Thailand Web Stat

33 ปีที่เฝ้ารอ... หนุ่มถูกทิ้งในสนามบินตั้งแต่แบเบาะ ในที่สุดก็จะได้เจอผู้ให้กำเนิด

          33 ปีที่เฝ้ารอ จากทารกที่ถูกทิ้งในห้องน้ำสนามบิน ตอนนี้ในที่สุดก็ได้รู้สักที ว่าใครคือพ่อแม่แท้ ๆ เผยเซอร์ไพรส์ได้รู้ว่ามีพี่น้องคนอื่น ๆ แม้ฝ่ายนั้นจะไม่รู้ว่ามีเขาอยู่ในครอบครัวก็ตาม
 

          นับเป็นช่วงเวลาที่ สตีฟ เฮย์เดส ชายหนุ่มวัย 33 ปี เฝ้ารอมาตลอดชีวิต เมื่อในที่สุดเขาก็จะได้พบกับครอบครัวผู้ให้กำเนิด หลังจากที่ถูกแม่นำมาทิ้งไว้ภายในห้องน้ำของสนามบิน เมื่อครั้งที่เขายังเป็นเพียงทารกแรกคลอด ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างไม่รู้ภูมิหลังครอบครัวตัวเองมานานทั้งชีวิต และในวันนี้เองเขาก็จะสามารถบอกเล่าให้ลูก ๆ ของตัวเองได้ฟังแล้วสักที ว่าตัวเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่

          โดยจากรายงานของเว็บไซต์เมโทร วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เผยว่า สตีฟได้กลายมาเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ นับตั้งแต่มีคนเจอเขาถูกทิ้งอยู่ภายในห้องน้ำหญิง ของเทอร์มินอลทางทิศใต้ ในสนามบินลอนดอนแกตวิค เมื่อ 33 ปีก่อน ในตอนนั้นเขายังเป็นเพียงเด็กน้อย ที่คาดว่าน่าจะมีอายุเพียง 10 วันเท่านั้น


          เด็กน้อยอยู่ในสภาพสวมชุดเด็ก มีผ้าห่มห่อตัวไว้อย่างดี อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากไหน พ่อแม่เป็นใคร และเหตุใดจึงถูกนำมาทิ้งไว้ที่นี่ได้ ดังนั้น ท้ายที่สุดแล้วสตีฟจึงถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในระบบอุปถัมภ์ของเด็กกำพร้า ก่อนจะมีคู่สามีภรรยาใจดีรับเขาไปอุปการะเป็นลูกบุญธรรม ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกับพี่น้องผู้หญิงอีก 3 คน

          แม้ว่าเขาจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่การที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นเด็กที่ถูกทิ้งนั้น ก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจของเขา สตีฟ เผยว่า เขาไม่ได้รู้สึกแย่กับผู้ให้กำเนิด เพียงแต่สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเหตุใดพ่อกับแม่แท้ ๆ ถึงเลือกที่จะทอดทิ้งเขาไป


          สตีฟยังจมอยู่กับคำถามนี้มานานแสนนาน จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจออกตามหาพ่อแม่แท้ ๆ เป็นเวลา 15 ปี ที่สตีฟได้ให้ผู้เชี่ยวชาญเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของเขาไว้ เผื่อว่าสักวันจะได้พบกับใครสักคนที่มีดีเอ็นเอตรงกันและน่าจะเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ของเขา นอกจากนี้เขายังเก็บข้าวของทุกอย่างที่ถูกพบพร้อมกับตัวเขา รวมถึงตุ๊กตาหมีมาสคอตของสนามบิน ที่มีคนให้เขาไว้ในตอนนั้นอีกด้วย

          ระหว่างนั้นสตีฟก็ยังคงใช้ชีวิตตามเส้นทางของเขาเรื่อยมา พร้อม ๆ กับการสร้างครอบครัวของตัวเองร่วมกับคนที่รัก ได้มีลูกที่แสนน่ารักกับเธอ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้สตีฟอยากรู้เรื่องราวของตัวเองมากขึ้นไปอีก เพื่อที่เขาจะได้บอกกับลูก ๆ ได้ว่าเขาเองนั้นมีภูมิหลังครอบครัวอย่างไร แล้วพวกเขามีลักษณะใดบนร่างกายที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษบ้าง


          กระทั่งในที่สุด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม สตีฟก็ได้ออกมาประกาศข่าวดี เมื่อเขาได้รับคำยืนยันแล้วว่าใครคือบุคคลปริศนาที่เขาเฝ้าตามหามาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้จะน่าเศร้าที่แม่ผู้ให้กำเนิดเขาเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนที่เขาจะตามหาตัวเธอพบ แต่อย่างน้อยพ่อผู้ให้กำเนิดเขาก็ยังคงมีชีวิตอยู่ แถมสตีฟก็ยังได้รู้ว่าตัวเองมีพี่น้องคนอื่น ๆ ด้วย แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เคยรับรู้การมีอยู่ของสตีฟเลยก็ตาม

          "พวกคุณสามารถจินตนาการได้ ว่ามันเป็นประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหวและใหม่มาก ๆ สำหรับพวกเราทุกคน แต่ผมก็อยากใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณทุกคน สำหรับแรงสนับสนุนตลอดหลายปีที่ผ่านมา"
สตีฟ เผยในเฟซบุ๊กของเขา พร้อมส่งคำขอบคุณไปถึงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโลยีว่าด้วยพันธุศาสตร์เครือญาติ สำหรับความพยายามอย่างหนัก จนสามารถติดตามและยืนยันครอบครัวที่แท้จริงของเขาได้

          แม้การเสียชีวิตของผู้เป็นแม่ อาจทำให้สตีฟไม่สามารถหาคำตอบได้อีก ว่าเหตุใดเธอถึงเลือกที่จะทอดทิ้งเขาไป แต่อย่างน้อยการพบครอบครัวผู้ให้กำเนิด ก็ได้ไขปริศนาในใจของเขาหลายอย่าง รวมถึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของเขา จะช่วยเพิ่มความตระหนักเรื่องการป้องกันไม่ให้มีเด็กคนอื่น ๆ ต้องกลายเป็นเด็กถูกทิ้งเช่นเขาอีก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
33 ปีที่เฝ้ารอ... หนุ่มถูกทิ้งในสนามบินตั้งแต่แบเบาะ ในที่สุดก็จะได้เจอผู้ให้กำเนิด อัปเดตล่าสุด 14 พฤษภาคม 2562 เวลา 10:21:25 53,766 อ่าน
TOP
x close