เมืองในฟิลิปปินส์ ผุดกฎหมายแปลก ห้ามคนซุบซิบนินทา ป้องกันการกระจายข่าวลือ ชี้ควรนำเวลาไปทำอะไรที่ดีกว่านี้ และเตือนให้คนรับรู้ ว่าต้องรับผิดชอบในทุกคำพูด
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 6 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล รายงานว่า ในขณะที่การซุบซิบนินทา เป็นพฤติกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่สำหรับเมืองเล็ก ๆ ของฟิลิปปินส์อย่าง ปินาโลนาน (Binalonan) พฤติกรรมไม่พึงประสงค์อย่างการนินทา จะกลายมาเป็นเรื่องต้องห้ามที่มีความผิดตามกฎหมายท้องถิ่นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข่าวลือต่าง ๆ แพร่กระจายไปทั่วชุมชน
ใครก็ตามที่ฝ่าฝืน จะถูกลงโทษด้วยการปรับเงิน 200 เปโซ (ราว 120 บาท) และต้องไปเก็บขยะบนท้องถนนเป็นเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ และหากมีใครกระทำผิดซ้ำสอง จะได้รับโทษหนักขึ้นทั้งในด้านค่าปรับ รวมถึงต้องไปบริการสาธารณะอีกเป็นเวลา 8 ชั่วโมง
แม้จะไม่มีสิ่งบ่งชี้ชัดเจน ว่าพฤติกรรมใดบ้างที่เข้าข่ายนินทา แต่นายกเทศมนตรีรามิน กุยโซ ชี้ว่า การพูดคุยข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของบุคคลใด ๆ หรือเรื่องการเงินของบุคคลใดก็ตาม ล้วนเข้าข่ายมีความผิดที่จะต้องถูกลงโทษ ทั้งนี้ เพื่อทำให้ชาวเมืองรู้จักรับผิดชอบในทุก ๆ คำพูดที่พวกเขาได้พูดออกไป
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
แม้ว่ากฎหมายนี้จะฟังดูแปลก แต่ก่อนหน้านี้มันก็เคยถูกนำมาบังคับใช้เวลาในเมืองโมเรโน ซึ่งเป็นเมืองข้างเคียงกับเมืองปินาโลนาน ตั้งแต่ปี 2560 โดยพบว่ามีพลเมืองหลายคนที่ถูกโทษปรับ 500 เปโซ (ราว 300 บาท) รวมถึงต้องออกไปเก็บถนนในยามบ่ายของวัน แต่กลับไม่มีใครที่ถูกลงโทษซ้ำในความผิดเดิม เพราะไม่มีใครอยากถูกคนอื่นมองว่าเป็นพวกขี้นินทา
สำหรับมาตรการปราบปรามการแพร่ข่าวลือ จะถูกนำมาใช้เพื่อหยุดข่าวซุบซิบนินทา ที่มีอัตราเพิ่มสูงอย่างมากในช่วงฤดูร้อน ที่คนมากมายมักไปรวมตัวกันยังพื้นที่ร่ม และพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ไปเรื่อยเปื่อย ตั้งแต่เรื่องใครผิดลูกผิดเมีย แอบมีกิ๊ก รวมถึงบ้านใครมีหนี้สะสมเท่าไหร่ ซึ่งนายกเทศมนตรีมองว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลาโดยใช้เหตุ แทนที่จะเอาเวลาไปทำอะไรดี ๆ กว่านี้ และมาตรการนี้ก็จะเข้ามาช่วยยกระดับชีวิตคนในเมืองของเขา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 6 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล รายงานว่า ในขณะที่การซุบซิบนินทา เป็นพฤติกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่สำหรับเมืองเล็ก ๆ ของฟิลิปปินส์อย่าง ปินาโลนาน (Binalonan) พฤติกรรมไม่พึงประสงค์อย่างการนินทา จะกลายมาเป็นเรื่องต้องห้ามที่มีความผิดตามกฎหมายท้องถิ่นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข่าวลือต่าง ๆ แพร่กระจายไปทั่วชุมชน
ใครก็ตามที่ฝ่าฝืน จะถูกลงโทษด้วยการปรับเงิน 200 เปโซ (ราว 120 บาท) และต้องไปเก็บขยะบนท้องถนนเป็นเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ และหากมีใครกระทำผิดซ้ำสอง จะได้รับโทษหนักขึ้นทั้งในด้านค่าปรับ รวมถึงต้องไปบริการสาธารณะอีกเป็นเวลา 8 ชั่วโมง
แม้จะไม่มีสิ่งบ่งชี้ชัดเจน ว่าพฤติกรรมใดบ้างที่เข้าข่ายนินทา แต่นายกเทศมนตรีรามิน กุยโซ ชี้ว่า การพูดคุยข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของบุคคลใด ๆ หรือเรื่องการเงินของบุคคลใดก็ตาม ล้วนเข้าข่ายมีความผิดที่จะต้องถูกลงโทษ ทั้งนี้ เพื่อทำให้ชาวเมืองรู้จักรับผิดชอบในทุก ๆ คำพูดที่พวกเขาได้พูดออกไป
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
แม้ว่ากฎหมายนี้จะฟังดูแปลก แต่ก่อนหน้านี้มันก็เคยถูกนำมาบังคับใช้เวลาในเมืองโมเรโน ซึ่งเป็นเมืองข้างเคียงกับเมืองปินาโลนาน ตั้งแต่ปี 2560 โดยพบว่ามีพลเมืองหลายคนที่ถูกโทษปรับ 500 เปโซ (ราว 300 บาท) รวมถึงต้องออกไปเก็บถนนในยามบ่ายของวัน แต่กลับไม่มีใครที่ถูกลงโทษซ้ำในความผิดเดิม เพราะไม่มีใครอยากถูกคนอื่นมองว่าเป็นพวกขี้นินทา
สำหรับมาตรการปราบปรามการแพร่ข่าวลือ จะถูกนำมาใช้เพื่อหยุดข่าวซุบซิบนินทา ที่มีอัตราเพิ่มสูงอย่างมากในช่วงฤดูร้อน ที่คนมากมายมักไปรวมตัวกันยังพื้นที่ร่ม และพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ไปเรื่อยเปื่อย ตั้งแต่เรื่องใครผิดลูกผิดเมีย แอบมีกิ๊ก รวมถึงบ้านใครมีหนี้สะสมเท่าไหร่ ซึ่งนายกเทศมนตรีมองว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลาโดยใช้เหตุ แทนที่จะเอาเวลาไปทำอะไรดี ๆ กว่านี้ และมาตรการนี้ก็จะเข้ามาช่วยยกระดับชีวิตคนในเมืองของเขา
นายกเทศมนตรี ย้ำว่ากฎหมายนี้ไม่ได้ละเมิดเสรีภาพในการพูดของชาวเมืองแต่อย่างใด แค่มุ่งป้องกันชาวเมืองจากการถูกใส่ร้ายป้ายสีเท่านั้น และยังเตือนผู้คนให้สำนึกว่า ทุกอย่างที่เราพูดออกไป ล้วนแต่เป็นความรับผิดชอบของเราทั้งสิ้น และเขาก็หวังว่าเมืองอื่น ๆ จะเห็นว่าเมืองของเขามีแต่คนที่ดี และปลอดภัยที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่