x close

เมียหวั่นผัวนอกใจ แอบเช็กคอมพิวเตอร์ จนพบความจริงสุดช็อกในแชตลับ เขามีแผนฆ่าเธอ

        เมียช็อก คิดว่าผัวนอกใจเลยแอบส่องคอมพิวเตอร์ ไม่คิดจะได้เห็นเขาวางแผนลักพาตัว ฆ่ากินเนื้อผู้หญิงจำนวนมาก รวมถึงตัวเธอด้วย โร่แจ้งความจับเขาเข้าคุก แม้ฝ่ายผัวอ้างเป็นแค่จินตนาการ

ผัวนอกใจ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

        วันที่ 14 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานกรณีของ นายกิลเบิร์ต วัลเล ชายวัย 34 ปี อดีตตำรวจซึ่งถูกสื่อขนานนามว่าเป็น "ตำรวจกินเนื้อคน" ในเหตุอื้อฉาวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีต หลังภรรยาของเขาแอบไปเช็กคอมพิวเตอร์ที่บ้านเพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังนอกใจ แต่กลับพบความจริงอันน่าสะพรึง ว่าเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่คลั่งไคล้เรื่องการกินเนื้อคน และได้มีการวางแผนเพื่อจะลักพาตัว ฆ่า และกินเนื้อเหยื่อที่เป็นผู้หญิงกว่า 100 คน รวมถึงตัวเธอเอง

        ย้อนกลับไปเมื่อปี 2555 ขณะที่กิลเบิร์ตยังทำงานเป็นตำรวจประจำกรมตำรวจนิวยอร์ก เขาได้แอบซ่อนความคลั่งไคล้แบบแปลก ๆ ของตัวเองไว้ และได้ใช้พื้นที่ออนไลน์บนเว็บไซต์ที่รวบรวมเหล่าคนที่มีรสนิยมแบบเดียวกัน เป็นที่ระบายความคิดจินตนาการอันสุดโต่งของตัวเอง เขาพูดคุยและมโนเรื่องราวการได้ฆ่ารวมถึงกินเนื้อหญิงสาว แม้จะยังไม่เคยลงมือทำในความเป็นจริงก็ตาม

        แต่ด้วยความที่เขามักจะใช้คอมพิวเตอร์ช่วงดึก ๆ เป็นประจำ จึงเป็นเหตุให้ แคธลีน แมนแกน ซึ่งเป็นภรรยาของเขาในตอนนั้น เริ่มสงสัยพฤติกรรมแปลก ๆ ของสามี

        เธอแอบลงโปรแกรมสปายแวร์ เพื่อจะติดตามดูว่าเขาได้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อนอกใจเธอหรือไม่ แต่สิ่งที่เธอพบกลับเป็นความจริงว่าสามีมักจะเข้าไปในเว็บไซต์ของกลุ่มคนที่มีรสนิยมเฉพาะทาง แถมเธอยังพบแชตกลุ่มที่สามีได้แอบวางแผนจะลักพาตัว ทารุณหญิงสาวมากมาย โดยที่เธอเองก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของเขา

        โดยข้อมูลจากนิวยอร์กโพสต์ ได้เผยถึงหนึ่งในข้อความที่กิลเบิร์ตยอมรับว่าเป็นคนเขียนในแชตกลุ่มจริง นั่นคือ... "ผมคิดถึงภาพการมัดร่างของเธอไว้ด้วยอุปกรณ์บางอย่าง จับเธอไปอบในความร้อนต่ำ ทำให้เธอมีชีวิตอยู่นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" ซึ่งเมื่อเพื่อนในกลุ่มถามกลับมาว่าจะต้องใช้เตาใหญ่ขนาดไหน กิลเบิร์ตก็ตอบว่า "ใหญ่พอสำหรับสาว ๆ หนึ่งในนั้น ถ้าฉันพับขาของพวกหล่อน"

        นอกจากนี้ภายในแชตกลุ่ม กิลเบิร์ตยังได้เผยอีกว่า เขาอยากที่จะทำร้ายทารุณภรรยาของตัวเอง ทำให้เธอมีเลือดออกจากแผลที่ศีรษะ และได้ฟังเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเธอ

        การค้นพบอันน่าสะพรึงกลัวทำให้แคธลีนช็อกหนัก เธอรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งผิดหวังและร้องไห้ไม่หยุดเมื่อได้เห็นสิ่งที่สามีวางแผนจะทำ แม้ว่ากิลเบิร์ตจะพยายามอ้างว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดจะทำจริง ๆ แต่เธอก็ไม่เชื่อ และแคธลีนก็ตัดสินใจแจ้งเรื่องดังกล่าวกับตำรวจ นำไปสู่การจับกุมตัวกิลเบิร์ตในเวลาต่อมา และหน่วยงานต้นสังกัดก็มีคำสั่งไล่เขาออกจากการเป็นตำรวจ

        ในช่วงเวลานั้นแคธลีนได้พาลูกสาวหนีออกไปจากบ้าน จนกระทั่งตอนที่กิลเบิร์ตถูกศาลตัดสินให้มีความผิดในข้อหาสมคบคิดเพื่อการลักพาตัว และต้องรับโทษจำคุก แคธลีนก็ได้ส่งเอกสารมาขอหย่าพร้อมขอให้ตัวเองได้รับสิทธิการเลี้ยงลูกเพียงคนเดียว ซึ่งในตอนนั้นกิลเบิร์ตก็ยอมยกสิทธิการเลี้ยงดูลูกให้เธอแต่โดยดี เพราะเขาจำต้องมุ่งไปที่การต่อสู้คดีของตัวเอง

        อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในคุกนาน 21 เดือน ผู้พิพากษาก็ได้พลิกคำตัดสินคดี ให้กิลเบิร์ตพ้นผิดจากข้อกล่าวหา โดยระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงเรื่องจินตนาการของเขาเท่านั้น

        ทั้งนี้ หลังจากพ้นคุกมาได้ กิลเบิร์ตก็ต้องเริ่มสร้างชีวิตใหม่ท่ามกลางข่าวฉาวที่ยังคงติดตัวเขา โดยเขาได้ทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง พร้อม ๆ กับมองหาความรักครั้งใหม่ นอกจากนี้เขายังพยายามที่จะยื่นขอสิทธิการเลี้ยงดูลูกสาวร่วมกับภรรยา โดยหวังว่าจะสามารถเห็นหน้าลูกอีกสักครั้งในชีวิต โดยเขาอ้างว่าตัวเองได้เห็นหน้าลูกครั้งสุดท้ายตอนที่เธออายุเพียง 11 เดือนเท่านั้น แต่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธอมีหน้าตาเช่นไร เขาอยากจะทำหน้าที่พ่อและสร้างความสัมพันธ์กับลูกขึ้นใหม่

        อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายแคธลีนก็ไม่ยอมง่าย ๆ เธอว่าจ้างทนายมาช่วยในการต่อสู้เรื่องดังกล่าว เพราะเธอกลัวเหลือเกินว่าอดีตอันมืดดำและความคลั่งไคล้แบบแปลก ๆ ของอดีตสามี จะทำให้ลูกสาวอยู่ในอันตราย ซึ่งท้ายที่สุดแล้วกิลเบิร์ตก็ต้องยอมถอย เมื่อศาลสั่งให้เขาเป็นฝ่ายจ่ายค่าทนายแก่อดีตภรรยา ซึ่งคิดเป็นเงินมากถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.5 ล้านบาท)

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมียหวั่นผัวนอกใจ แอบเช็กคอมพิวเตอร์ จนพบความจริงสุดช็อกในแชตลับ เขามีแผนฆ่าเธอ อัปเดตล่าสุด 22 พฤษภาคม 2562 เวลา 17:16:01 29,081 อ่าน
TOP