พ่อปากีสถานใจสลาย ลูกสาว 10 ขวบถูกลักพาตัว-ฆ่าข่มขืน ฝ่ายตำรวจเมินไม่ยอมทำคดี แถมอ้างเด็กอาจจะหนีตามคนร้ายไปก็ได้ สุดท้ายเด็กกลายเป็นศพ จุดกระแสโกรธแค้น ประท้วงกลางเมือง
วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล และสำนักข่าวบีบีซี มีรายงานคดีสลดที่เกิดขึ้นในกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อเด็กหญิงวัยเพียง 10 ขวบ ได้กลายมาเป็นเหยื่อล่าสุดของคดีความรุนแรงทางเพศ จากการถูกคนร้ายลักพาตัวไปล่วงละเมิดทางเพศ และฆ่าปิดปาก นำร่างมาทิ้งไว้ยังพื้นที่ป่า โดยพ่อของเหยื่ออ้างว่าสภาพศพของลูกเผยให้เห็นว่ามีร่อยรอยการทรมาน และสาดน้ำกรดใส่
รายงานเผยว่า เด็กหญิงหายตัวไปในวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังออกจากบ้านไปเล่นกับเพื่อน แต่กลับไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลยหลังจากนั้น แม้ว่าจะถึงเวลาที่ครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อทานอาหารในช่วงค่ำหลังอาทิตย์ตก เด็กหญิงก็ยังไม่กลับมา ครอบครัวที่เป็นกังวลได้ออกไปเที่ยวถามหาเธอจากเพื่อนบ้านและเพื่อน ๆ ก่อนจะเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม กุล นาบิ พ่อของเด็กหญิงชี้ว่า ทางตำรวจเมินเฉยพวกเขาอย่างสิ้นเชิง นอกจากจะไม่รับแจ้งความเรื่องเด็กหายแล้ว ทางตำรวจยังบอกพ่อของเด็กอีกว่า เด็กอาจจะหนีตามใครสักคนไปด้วยความต้องการของตัวเองก็เป็นได้
"ตำรวจไม่ได้ช่วยอะไรเราแลย พวกเขายังใช้ผมให้ไปทำความสะอาดโรงพัก ใช้ให้ไปย้ายเฟอร์นิเจอร์ แถมยังไปเอาผลไม้ที่เป็นมื้ออิฟตาร์จากตลาดมาให้ด้วย มันทำให้ผมรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก" พ่อของเด็กหญิง กล่าว
ครอบครัวของเด็กหญิงพยายามแจ้งความขอให้ตำรวจออกไปตามหาลูกอีกหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่คิดจะดำเนินการอะไรจริงจัง กระทั่งเรื่องรู้ไปถึงหูนักการเมืองท้องถิ่น ทางตำรวจจึงเพิ่งรับแจ้งความและสอบสวนคดีนี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤษภาคม ทว่าทุกอย่างดูจะสายเกินไป ศพของเด็กหญิงถูกพบในป่าตอนวันต่อมา (20 พฤษภาคม)
เรื่องดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นอย่างมากแก่คนในสังคม กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนซึ่งนำโดยครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิต ได้ออกมารวมตัวกันประท้วงกลางกรุงอิสลามาบัด เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาว เช่นเดียวกับที่สื่อโซเชียลมีการพูดถึงเรื่องนี้ในวงกว้าง
ทั้งนี้ ขณะนี้โมฮัมหมัด อับบาส หัวหน้าตำรวจในกรุงอิสลามาบัด ได้ถูกสั่งพักงาน จากความล้มเหลวในการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม โมฮัมหมัดยังคงปกป้องตัวเองกับลูกน้อง โดยอ้างว่าเขาได้เข้าไปสอบปากคำครอบครัวของเด็กกับเพื่อนบ้านแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม และยังโทษว่าเป็นความผิดของครอบครัวที่มาแจ้งความช้า พร้อมปฏิเสธอเรื่องที่พ่อเด็กบอกว่า ตำรวจสั่งให้พวกเขาทำความสะอาดโรงพักให้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คดีดังกล่าวได้ทราบถึงผู้บริหารประเทศแล้ว โดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของปากีสถาน ได้มีคำสั่งให้ทางตำรวจท้องถิ่นดำเนินคดีต่อคนร้ายอย่างรัดกุม และยืนยันว่าขณะนี้ได้มีการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
ในขณะที่มีรายงานว่า ทางตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน ที่น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงการหายตัวไปของเด็กหญิง แต่ก็ยังไม่มีรายงานยืนยันอะไรเพิ่มเติม ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงต่างเห็นพ้องว่า เด็กหญิงอาจจะไม่ต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ หากทางตำรวจเข้ามาติดตามคดีอย่างจริงจังตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ คดีอาชญากรรมต่อเด็กกลายมาเป็นเหตุที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปากีสถาน ขณะที่คนร้ายส่วนมากมักจะลอยนวลได้โดยไม่ได้รับการลงโทษ ซึ่งก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่ากระแสกดดันจากสังคม จะสามารถทวงคืนความยุติธรรมแก่เด็กหญิงที่ตายไปในครั้งนี้ได้หรือไม่
วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล และสำนักข่าวบีบีซี มีรายงานคดีสลดที่เกิดขึ้นในกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อเด็กหญิงวัยเพียง 10 ขวบ ได้กลายมาเป็นเหยื่อล่าสุดของคดีความรุนแรงทางเพศ จากการถูกคนร้ายลักพาตัวไปล่วงละเมิดทางเพศ และฆ่าปิดปาก นำร่างมาทิ้งไว้ยังพื้นที่ป่า โดยพ่อของเหยื่ออ้างว่าสภาพศพของลูกเผยให้เห็นว่ามีร่อยรอยการทรมาน และสาดน้ำกรดใส่
รายงานเผยว่า เด็กหญิงหายตัวไปในวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังออกจากบ้านไปเล่นกับเพื่อน แต่กลับไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลยหลังจากนั้น แม้ว่าจะถึงเวลาที่ครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อทานอาหารในช่วงค่ำหลังอาทิตย์ตก เด็กหญิงก็ยังไม่กลับมา ครอบครัวที่เป็นกังวลได้ออกไปเที่ยวถามหาเธอจากเพื่อนบ้านและเพื่อน ๆ ก่อนจะเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม กุล นาบิ พ่อของเด็กหญิงชี้ว่า ทางตำรวจเมินเฉยพวกเขาอย่างสิ้นเชิง นอกจากจะไม่รับแจ้งความเรื่องเด็กหายแล้ว ทางตำรวจยังบอกพ่อของเด็กอีกว่า เด็กอาจจะหนีตามใครสักคนไปด้วยความต้องการของตัวเองก็เป็นได้
"ตำรวจไม่ได้ช่วยอะไรเราแลย พวกเขายังใช้ผมให้ไปทำความสะอาดโรงพัก ใช้ให้ไปย้ายเฟอร์นิเจอร์ แถมยังไปเอาผลไม้ที่เป็นมื้ออิฟตาร์จากตลาดมาให้ด้วย มันทำให้ผมรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก" พ่อของเด็กหญิง กล่าว
ครอบครัวของเด็กหญิงพยายามแจ้งความขอให้ตำรวจออกไปตามหาลูกอีกหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่คิดจะดำเนินการอะไรจริงจัง กระทั่งเรื่องรู้ไปถึงหูนักการเมืองท้องถิ่น ทางตำรวจจึงเพิ่งรับแจ้งความและสอบสวนคดีนี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤษภาคม ทว่าทุกอย่างดูจะสายเกินไป ศพของเด็กหญิงถูกพบในป่าตอนวันต่อมา (20 พฤษภาคม)
เรื่องดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นอย่างมากแก่คนในสังคม กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนซึ่งนำโดยครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิต ได้ออกมารวมตัวกันประท้วงกลางกรุงอิสลามาบัด เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาว เช่นเดียวกับที่สื่อโซเชียลมีการพูดถึงเรื่องนี้ในวงกว้าง
ทั้งนี้ ขณะนี้โมฮัมหมัด อับบาส หัวหน้าตำรวจในกรุงอิสลามาบัด ได้ถูกสั่งพักงาน จากความล้มเหลวในการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม โมฮัมหมัดยังคงปกป้องตัวเองกับลูกน้อง โดยอ้างว่าเขาได้เข้าไปสอบปากคำครอบครัวของเด็กกับเพื่อนบ้านแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม และยังโทษว่าเป็นความผิดของครอบครัวที่มาแจ้งความช้า พร้อมปฏิเสธอเรื่องที่พ่อเด็กบอกว่า ตำรวจสั่งให้พวกเขาทำความสะอาดโรงพักให้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คดีดังกล่าวได้ทราบถึงผู้บริหารประเทศแล้ว โดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของปากีสถาน ได้มีคำสั่งให้ทางตำรวจท้องถิ่นดำเนินคดีต่อคนร้ายอย่างรัดกุม และยืนยันว่าขณะนี้ได้มีการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
ในขณะที่มีรายงานว่า ทางตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน ที่น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงการหายตัวไปของเด็กหญิง แต่ก็ยังไม่มีรายงานยืนยันอะไรเพิ่มเติม ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงต่างเห็นพ้องว่า เด็กหญิงอาจจะไม่ต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ หากทางตำรวจเข้ามาติดตามคดีอย่างจริงจังตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ คดีอาชญากรรมต่อเด็กกลายมาเป็นเหตุที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปากีสถาน ขณะที่คนร้ายส่วนมากมักจะลอยนวลได้โดยไม่ได้รับการลงโทษ ซึ่งก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่ากระแสกดดันจากสังคม จะสามารถทวงคืนความยุติธรรมแก่เด็กหญิงที่ตายไปในครั้งนี้ได้หรือไม่
