขณะที่ พ.ต.อ. สง่า ธีรศรัณยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เด็กไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ส่วนกรณีที่เด็กระบุว่าถูกนำไปขังในอาคารไม้ที่หลังโรงเรียน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ไม่พบหลักฐาน โดยพบว่าสภาพแวดล้อมของอาคารไม้แห่งนี้ มีการนำไม้กั้นปิดตั้งแต่ทางขึ้นบันได และที่ห้องก็ถูกล็อกด้วยกุญแจ ภายในห้องก็ไม่มีร่องรอยคนอาศัย พบเพียงรอยฝุ่นในห้อง โดยหลังจากเด็กหายอ่อนเพลีย เจ้าหน้าที่จะร่วมกับสหวิชาชีพและจิตแพทย์ ร่วมสอบถามอีกครั้งหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณี ด.ญ.กุ้ง นามสมมติ อายุ 12 ปี ได้หายออกจากบ้านใน ม.5 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2562 โดยพบเพียงรถจักรยานจอดทิ้งในป่ารกใกล้บ้าน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 เมษายน พบตัวน้องที่สุเหร่าข้างบ้าน ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลลาดบัวหลวง โดยน้องกุ้งระบุว่า ถูกชายสวมหมวกไอ้โม่งจับมาขังตัวไว้ในอาคารไม้หลังโรงเรียนลาดบัวหลวงนั้น
ล่าสุด วันที่ 23 เมษายน 2562 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ได้ลงพื้นที่สอบถามแม่ของน้องกุ้ง ได้ความว่า ตนมั่นใจว่าไม่น่าจะมีใครพาลูกไปขัง แต่ยังไม่ได้คุยกับลูก เพราะลูกไม่ยอมคุยกับตน ที่ผ่านมายอมรับว่าตนไม่ค่อยสนิทกับลูกนัก เนื่องจากทำแต่งานจึงไม่ค่อยมีเวลา โดยตอนแรกไม่คิดว่าลูกจะไปไหน แต่หลังจากหายไปหลายวันโดยไม่มีใครรู้ ก็รู้สึกเป็นห่วงมาก และได้ไปแจ้งความ จนกระทั่งออกตามหาจนมาพบตัว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
พร้อมยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดตนผิดเองที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก และขอร้องสังคมอย่าไปตำหนิแม่ของตนว่าดูแลหลานไม่ดี เพราะปัญหาเกิดจากตน หากมีเวลาให้ลูกคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพิ่มเติม โดยเพื่อนบ้านของน้องกุ้งได้นำภาพกล้องวงจรปิดขณะที่น้องกำลังปีนหน้าต่างบ้านออกไป ซึ่งทางเด็กก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้เพื่อน ๆ และโต๊ะและม๊ะ (เป็นคนอิสลาม) ว่า ไม่ได้หนีไปไหน แอบซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของใต้ถุนบ้าน และกินน้ำในขวดที่วางไว้ในห้อง เวลามีคนมาเปิดห้องนี้ก็แอบตัวในกองผ้า ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าน้องกุ้งหายไปไหน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากการสอบถามน้าชายที่เลี้ยงดูน้องกุ้ง เล่าว่า น้องกุ้งเคยหายจากบ้านมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ตอนนั้นก็กลับมาเอง ซึ่งยอมรับว่าหลานเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร บางครั้งก็แอบไปนอนเล่นที่ตึกร้าง หรือโรงเรียนคนเดียว ก่อนเกิดเหตุหายตัวไป น้องไปหาแม่ ซึ่งทำงานก่อสร้างใกล้เคียงกับบ้าน แต่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนถึงขณะนี้ น้องก็ไม่ยอมเจอกับแม่อีก
เรื่องที่น้องระบุว่าถูกคนร้ายใส่ไอ้โม่งเอาไปขังที่โรงเรียนนั้น ตนเชื่อว่า อาจจะไม่เป็นความจริง ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องว่าเกิดอะไร ขอให้น้องรักษาตัวก่อน และน้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับหมอที่รักษาฟังหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้ คุณยายพอทราบเรื่องของน้อง ก็เป็นลมล้มฟุบ พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเช่นกัน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขณะที่ พ.ต.อ. สง่า ธีรศรัณยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เด็กไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ส่วนกรณีที่เด็กระบุว่าถูกนำไปขังในอาคารไม้ที่หลังโรงเรียน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ไม่พบหลักฐาน โดยพบว่าสภาพแวดล้อมของอาคารไม้แห่งนี้ มีการนำไม้กั้นปิดตั้งแต่ทางขึ้นบันได และที่ห้องก็ถูกล็อกด้วยกุญแจ ภายในห้องก็ไม่มีร่องรอยคนอาศัย พบเพียงรอยฝุ่นในห้อง โดยหลังจากเด็กหายอ่อนเพลีย เจ้าหน้าที่จะร่วมกับสหวิชาชีพและจิตแพทย์ ร่วมสอบถามอีกครั้งหนึ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก