หนุ่มระบาย เพื่อนบ้านรีโนเวทบ้านทำเลดี สู่อาณาจักรนกพิราบ เชื้อโรคพรึ่บ

          หนุ่มขอระบาย เพื่อนบ้านเปลี่ยนบ้านทำเลดีกลาง ซอยสุขุมวิท 101/1 ให้กลายเป็นที่เลี้ยงนกพิราบ ทั้งต่อเติมผิดแบบ ทำขนนกปลิวว่อน เชื้อโรคหนักจนคนเป็นภูมิแพ้


          เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 สมาชิกหมายเลข 4922460 เว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ได้ออกมาระบายถึงความทุกข์ร้อน หลังจากที่ข้างบ้านได้รีโนเวทบ้านใหม่ จากบ้านสวยทำเลดี ให้กลายเป็นรังเลี้ยงนกพิราบ จนสร้างความเดือดร้อนกับคนอื่น

          ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้ เผยว่า ตนอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 101/1 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2559 ข้างบ้านที่ติดกัน ได้มีการเปลี่ยนเจ้าของใหม่ และเจ้าของบ้านใหม่บอกว่า ต้องการที่จะรีโนเวทบ้านเดิม อาจจะมีเสียงบ้าง ซึ่งเจ้าของกระทู้เองก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

          ทว่า การรีโนเวทบ้านนั้น กินระยะเวลาประมาณปีกว่า และยังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง จากที่มี 4 ชั้น โดยที่ชั้น 4 เป็นดาดฟ้า ก็ทำให้เป็น 5 ชั้น ซึ่งเมื่อสอบถามกับผู้รับเหมา ก็ได้รับการเปิดเผยว่า ชั้น 5 ที่ต่อขึ้นไปนั้น เอาไว้ทำเป็นกรงนก ทำให้เจ้าของกระทู้กลัวว่าจะส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้เขาเองบอกผู้รับเหมาว่า อยากให้ทำกรงนกเป็นแบบปิด เพื่อไม่ให้เดือดร้อนคนอื่น

          ทว่า การทำกรงนกนั้น ได้มีการนำไม้มาปิดแค่ฝั่งเดียว คือฝั่งติดกับบ้านเจ้าของกระทู้ และในช่วงต้นปี 2561 จึงมีการนำนกเข้าเลี้ยง จนสร้างความเดือดร้อน อันเนื่องมาจากขนนกได้ปลิวเข้ามาใส่ผ้าที่ตากเอาไว้ เจ้าของกระทู้เองก็มีอาการคัดจมูก และเมื่อมองลอดเข้าไป จะพบว่ามีนกพิราบหลายสิบตัว กรงใหญ่ถูกซอยเป็นกรงเล็ก และยังมีเศษซากนกที่มาทิ้งเอาไว้อีกด้วย


          เมื่อนำเรื่องนี้ไปตักเตือนเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านกลับบอกว่า ขนนกดังกล่าวไม่ใช่นกของเขา มีอะไรก็ไปฟ้องเขต จนเมื่อแจ้งไปทางเขต และเขตมาตรวจสอบ ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่มา ก็ไม่พบเจ้าของบ้านเลย ทั้งที่ในบ้านนั้นมีคนอยู่แท้ ๆ

          เดือนธันวาคม 2561 เจ้าหน้าที่เขตแจ้งว่า บ้านหลังดังกล่าวเลี้ยงนกที่ชั้นบนของบ้าน 14 ตัว ชั้นล่าง 28 ตัว และเขตอยู่ในระหว่างออกคำสั่งเพื่อให้เจ้าของบ้านปรับปรุงแก้ไข ทว่าจนถึงตอนนี้ กลับยังไม่มีคำสั่งดังกล่าวมาจากเขตบางนาแต่อย่างใด

          "ในขณะที่พ่อและแม่ของผมอายุเกือบ 70 ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านนี้ตลอด ต้องหายใจเอาเชื้อโรคที่มาจากนกเหล่านี้ รวมถึงขนนกที่ติดมากับเสื้อที่ตากไว้ทุกวันเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว

          ที่ผ่านมาทางผม ได้พยายามเจรจากับทางเพื่อนบ้านที่เลี้ยงนก รวมทั้งแจ้งเขต และหน่วยงานรัฐต่าง ๆ หลายหน่วยงานด้วยกัน ให้ช่วยดำเนินการแก้ไข แต่นี่ก็ล่วงเลยมาจะเกือบ 2 ปีแล้ว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม พอจะมีใครสามารถให้คำแนะนำได้บ้าง ว่าผมต้องไปทำยังไงต่อ เพราะคุยกับเจ้าตัวก็แล้ว พึ่งเจ้าหน้าที่รัฐก็แล้ว แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย"

          ในเรื่องนี้ ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย โดยเฉพาะการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า มีการขออนุญาตต่อเติมอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมถึงตำหนิการทำงานของรัฐ ที่ชักช้าและไม่มีประสิทธิภาพ