หนุ่ม 15 เศร้าไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม หลังถูกสาว อสม. โกงเงินบริจาคกว่า 5 แสนบาท ทั้งที่รู้จักและสนิทสนมกัน ขณะที่เจ้าตัวรับผิด ตัดพ้อคิดฆ่าตัวตายหลังถูกสังคมโจมตี ยันจะหาเงินมาคืน
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
วันที่ 29 เมษายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายปกรณ์ อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย กรณีถูกเพื่อนบ้านโกงเงินที่ได้รับบริจาคจนเกือบเกลี้ยงบัญชี เพื่อเอาไปใช้หนี้ของตัวเอง โดยนายปกรณ์ เปิดเผยว่า ครอบครัวตน และนางอ้อ อสม. ประจำหมู่บ้าน เป็นเพื่อนบ้านที่คุ้นเคยกัน ซึ่งตนสงสาร เพราะนางอ้อบ่นว่าไม่มีเงินใช้ จึงถอนเงินให้ โดยที่นางอ้อเป็นคนพาตนไปถอนที่ธนาคาร ทุกครั้งตนไม่รู้ว่าเบิกไปครั้งละกี่บาท และที่ตนไม่ได้บอกใคร เพราะว่านางอ้อขอว่าไม่ให้บอกคนอื่น ทุกครั้งที่ไปธนาคารจะมีพี่สาวนางอ้อ และลูกของนางอ้อ ไปด้วย ตอนนี้ตนลำบากมาก ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม แค่ค่ารองเท้ายังไม่มีจะซื้อด้วยซ้ำ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นางต้อย อาของนายปกรณ์ เปิดเผยว่า เงินประมาณ 520,000 บาท มีประชาชนบริจาคให้หลานเพื่อใช้จ่ายให้เรียนจบปริญญา ซึ่งตอนแรกบัญชีถูกเก็บไว้กับครูประจำชั้น แต่ถูกนางอ้อหลอกเอามาไว้กับตัวเอง เมื่อตนทวงถามก็อ้างอีกว่าอยู่กับนายอำเภอแล้ว นายอำเภอเอาไปตรวจสอบ มีการปลอมเสียงเป็นนายอำเภอ แต่พอตนไปสอบถามกลับได้รับคำตอบว่าไม่รู้เรื่อง เงินถูกถอนจนเหลือแค่ 236 บาท ตนคิดจะปิดบริจาคหลังเงินเข้าเกินกว่า 500,000 บาท แต่นางอ้อห้ามไว้
นางต้อย เผยอีกว่า นางอ้อคือคนที่ตนไว้ใจ รักเหมือนน้อง คิดว่าเป็นคนดี แต่กลับทำแบบนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตนเสียใจและเจ็บใจมาก ไม่อยากเจอหน้า ไม่สงสารที่ถูกสังคมด่า หลังเกิดเรื่องได้เจอกันที่โรงพักครั้งหนึ่ง นางอ้อร้องไห้ กล่าวขอโทษ แต่ตนยืนยันไปว่าหากต้องการให้คดีจบก็เอาเงินมาคืนให้ครบทั้งหมด
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ นางอ้อ คู่กรณี เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ ยอมรับว่าเอาเงินไปจริง แต่ใช้ไปหมดแล้ว เอาไปใช้หนี้ดอกเบี้ยรายวันของตัวเองที่กู้มา ก่อนหน้านี้เครียดมากจนอยากจะฆ่าตัวตาย หลังถูกสังคมด่า แต่ขอให้ด่าแค่ตนเองคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสามีหรือครอบครัว ตอนนี้พยายามยืมเงินญาติ ๆ อยู่ ได้ก้อนหนึ่งแล้ว จะเอาไปคืนน้องปกรณ์
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน นายบุญทัน พืชทองหลาง ผู้ที่เคยถูกครอบครัวนางอ้อโกงเงินเช่นกัน เปิดเผยว่า ตนเคยถูกพี่นางอ้อโกงเงิน แต่ตอนนั้นไม่ได้เอาเรื่อง เพราะเงินไม่มาก ประมาณ 400-500 บาท ตนวานให้พี่นางอ้อเอาไปใช้หนี้เงินกู้ให้ แต่พี่นางอ้อไม่เอาไปชำระให้ แต่กลับไปพูดใส่ร้ายตนให้ชาวบ้านฟังว่าตนไม่ใช้หนี้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้ นายนิติธร แก้วโต ทนายความ กล่าวว่า ตามหลักกฎหมาย การหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์สิน ถือว่ามีความผิด อาจได้รับโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท แต่การหลอกลวงคนเบาปัญญา หรือเด็ก จะมีความผิด โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท โดยการกระทำผิดสำเร็จ 1 ครั้ง คือ 1 กรรม แต่ศาลอาจพิจารณาตัดสินสูงสุด จำคุกประมาณไม่เกิน 10 ปี
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
โดยความผิดฐานฉ้อโกง สามารถยอมความและถอนคำร้องทุกข์ได้ หากตกลงกันได้แล้วคู่กรณีนำเงินมาคืน แต่หากคืนไม่ครบ ตำรวจก็ดำเนินคดีได้ ซึ่งหากมีการเจรจา แนะนำว่าผู้เสียหายไม่ควรถอนแจ้งความจนกว่าจะได้เงินคืนทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
วันที่ 29 เมษายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายปกรณ์ อายุ 15 ปี ผู้เสียหาย กรณีถูกเพื่อนบ้านโกงเงินที่ได้รับบริจาคจนเกือบเกลี้ยงบัญชี เพื่อเอาไปใช้หนี้ของตัวเอง โดยนายปกรณ์ เปิดเผยว่า ครอบครัวตน และนางอ้อ อสม. ประจำหมู่บ้าน เป็นเพื่อนบ้านที่คุ้นเคยกัน ซึ่งตนสงสาร เพราะนางอ้อบ่นว่าไม่มีเงินใช้ จึงถอนเงินให้ โดยที่นางอ้อเป็นคนพาตนไปถอนที่ธนาคาร ทุกครั้งตนไม่รู้ว่าเบิกไปครั้งละกี่บาท และที่ตนไม่ได้บอกใคร เพราะว่านางอ้อขอว่าไม่ให้บอกคนอื่น ทุกครั้งที่ไปธนาคารจะมีพี่สาวนางอ้อ และลูกของนางอ้อ ไปด้วย ตอนนี้ตนลำบากมาก ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม แค่ค่ารองเท้ายังไม่มีจะซื้อด้วยซ้ำ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นางต้อย อาของนายปกรณ์ เปิดเผยว่า เงินประมาณ 520,000 บาท มีประชาชนบริจาคให้หลานเพื่อใช้จ่ายให้เรียนจบปริญญา ซึ่งตอนแรกบัญชีถูกเก็บไว้กับครูประจำชั้น แต่ถูกนางอ้อหลอกเอามาไว้กับตัวเอง เมื่อตนทวงถามก็อ้างอีกว่าอยู่กับนายอำเภอแล้ว นายอำเภอเอาไปตรวจสอบ มีการปลอมเสียงเป็นนายอำเภอ แต่พอตนไปสอบถามกลับได้รับคำตอบว่าไม่รู้เรื่อง เงินถูกถอนจนเหลือแค่ 236 บาท ตนคิดจะปิดบริจาคหลังเงินเข้าเกินกว่า 500,000 บาท แต่นางอ้อห้ามไว้
นางต้อย เผยอีกว่า นางอ้อคือคนที่ตนไว้ใจ รักเหมือนน้อง คิดว่าเป็นคนดี แต่กลับทำแบบนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตนเสียใจและเจ็บใจมาก ไม่อยากเจอหน้า ไม่สงสารที่ถูกสังคมด่า หลังเกิดเรื่องได้เจอกันที่โรงพักครั้งหนึ่ง นางอ้อร้องไห้ กล่าวขอโทษ แต่ตนยืนยันไปว่าหากต้องการให้คดีจบก็เอาเงินมาคืนให้ครบทั้งหมด
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ นางอ้อ คู่กรณี เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ ยอมรับว่าเอาเงินไปจริง แต่ใช้ไปหมดแล้ว เอาไปใช้หนี้ดอกเบี้ยรายวันของตัวเองที่กู้มา ก่อนหน้านี้เครียดมากจนอยากจะฆ่าตัวตาย หลังถูกสังคมด่า แต่ขอให้ด่าแค่ตนเองคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสามีหรือครอบครัว ตอนนี้พยายามยืมเงินญาติ ๆ อยู่ ได้ก้อนหนึ่งแล้ว จะเอาไปคืนน้องปกรณ์
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน นายบุญทัน พืชทองหลาง ผู้ที่เคยถูกครอบครัวนางอ้อโกงเงินเช่นกัน เปิดเผยว่า ตนเคยถูกพี่นางอ้อโกงเงิน แต่ตอนนั้นไม่ได้เอาเรื่อง เพราะเงินไม่มาก ประมาณ 400-500 บาท ตนวานให้พี่นางอ้อเอาไปใช้หนี้เงินกู้ให้ แต่พี่นางอ้อไม่เอาไปชำระให้ แต่กลับไปพูดใส่ร้ายตนให้ชาวบ้านฟังว่าตนไม่ใช้หนี้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้ นายนิติธร แก้วโต ทนายความ กล่าวว่า ตามหลักกฎหมาย การหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์สิน ถือว่ามีความผิด อาจได้รับโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท แต่การหลอกลวงคนเบาปัญญา หรือเด็ก จะมีความผิด โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท โดยการกระทำผิดสำเร็จ 1 ครั้ง คือ 1 กรรม แต่ศาลอาจพิจารณาตัดสินสูงสุด จำคุกประมาณไม่เกิน 10 ปี
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
โดยความผิดฐานฉ้อโกง สามารถยอมความและถอนคำร้องทุกข์ได้ หากตกลงกันได้แล้วคู่กรณีนำเงินมาคืน แต่หากคืนไม่ครบ ตำรวจก็ดำเนินคดีได้ ซึ่งหากมีการเจรจา แนะนำว่าผู้เสียหายไม่ควรถอนแจ้งความจนกว่าจะได้เงินคืนทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก