แม่เลี้ยงเดี่ยว เล่าประสบการณ์ชีวิตคู่แสนเจ็บปวด สามีแอบนอกใจตอนท้อง แถมทำชู้ท้องอีกคน ขณะที่แม่ผัวบอกไปรับขวัญลูกชู้ ก่อนลูกเราเสียอีก สุดท้ายสามีทิ้งไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกไม่มีพ่อ ทั้งที่ไม่ผิดอะไรเลย
![ชีวิตคู่สุดช้ำ]( "ชีวิตคู่สุดช้ำ")
![ชีวิตคู่สุดช้ำ]( "ชีวิตคู่สุดช้ำ")
วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 สาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเธอมีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว โพสต์เล่าประสบการณ์แสนเจ็บปวด จากการแอบคบซ้อนของสามี โดยระหว่างที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่นั้น ก็ถูกสามีทำร้ายจิตใจ ด้วยการไปทำผู้หญิงที่ทำงานท้องอีกคน แล้วสุดท้ายสามีก็ทิ้งเธอกับลูกไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ ชาวเน็ตต่างเห็นใจและให้กำใจเธอ และเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ไปอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล
โดยเธอเล่าเรื่องราวทั้งหมดระบุว่า แชร์ประสบการณ์ชีวิตคู่ที่เลวร้ายที่สุด ความเจ็บปวดของภรรยาที่ถูกสามีทอดทิ้ง ความเจ็บปวดของหัวใจที่แตกละเอียด จากการทรยศของผู้ชายที่คบหากันมาครึ่งชีวิต ความเชื่อใจมีให้ได้แต่ต้องไม่มากเกินไป จะทำอย่างไรเมื่อสามีทำผู้หญิงในที่ทำงานท้อง ตอนเราท้องได้ 3 เดือน
![ชีวิตคู่สุดช้ำ]( "ชีวิตคู่สุดช้ำ")
![ชีวิตคู่สุดช้ำ]( "ชีวิตคู่สุดช้ำ")
จุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด และบาดแผลฉกรรจ์เริ่มขึ้น หลังจากที่เราแท้งลูกสาวคนแรกไป หลังแท้งเรามีอาการเครียดรุนแรง ต้องพบจิตแพทย์ และมีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะใช้เวลารักษาตัวร่วมปี
เราคบหากันโดยอยู่คนละจังหวัด เมื่อเดือนตุลาคม 2561 เราพูดเรื่องจดทะเบียนสมรสตามที่เขาเคยสัญญาไว้ เขาเลื่อนออกไป บอกว่า 14 กุมภาพันธ์ 2562 จะเดินทางมาจดทะเบียนด้วย เราก็โอเค
![ชีวิตคู่สุดช้ำ]( "ชีวิตคู่สุดช้ำ")
![ชีวิตคู่สุดช้ำ]( "ชีวิตคู่สุดช้ำ")
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เขามาหาและไปเคาท์ดาวน์ด้วยกัน จับมือ กอดกัน พูดคุย แววตายังเหมือนเดิม "แกอยากมีลูกไม่ใช่เหรอ" นั่นคือคำพูดที่ทำให้เราปล่อยท้อง และท้องทันทีในเดือนต่อมา ปลายเดือนมกราคม เราตั้งท้องลูกคนที่ 2 ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม เขายังโทร. หา ยังติดต่อกันได้ปกติ แต่มีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือเขาเริ่มโกหก บอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ความจริงคือไปเที่ยวกับผู้หญิงคนนั้น เป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน ผู้หญิงคนนั้นรู้ทั้งรู้ว่าสามีมีครอบครัวแล้ว แต่ตั้งใจจะแย่งให้ได้
เราเหมือนคนโง่ อุ้มท้องนั่งรถเมล์ไปหาหมอทุกเดือน จนกระทั่งเข้าเดือนมีนาคม เขาเปลี่ยนไป ไม่พูดจาหวาน ๆ เหมือนเดิม บอกว่าเหนื่อยที่จะพูดแล้ว แล้วเขาก็ห่างออกไปทุกที จากที่ติดต่อได้ ก็ติดต่อไม่ได้ และจากที่เคยโทร. หาทุกวัน ก็กลายเป็นเงียบหายไป เราอดทนเพื่อลูกอยู่ตลอดเวลา
![ชีวิตคู่สุดช้ำ]( "ชีวิตคู่สุดช้ำ")
กระทั่งเราท้องได้ 6 เดือน แชตเฟซบุ๊กเด้งขึ้นมา พร้อมข้อความจากเพื่อนคนหนึ่ง บอกว่าสามีเรามีคนอื่น เราไม่เชื่อ ไม่อยากเชื่อ ยังคงหลอกตัวเอง แต่ก็หวาดระแวง จึงล็อกอินเข้าเฟซบุ๊กของเขา จนไปเจอภาพหนึ่ง เป็นภาพมือของชายหญิง ที่เราจำได้ว่าเป็นมือของสามีเรา แต่เรายังปล่อยทุกอย่างผ่านไป
เราอุ้มท้อง 6 เดือน เดินทางด้วยรถทัวร์ 8 ชั่วโมง ไปกรุงเทพฯ แต่สิ่งที่เราได้รับคือ ข้อความต่อว่าหยาบคายจากสามี กระทั่งเราท้องได้ 8 เดือน เราทะเลาะกันรุนแรงมาก เขาเผลอหลุดปากบอกว่า "เมื่อก่อนเรารักแกมากนะ มากจนโงหัวไม่ขึ้น แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว" และเราก็ได้รู้ว่า เขาแอบไปซื้อรถยนต์คันใหม่ เราช็อกมาก หอบท้องโต ๆ เดินเหม่อไปยืนร้องไห้บนสะพานคนเดียวเหมือนคนบ้า คิดอยากจะฆ่าตัวตาย ให้ความเจ็บปวดมันหายไป แต่ลูกในท้องดิ้นแรง คล้ายกับเตือนสติเราไว้
หลังเราคลอดลูกได้ 2 เดือน ก็ได้รู้ความจริงว่า สามีทำผู้หญิงคนนั้นท้อง ตนจึงโทร. ถามแม่ของสามี ปรากฏว่าแม่ของสามีก็ทราบแล้ว แต่ไม่รู้จะบอกเรายังไง ที่สำคัญเขาไปรับขวัญหลานทางโน้น ก่อนมาหาลูกเราอีก
หลังจากเขารู้แล้ว ว่าเรารู้ความจริงก็โทร. มา คำแรกที่พูดคือ ขอโทษ เขามันเลว เขาผิดเองทุกอย่าง และเขาบอกว่าเขาหมดรักเราตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้ว แต่เขาไม่กล้าขอเลิกกับเรา คนเรานี่แปลก ไม่กล้าบอกเลิก แต่กล้านอกใจ เขามานอนกับเรา มามีอะไรกัน มากอด มาบอกรักเราในขณะที่เขาไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้ว มันตลกเนอะ ตลกร้ายมาก เขาบอกว่าตอนที่รู้ว่าเราท้อง เขาตกใจ ไม่รู้จะทำยังไง เราถามคำว่าทำไมยังไม่หยุด เขาบอกว่า "มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ"
อารมณ์ชั่ววูบงั้นเหรอ ในขณะที่เราท้อง เขากับชู้รักยังไปเอากัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจนท้อง ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็รู้ว่าเราท้อง แต่ก็ยังปล่อยตัวเองท้องเพื่อจับสามีเรา หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาก็ขนของไปอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทางการ เขามีความสุข มีชีวิตที่สมบูรณ์ พ่อ แม่ ลูก จากการที่แม่แย่งสามีคนอื่นไป ลูกชายของเราเหมือนกลายเป็นลูกเมียน้อย ทั้งที่เขาเกิดมาอย่างถูกต้อง แต่กลายเป็นลูกไม่มีพ่อ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
สุดท้ายฝากถึงผู้ชายทุกคน หากหมดรักขอให้บอก อย่าทำร้ายกันด้วยคำว่าไม่กล้า ฝากถึงผู้หญิงที่คิดจะแย่งสามีใคร อย่าทำร้ายผู้หญิงด้วยกันเพราะคำว่าอยากได้ และฝากถึงผู้หญิงที่เชื่อใจคนรัก ความเชื่อใจมีได้ แต่ต้องไม่มากเกินไป ที่สำคัญที่สุดอย่ารักใครมากกว่าตัวเอง...
วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 สาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเธอมีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว โพสต์เล่าประสบการณ์แสนเจ็บปวด จากการแอบคบซ้อนของสามี โดยระหว่างที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่นั้น ก็ถูกสามีทำร้ายจิตใจ ด้วยการไปทำผู้หญิงที่ทำงานท้องอีกคน แล้วสุดท้ายสามีก็ทิ้งเธอกับลูกไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ ชาวเน็ตต่างเห็นใจและให้กำใจเธอ และเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ไปอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล
โดยเธอเล่าเรื่องราวทั้งหมดระบุว่า แชร์ประสบการณ์ชีวิตคู่ที่เลวร้ายที่สุด ความเจ็บปวดของภรรยาที่ถูกสามีทอดทิ้ง ความเจ็บปวดของหัวใจที่แตกละเอียด จากการทรยศของผู้ชายที่คบหากันมาครึ่งชีวิต ความเชื่อใจมีให้ได้แต่ต้องไม่มากเกินไป จะทำอย่างไรเมื่อสามีทำผู้หญิงในที่ทำงานท้อง ตอนเราท้องได้ 3 เดือน
จุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด และบาดแผลฉกรรจ์เริ่มขึ้น หลังจากที่เราแท้งลูกสาวคนแรกไป หลังแท้งเรามีอาการเครียดรุนแรง ต้องพบจิตแพทย์ และมีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะใช้เวลารักษาตัวร่วมปี
เราคบหากันโดยอยู่คนละจังหวัด เมื่อเดือนตุลาคม 2561 เราพูดเรื่องจดทะเบียนสมรสตามที่เขาเคยสัญญาไว้ เขาเลื่อนออกไป บอกว่า 14 กุมภาพันธ์ 2562 จะเดินทางมาจดทะเบียนด้วย เราก็โอเค
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เขามาหาและไปเคาท์ดาวน์ด้วยกัน จับมือ กอดกัน พูดคุย แววตายังเหมือนเดิม "แกอยากมีลูกไม่ใช่เหรอ" นั่นคือคำพูดที่ทำให้เราปล่อยท้อง และท้องทันทีในเดือนต่อมา ปลายเดือนมกราคม เราตั้งท้องลูกคนที่ 2 ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม เขายังโทร. หา ยังติดต่อกันได้ปกติ แต่มีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือเขาเริ่มโกหก บอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ความจริงคือไปเที่ยวกับผู้หญิงคนนั้น เป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน ผู้หญิงคนนั้นรู้ทั้งรู้ว่าสามีมีครอบครัวแล้ว แต่ตั้งใจจะแย่งให้ได้
เราเหมือนคนโง่ อุ้มท้องนั่งรถเมล์ไปหาหมอทุกเดือน จนกระทั่งเข้าเดือนมีนาคม เขาเปลี่ยนไป ไม่พูดจาหวาน ๆ เหมือนเดิม บอกว่าเหนื่อยที่จะพูดแล้ว แล้วเขาก็ห่างออกไปทุกที จากที่ติดต่อได้ ก็ติดต่อไม่ได้ และจากที่เคยโทร. หาทุกวัน ก็กลายเป็นเงียบหายไป เราอดทนเพื่อลูกอยู่ตลอดเวลา
กระทั่งเราท้องได้ 6 เดือน แชตเฟซบุ๊กเด้งขึ้นมา พร้อมข้อความจากเพื่อนคนหนึ่ง บอกว่าสามีเรามีคนอื่น เราไม่เชื่อ ไม่อยากเชื่อ ยังคงหลอกตัวเอง แต่ก็หวาดระแวง จึงล็อกอินเข้าเฟซบุ๊กของเขา จนไปเจอภาพหนึ่ง เป็นภาพมือของชายหญิง ที่เราจำได้ว่าเป็นมือของสามีเรา แต่เรายังปล่อยทุกอย่างผ่านไป
เราอุ้มท้อง 6 เดือน เดินทางด้วยรถทัวร์ 8 ชั่วโมง ไปกรุงเทพฯ แต่สิ่งที่เราได้รับคือ ข้อความต่อว่าหยาบคายจากสามี กระทั่งเราท้องได้ 8 เดือน เราทะเลาะกันรุนแรงมาก เขาเผลอหลุดปากบอกว่า "เมื่อก่อนเรารักแกมากนะ มากจนโงหัวไม่ขึ้น แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว" และเราก็ได้รู้ว่า เขาแอบไปซื้อรถยนต์คันใหม่ เราช็อกมาก หอบท้องโต ๆ เดินเหม่อไปยืนร้องไห้บนสะพานคนเดียวเหมือนคนบ้า คิดอยากจะฆ่าตัวตาย ให้ความเจ็บปวดมันหายไป แต่ลูกในท้องดิ้นแรง คล้ายกับเตือนสติเราไว้
หลังเราคลอดลูกได้ 2 เดือน ก็ได้รู้ความจริงว่า สามีทำผู้หญิงคนนั้นท้อง ตนจึงโทร. ถามแม่ของสามี ปรากฏว่าแม่ของสามีก็ทราบแล้ว แต่ไม่รู้จะบอกเรายังไง ที่สำคัญเขาไปรับขวัญหลานทางโน้น ก่อนมาหาลูกเราอีก
หลังจากเขารู้แล้ว ว่าเรารู้ความจริงก็โทร. มา คำแรกที่พูดคือ ขอโทษ เขามันเลว เขาผิดเองทุกอย่าง และเขาบอกว่าเขาหมดรักเราตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้ว แต่เขาไม่กล้าขอเลิกกับเรา คนเรานี่แปลก ไม่กล้าบอกเลิก แต่กล้านอกใจ เขามานอนกับเรา มามีอะไรกัน มากอด มาบอกรักเราในขณะที่เขาไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้ว มันตลกเนอะ ตลกร้ายมาก เขาบอกว่าตอนที่รู้ว่าเราท้อง เขาตกใจ ไม่รู้จะทำยังไง เราถามคำว่าทำไมยังไม่หยุด เขาบอกว่า "มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ"
อารมณ์ชั่ววูบงั้นเหรอ ในขณะที่เราท้อง เขากับชู้รักยังไปเอากัน ไปไหนมาไหนด้วยกันจนท้อง ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นก็รู้ว่าเราท้อง แต่ก็ยังปล่อยตัวเองท้องเพื่อจับสามีเรา หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาก็ขนของไปอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทางการ เขามีความสุข มีชีวิตที่สมบูรณ์ พ่อ แม่ ลูก จากการที่แม่แย่งสามีคนอื่นไป ลูกชายของเราเหมือนกลายเป็นลูกเมียน้อย ทั้งที่เขาเกิดมาอย่างถูกต้อง แต่กลายเป็นลูกไม่มีพ่อ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
สุดท้ายฝากถึงผู้ชายทุกคน หากหมดรักขอให้บอก อย่าทำร้ายกันด้วยคำว่าไม่กล้า ฝากถึงผู้หญิงที่คิดจะแย่งสามีใคร อย่าทำร้ายผู้หญิงด้วยกันเพราะคำว่าอยากได้ และฝากถึงผู้หญิงที่เชื่อใจคนรัก ความเชื่อใจมีได้ แต่ต้องไม่มากเกินไป ที่สำคัญที่สุดอย่ารักใครมากกว่าตัวเอง...
