เปิดคดีโหด หมอฆ่าหั่นศพคู่เดต สุดแค้นหลังรู้เป็นสาวสอง เพิ่งรู้ความจริงตอนกำลังมีเซ็กส์กัน จับบีบคอจนตายก่อนชำแหละศพ กำจัดทิ้งหวังอำพรางคดี
วันที่ 23 เมษายน 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในเมืองเคิร์สต์ ของประเทศรัสเซีย เมื่อหมอรายหนึ่งได้กลายมาเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพคู่เดต หลังจากที่เขานัดเดตกับสาวคนนี้โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอคือสาวข้ามเพศ กว่าจะรู้ว่าเธอเคยแปลงเพศมา ก็เป็นตอนที่ทั้งคู่กำลังทำกิจกรรมเร่าร้อนกันบนเตียง
รายงานจากตำรวจ เผยว่า ฆาตกรคือ มิคาอิล ทิโคนอฟ หมอวัย 27 ปี ได้นัดเดตกับ นิน่า หญิงข้ามเพศวัย 25 ปี พวกเขาออกไปกินดื่มกันตามปกติเหมือนคู่เดตทั่ว ๆ ไป ก่อนที่นาน่าจะเชื้อเชิญเขาไปต่อกันยังแฟลตของเธอ พวกเขายังคงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันอีกสักพักจนอารมณ์กรุ้มกริ่มได้ที่ แล้วก็ปิดฉากเดตค่ำคืนนั้นบนเตียง
ทว่าระหว่างที่กำลังมีเซ็กส์กันอยู่นั้นเอง
มิคาอิลก็ได้ทราบความจริงว่าคู่เดตคนนี้ แท้จริงแล้วเคยเป็นผู้ชายมาก่อน
แม้จะผ่านการผ่าตัดแปลงเพศมาแล้วก็ตาม
ความจริงที่ได้รู้อย่างกะทันหันทำให้เขาไม่พอใจหนัก
แม้ว่านิน่าพยายามที่จะมีอะไรกับเขาต่อ
มิคาอิลกลับยื่นมือมาบีบคอคู่เดตของเขาจนสิ้นใจคาเตียง
มิคาอิลยอมรับระหว่างการสอบสวนว่า เขาพยายามกำจัดศพต่อเพื่ออำพรางคดี โดยการชำแหละและหั่นศพเหยื่อ นำบางชิ้นส่วนมาอบในเตาจนสุก ก่อนจะทิ้งชิ้นส่วนต่าง ๆ ลงชักโครกไป เก็บเพียงส่วนแขนขา กระดูก และศีรษะ ยัดใส่กระเป๋าเดินทาง กลับไปยังที่พักของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นิน่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม่ของเธอก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เขามาตรวจสอบ กระทั่งนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยในตอนที่ตำรวจบุกไปควบคุมตัวมิคาอิลที่แฟลตของเขา เจ้าหน้าที่พบว่าเขาพยายามกำจัดชิ้นส่วนศพที่เหลืออยู่ และพบศีรษะของเหยื่อที่มีร่องรอยชวนสยองถูกหมกเกลือไว้เพื่อกลบกลิ่น การทำงานที่รวดเร็วของเจ้าหน้าที่ ทำให้เขาไม่มีเวลาพอจะกำจัดหลักฐานทั้งหมด
ทั้งนี้ มิคาอิลยืนกรานว่าแม้เขาจะนำเนื้อของเหยื่อไปอบจนสุกในเตา แต่เขาก็ไม่ได้กินมันเข้าไป เขาทิ้งมันไปจนหมดแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำลงไปก็นับเป็นอาชญากรรมรุนแรง โดยหากศาลตัดสินว่าเขามีความผิดจริงในข้อหาฆาตกรรมและกำจัดศพ ฆาตกรรายนี้ก็จะต้องเผชิญโทษจำคุกนาน 20 ปี
รายงานจากตำรวจ เผยว่า ฆาตกรคือ มิคาอิล ทิโคนอฟ หมอวัย 27 ปี ได้นัดเดตกับ นิน่า หญิงข้ามเพศวัย 25 ปี พวกเขาออกไปกินดื่มกันตามปกติเหมือนคู่เดตทั่ว ๆ ไป ก่อนที่นาน่าจะเชื้อเชิญเขาไปต่อกันยังแฟลตของเธอ พวกเขายังคงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันอีกสักพักจนอารมณ์กรุ้มกริ่มได้ที่ แล้วก็ปิดฉากเดตค่ำคืนนั้นบนเตียง
มิคาอิลยอมรับระหว่างการสอบสวนว่า เขาพยายามกำจัดศพต่อเพื่ออำพรางคดี โดยการชำแหละและหั่นศพเหยื่อ นำบางชิ้นส่วนมาอบในเตาจนสุก ก่อนจะทิ้งชิ้นส่วนต่าง ๆ ลงชักโครกไป เก็บเพียงส่วนแขนขา กระดูก และศีรษะ ยัดใส่กระเป๋าเดินทาง กลับไปยังที่พักของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นิน่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม่ของเธอก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เขามาตรวจสอบ กระทั่งนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยในตอนที่ตำรวจบุกไปควบคุมตัวมิคาอิลที่แฟลตของเขา เจ้าหน้าที่พบว่าเขาพยายามกำจัดชิ้นส่วนศพที่เหลืออยู่ และพบศีรษะของเหยื่อที่มีร่องรอยชวนสยองถูกหมกเกลือไว้เพื่อกลบกลิ่น การทำงานที่รวดเร็วของเจ้าหน้าที่ ทำให้เขาไม่มีเวลาพอจะกำจัดหลักฐานทั้งหมด
ทั้งนี้ มิคาอิลยืนกรานว่าแม้เขาจะนำเนื้อของเหยื่อไปอบจนสุกในเตา แต่เขาก็ไม่ได้กินมันเข้าไป เขาทิ้งมันไปจนหมดแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำลงไปก็นับเป็นอาชญากรรมรุนแรง โดยหากศาลตัดสินว่าเขามีความผิดจริงในข้อหาฆาตกรรมและกำจัดศพ ฆาตกรรายนี้ก็จะต้องเผชิญโทษจำคุกนาน 20 ปี