ยาย ไอ้ตั้ม มือฆ่าน้องเอ๋ย เผยหลานเคยประสบอุบัติเหตุจนสติฟั่นเฟือน และหลอนยา จนฆ่าน้องเอ๋ย ยันไม่ประกันตัว ด้านน้องชาย นิน ยันพี่สาวไม่ได้ร่วมฆ่า แต่โดนไอ้ตั้มบังคับให้ทำ
จากกรณีข่าวฆาตกรรมโหด น.ส.ปัชญา ปวงสุข หรือ น้องเอ๋ย สาวสักลาย วัย 22 ปี ถูกอาวุธปืนยิงศีรษะภายในคอนโด ก่อนถูกนำศพมาโยนทิ้งในห้วยพระ จ.ขอนแก่น โดยคนร้ายผู้ก่อเหตุคือ นายธงชัย กลางเมือง หรือ ตั้ม และ น.ส.ธรรมภัสสร พุทธรักษา หรือ นิน ขณะนี้ถูกจับกุมแล้ว และอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่า แค่เล่นเกมรัสเซียนรูเล็ต ซึ่งเป็นเกมที่ผู้เล่นนำกระสุนปืน 1 ลูก บรรจุในรังเพลิงกระบอกปืน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันใช้ปืนจ่อที่ศีรษะตนเองและลั่นไกไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเป็นผู้โชคร้าย (อ่านข่าว : ไร้เงาญาติขอประกันตัวตั้ม - นิน มือสังหารฆ่าน้องเอ๋ย ก่อนนำตัวฝากขังต่อไป)
สำหรับความคืบหน้าของเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.นิน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีฆาตกรรมน้องเอ๋ย 3 จุด คือ คอนโดที่เกิดเหตุ ลำห้วยพระที่ทิ้งศพ และรีสอร์ตที่ นายตั้ม กับ น.ส.นิน เดินทางมาพักหลังทิ้งศพ โดยได้เปลี่ยนเสื้อผ้า นำเสื้อผ้าเก่าไปโยนทิ้งหลังรีสอร์ต ก่อนจะพากันหลบหนี ซึ่งในระหว่างการทำแผน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเสื้อผ้าของผู้ต้องหา ตรงกับคำให้การ
ส่วนนายตั้ม ผู้ต้องหาอีกคน ไม่ยอมออกไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ โดย พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า สาเหตุที่ นายตั้ม ไม่ออกไปทำแผน เป็นเพราะขณะนี้ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าน้องเอ๋ย และน้องเอ๋ยใช้อาวุธปืนยิงศีรษะตัวเองจนเสียชีวิต ขณะเล่นเกมรัสเซียนรูเล็ตด้วยกัน

นายปาม พยานผู้พบเห็นเหตุการณ์
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
ขณะที่ นายปาม (นามสมมติ) พยานในจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตน นายตั้ม น.ส.นิน และน้องเอ๋ย รวม 4 คน อยู่ด้วยกันในห้องพักคอนโด กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ตนออกจากห้องไปซื้อเครื่องดื่ม เมื่อเดินทางกลับมาถึงห้อง พบว่ามีการทะเลาะกัน ต่อมาตนได้เดินไปเข้าห้องน้ำ และยังได้ยินเสียงทะเลาะกันดังต่อเนื่อง หลังจากนั้นไม่กี่นาที ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบเปิดประตูห้องน้ำออกไปดู พบเห็นน้องเอ๋ยล้มลงนอนชักกับพื้น จากนั้น น.ส.นิน บอกให้ตนออกไปข้างนอก ตนจึงรีบออกไปทันทีด้วยความตกใจ
หลังจากลงมาข้างล่างแล้ว ตนนึกขึ้นได้ว่าลืมกุญแจรถจักรยานยนต์ จึงรีบกลับขึ้นไปเอา และเป็นจังหวะเดียวกับที่ น.ส.นิน และ นายตัม อุ้มศพน้องเอ๋ยลงมาด้านล่าง ทั้งสองได้นำศพขึ้นรถจักรยานยนต์ของ และขับขี่ออกไป ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการฆาตกรรม หรืออำพรางศพ ทั้งนี้ตนเชื่อว่านายตั้มฆ่าน้องเอ๋ยเพราะหลอนยา คิดไปเองว่าน้องเอ๋ยจะแจ้งตำรวจมาจับ จึงลงมือก่อเหตุ

นายบาส น้องชาย น.ส.นิน
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
นายบาส กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่าพี่สาวไม่ได้มีเจตนาร่วมกันฆ่า น้องเอ๋ย แน่นอน เพราะน้องเอ๋ยเป็นรุ่นน้องของ พี่สาวตน อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ทั้งสองไปเที่ยวเล่นด้วยกัน และไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด นอกจากนี้แล้ว พี่สาวได้เล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุ นายตั้มได้บังคับให้พี่สาวตนช่วยนำศพไปทิ้ง พร้อมขู่ว่าถ้าไม่ทำจะฆ่าทิ้ง และจะไปฆ่าทุกคนในครอบครัวด้วย พี่สาวจึงไม่มีทางเลือก
ขณะที่ นางจันที แก้วมาต อายุ 67 ปี ยายของนายตั้ม เล่าว่า ก่อนหน้านี้หลานชายเคยประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชนจนบาดเจ็บหนัก นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เกือบเดือน หลังจากฟื้นขึ้นมาได้ หลานชายก็เปลี่ยนไป มีอาการผิดปกติและสติฟั่นเฟือน ซึ่งตนเชื่อว่าไม่ได้เป็นเพราะอุบัติเหตุอย่างเดียว แต่อาจเป็นเพราะยาเสพติดด้วย เพราะหลานชายเสพยาเสพติด้วย คงเสพมากเกินไปจนมีอาการหลอน

นางจันที ยายของนายตั้ม
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
แต่อย่างไรก็ตาม
ตนยอมรับว่าหลานชายทำผิด ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
และตนก็จะไม่เข้าไปประกันตัว หรือต่อสู้คดีแต่อย่างใด
จะแค่เดินทางไปเยี่ยมเท่านั้น เพราะไม่อยากให้หลานออกมาเป็นภาระสังคม


อ่านรายละเอีบดเพิ่มเติมจาก
