โซเชียลแห่แชร์คลิป มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ คุยโวชีวิตสมัยเรียน "โหดนะ" มีเรื่องชกต่อยทุกวัน เผยเป็นตัวเปิด เคยต่อยชนะนักมวย นักการเมืองไม่มีใครกล้ายุ่ง
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 หลังเพจเฟซบุ๊ก สื่อออนไลน์ Online Media ได้เผยแพร่คลิปที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เล่าถึงวีรกรรมสมัยเรียนว่า เป็นคนโหด ชกต่อยทุกวัน มีลูกน้องเยอะ เคยชกชนะนักมวย สมัยนั้นไม่มีนักการเมืองคนไหนกล้ายุ่ง แถมมีเพื่อนฆ่าคนตายแล้วหนีคดีอีกด้วย
โดยเนื้อหาในคลิปบางส่วน นายมงคลกิตติ์ เล่าประมาณว่า "ตอนสมัยพี่หนุ่ม ๆ พี่เป็นคนไม่ค่อยใช้ลูกน้องนะ พี่ลงมือเอง เพราะลูกน้องโหดไม่เท่าพี่ พี่ลงมือเองหมด ตอนสมัยเรียนเทคนิคไทย-เยอรมัน ลงมือเองทั้งหมด ซึ่งตอนสมัยเรียนมีเรื่องชกต่อยทุกวันเป็นอาชีพ พี่ชนะห้องนี้แล้ว ก็จะไปชนะห้องอื่นต่อ ปกติแล้วพี่จะมีเรื่องกันแถว ๆ ตีนสะพานพระราม 7 พี่ก็จะนัดไปต่อยกันทุกวัน
นอกจากนี้ มีเรื่องกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สมัยเรียน ร.ด. ปี 1 มีเรื่องกับโรงเรียนมัธยม พี่ไปประมาณ 30 ฝั่งนู้นไปประมาณ 60 พี่เป็นคนเปิดทั้งหมด ส่วนเรื่องตีรันฟันแทงกันที่อาร์ซีเอ และหลาย ๆ ที่ ส่วนใหญ่พี่เป็นคนลงมือเองหมด เพื่อนพี่ตอนนี้หนีไปอยู่เกาะกง เพราะไปแทงรุ่นพี่ตาย ที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือเขาปิดข่าวกัน
ปกติใครมีเรื่องกันที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ จะต้องมาหาพี่ก่อน เพราะพี่จะรู้ทุกซุ้มว่าเป็นซุ้มของใคร ตอนนั้นพี่เป็นประธานชมรมเพาะกาย มีพวกห่าม ๆ เป็นสมาชิกอยู่ราว 5,000 คน พี่ไม่ใช่คนติ๋ม ไปถามเพื่อนพี่ได้ที่จบวิศวะรุ่นเดียวกัน ไปถามได้ว่าพี่โหดขนาดไหน นักการเมืองไม่กล้ายุ่งกับพี่แล้วกัน
เมื่อก่อนนี้พี่ต่อยกับนักมวย แล้วนักมวยแพ้พี่ พี่ไม่ฆ่ามันก็ดีแล้ว ตอนสมัยพี่อายุ 16 พี่รับรองว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนเหี้ยมเท่าพี่แล้วกัน"
นอกจากนี้ khaochad News ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ นายมงคลกิตติ์ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับประเด็นภาพเก่าสมัยเรียนพระจอมเกล้า ที่เพจดังนำมาเผยแพร่โจมตี ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นภาพจริงสมัยตนเองเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง เมื่อปี 2544 โดยนายมงคลกิตติ์ได้เล่าย้ำว่า ช่วงชีวิตที่เรียนอยู่ที่นั่น ตนได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง มีเรื่องตีกันทุกวัน ตนเป็นประธานชมรมเพาะกาย ที่มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นขาโจ๋ ทำให้เวลามีเรื่องอะไรกัน ตนจะเป็นคนเคลียร์ให้ตลอด เพราะทุกคนเกรงใจตน อารมณ์ประมาณว่า ถ้าเฮียเต้เคลียร์ คือจบ !
อย่างไรก็ตาม ด้านความคิดเห็นชาวเน็ต ต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริง และหลายคนรู้สึกไม่พอใจที่นำชื่อสถาบันมาอวดอ้าง เพราะอาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้
