หนุ่มพลเมืองดี กลับจากเที่ยวผับตอนดึก เจอไอ้หื่นถอดกางเกงเตรียมขืนใจสาวท้องริมถนน จึงรีบเข้าช่วยเหลือ กระทืบยับ-จับส่งตำรวจ ด้านคนร้ายอ้างเมาหนัก ทำไปโดยไม่รู้ตัว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Kittisak Jackey Silapornprasert ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ เกี่ยวกับเหตุการณ์ขณะที่ตนเองกำลังเดินทางกลับบ้านในช่วงกลางดึก และบังเอิญไปเจอคนร้ายที่อยู่ในสภาพถอดกางเกง กำลังจะข่มขืนผู้หญิงข้างทาง เจ้ของโพสต์กับพวกจึงลงไปช่วยจัดการและสั่งสอนคนร้ายรายดังกล่าว ก่อนจะเรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 เดลินิวส์ ได้รายงานว่า ร.ต.อ. ขัตติยะ พลดงนอก รอง สว.สอบสวน สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้สอบปากคำ น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี สาวท้องซึ่งเป็นผู้เสียหาย ถูกนายครรชิต แสนเวียง อายุ 29 ปี ก่อเหตุพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ที่ป่าหญ้าข้างทาง ถนนมลิวรรณ ใกล้กับโรงเรียนบ้านกุดแข้ห้วยบง ต.หนองไผ่ ฝั่งตรงข้ามสถานบันเทิงชื่อดังเมืองชุมแพ ก่อนที่จะมีพลเมืองดีผ่านไปพบและเข้าช่วยเหลือ พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ แล้วนำตัวส่งตำรวจในสภาพถูกรุมประชาทัณฑ์จนสะบักสะบอมทั้งตัว
น.ส.เอ๋ ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. หลังเลิกงานจากร้านหมูกระทะ เจ้าของร้านได้พาพนักงานไปเที่ยวต่อที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยขากลับตนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาคนเดียว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้มีผู้ชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ จากนั้นคนซ้อนท้ายได้กระโดดลงจากรถมาคร่อมรถของตนทำให้เสียหลักล้มลงข้างทาง ก่อนที่หนึ่งในคนร้ายจะถอดกางเกงออกและพยายามกดให้ตนนอนลงกับพื้นเพื่อข่มขืน ตนพยายามร้องให้คนช่วย โชคดีมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาเข้าช่วยเหลือ ก่อนจะรุมกระทืบผู้ก่อเหตุและแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ด้านนายปิยพัทธ์ บุญมาน้อย อายุ 33 ปี กัปตันฟุตบอลทีม "เสี่ยกล๊อฟชุมแพ fc" หนึ่งในพลเมืองดี ให้การว่า ตนกับเพื่อนได้มาเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อน ๆ หลังร้านปิดจึงเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางพบว่ามีรถจักรยานยนต์ล้มข้างไหล่ทาง จึงลงไปช่วยเหลือ ขณะกำลังลงไปพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว และข้างทางพบผู้หญิงนอนร้องขอความช่วยเหลือว่าถูกคนร้ายอีกคนกำลังจะข่มขืน และเห็นคนร้ายกำลังปลุกปล้ำอยู่ ตนและเพื่อน ๆ จึงเข้าช่วยและรุมกระทืบสั่งสอน ก่อนจะแจ้งตำรวจ
โดยล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นแล้ว เจ้าตัวอ้างว่าเมาหนักจนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ตัวว่าก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเตรียมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก ได้แก่ พยายามข่มขืนกระทำชำเรา กระทำอนาจาร และทำร้ายร่างกาย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาลให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Kittisak Jackey Silapornprasert,
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Kittisak Jackey Silapornprasert ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ เกี่ยวกับเหตุการณ์ขณะที่ตนเองกำลังเดินทางกลับบ้านในช่วงกลางดึก และบังเอิญไปเจอคนร้ายที่อยู่ในสภาพถอดกางเกง กำลังจะข่มขืนผู้หญิงข้างทาง เจ้ของโพสต์กับพวกจึงลงไปช่วยจัดการและสั่งสอนคนร้ายรายดังกล่าว ก่อนจะเรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 เดลินิวส์ ได้รายงานว่า ร.ต.อ. ขัตติยะ พลดงนอก รอง สว.สอบสวน สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้สอบปากคำ น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี สาวท้องซึ่งเป็นผู้เสียหาย ถูกนายครรชิต แสนเวียง อายุ 29 ปี ก่อเหตุพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ที่ป่าหญ้าข้างทาง ถนนมลิวรรณ ใกล้กับโรงเรียนบ้านกุดแข้ห้วยบง ต.หนองไผ่ ฝั่งตรงข้ามสถานบันเทิงชื่อดังเมืองชุมแพ ก่อนที่จะมีพลเมืองดีผ่านไปพบและเข้าช่วยเหลือ พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ แล้วนำตัวส่งตำรวจในสภาพถูกรุมประชาทัณฑ์จนสะบักสะบอมทั้งตัว
น.ส.เอ๋ ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. หลังเลิกงานจากร้านหมูกระทะ เจ้าของร้านได้พาพนักงานไปเที่ยวต่อที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยขากลับตนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาคนเดียว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้มีผู้ชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ จากนั้นคนซ้อนท้ายได้กระโดดลงจากรถมาคร่อมรถของตนทำให้เสียหลักล้มลงข้างทาง ก่อนที่หนึ่งในคนร้ายจะถอดกางเกงออกและพยายามกดให้ตนนอนลงกับพื้นเพื่อข่มขืน ตนพยายามร้องให้คนช่วย โชคดีมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาเข้าช่วยเหลือ ก่อนจะรุมกระทืบผู้ก่อเหตุและแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ด้านนายปิยพัทธ์ บุญมาน้อย อายุ 33 ปี กัปตันฟุตบอลทีม "เสี่ยกล๊อฟชุมแพ fc" หนึ่งในพลเมืองดี ให้การว่า ตนกับเพื่อนได้มาเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อน ๆ หลังร้านปิดจึงเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางพบว่ามีรถจักรยานยนต์ล้มข้างไหล่ทาง จึงลงไปช่วยเหลือ ขณะกำลังลงไปพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว และข้างทางพบผู้หญิงนอนร้องขอความช่วยเหลือว่าถูกคนร้ายอีกคนกำลังจะข่มขืน และเห็นคนร้ายกำลังปลุกปล้ำอยู่ ตนและเพื่อน ๆ จึงเข้าช่วยและรุมกระทืบสั่งสอน ก่อนจะแจ้งตำรวจ
โดยล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นแล้ว เจ้าตัวอ้างว่าเมาหนักจนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ตัวว่าก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเตรียมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก ได้แก่ พยายามข่มขืนกระทำชำเรา กระทำอนาจาร และทำร้ายร่างกาย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาลให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Kittisak Jackey Silapornprasert,