ธนาธร สงสัย กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลให้ตัดสินก่อน แล้วข้อเท็จจริงค่อยตามมา ได้หรือ ?

          ธนาธร สุดสงสัย กกต. ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตัดสินไปก่อน แล้วค่อยสืบสวนทีหลัง ทำแบบนี้ก็ได้หรือ ก่อนถามกลับพฤติการณ์ของ กกต. ขัดต่อกฎหมายใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่
          วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความสงสัยเกี่ยวกับพฤติการณ์ของ กกต. จากกรณีปมถือหุ้นวี-ลัค มีเดีย ที่ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตัดสินตนเองไปก่อน แล้วค่อยมาสืบสวนข้อเท็จจริงทำสำนวนทีหลัง ว่าทำแบบนี้ก็ได้หรือ

          โดยนายธนาธร เปิดเผยว่า วานนี้ (22 พฤษภาคม) พยานของตน 2 คน ในการโอนหุ้นวี-ลัค ได้รับจดหมายหนังสือเชิญไปให้ถ้อยคำ ฉบับลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 จากคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ซึ่งเป็นจดหมายชุดเดียวกับที่ตนได้ไปให้ถ้อยคำกับ อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล เมื่อวันที่ 30 เมษายน และจดหมายดังกล่าว เพิ่งถูกจัดส่งมาถึงพยานของตน เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
          อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ชุดนี้ เป็นคณะกรรมการที่ทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงหลังแจ้งข้อกล่าวหาให้ยุติ จึงจะเสนอต่อคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้อง เมื่อคณะอนุกรรมการลงมติให้ความเห็นเกี่ยวกับคำร้องแล้ว กระบวนการสุดท้าย สำนวนคำร้องจึงจะไปอยู่ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่าจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ต่อไป

          ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กกต. ได้ยื่นคำร้องคดีนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่การสืบสวนไต่สวนข้อเท็จจริงตามสำนวนคำร้องนี้ยังไม่เสร็จสิ้น หลังจาก กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพิ่งจะเรียกพยานของตนไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสืบสวนฯ ทั้ง ๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาความสมบูรณ์ของการโอนหุ้น
          นอกจากนี้ คำร้องที่ กกต. ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ยังไม่ยุติในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนฯ ยังเรียกสอบพยานอยู่ แต่ กกต. ชุดใหญ่ ลงมติและยื่นคำร้องต่อศาลไปก่อน และมีข่าวว่าวันนี้ (23 พฤษภาคม) ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติเกี่ยวกับการรับคำร้องหรือไม่รับคำร้องที่ยังไม่เสร็จของ กกต. ในคดีนี้

          ทั้งนี้ นายธนาธร กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ 8 มกราคม ตนกลับจากบุรีรัมย์ มากรุงเทพฯ ก็โดนใบสั่งอยู่หลายใบ และหลายท่านแซวกันว่า คนขับรถของตนรีบซิ่งจนเกินไปแล้ว แต่เมื่อเจอกรณีนี้ของ กกต. แล้ว การเหยียบซิ่งของคนขับรถของตนกลายเป็นเต่าคลานไปเลย และยังบอกอีกว่า กกต. ท่านไวกว่า ท่านยิงไนตรัสด้วย จะรีบไปไหน งานนี้ กกต. ไม่โดนใบสั่งก็จริง และพฤติการณ์ของ กกต. อาจไม่ขัด พ.ร.บ.จราจรทางบก แต่อาจขัดกับประมวลกฎหมายอาญา ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ เรื่องนี้น่าครุ่นคิด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ